ธนาคาร Industrial & Commercial Bank of China (ICBC) กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและ
ตลาดหลักทรัพย์เซียงไฮ้พร้อมๆกัน (Dual Listing) โดยธนาคารแห่งนี้เสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นมูลค่าประมาณ
1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ คิดเป็นมูลค่า 7.2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดใน
ประวัติศาสตร์
การกระจายหุ้น IPO ขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชีย
(Emerging Market ได้แก่ เกาหลี ไต้หวัน จีน อินเดีย ไทย) มีมูลค่าตลาดเพิ่มสูงขึ้น 233% จากประมาณ 2.8 แสน
ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นประมาณ 9.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะประเทศจีนมีมูลค่าการระดมทุนปีละ
ประมาณ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มูลค่าตลาดของตลาดหลักทรัพย์ของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 282%
ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ของไทยมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 135% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 233%
นอกจากนี้การเข้ามาจดทะเบียนของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่จากจีนที่สูงมากกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
เอเชีย ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงในดัชนีอ้างอิง MSCI เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆใน
ภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่มีบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่เข้ามาน้อยกว่า ส่งผลให้น้ำหนักของดัชนีตลาด
หุ้นไทยในดัชนี MSCI (EM Asia) ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องจาก 5% เหลือ 3.5% นอกจากนี้
การกระจายหุ้น IPO ขนาดใหญ่จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงและผันผวนอย่างรุนแรง พิจารณาได้
จากการเข้ามาจดทะเบียนของหุ้นธนาคารพาณิชย์ 2 แห่งในปีที่ผ่านมา ได้แก่ China Construction Bank และ
Bank of China ซึ่งมีมูลค่า 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 9.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ ซึ่งในช่วงที่เข้าจด
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของจีน มีผลทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ปรับลดลง 2.51% และ 10.49%
ตามลำดับ สอดคล้องกับที่มูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศในระหว่าง 2 สัปดาห์ก่อนขายหุ้น IPO โดย
นักลงทุนขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยรวมมูลค่าหุ้นสุทธิ 200 ? 450 ล้านเหรียญสหรัฐ

หุ้นธนาคาร Industrial & Commercial Bank of China (ICBC) มีแผนที่จะเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนใน
ประเทศจีนรวม 1.3 หมื่นล้านหุ้น และอีก 3.5 หมื่นล้านหุ้น ให้กับนักลงทุนในประเทศฮ่องกง และจะเริ่มจัด
จำหน่ายหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในระหว่างวันที่ 16 ? 19 ต.ค. โดยธนาคารจะมีประกาศราคา
IPO ในวันที่ 13 ต.ค.
? ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้เปิดเผยว่าผู้บริหารของ ICBC ได้ตกลงที่จะขายหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันแล้ว
12 แห่ง รวมกันเป็นมูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.33 แสนล้านบาท โดยที่ China Life Group
เป็นกลุ่มนักลงทุนที่แสดงความต้องการซื้อหุ้นมากที่สุด มูลค่าประมาณ 847 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับที่ 2 คือ
Kuwait Investment มูลค่าประมาณ 719 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Hutchison Whampoa อีกทั้ง Kuwait
Investment Authority ที่ต้องการจองซื้อหุ้นรายละมูลค่า 206 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมเป็นเงิน 1.98 พันล้าน
เหรียญสหรัฐ
? คาดว่าการกระจายหุ้น ICBC มูลค่ารวม 7.2 แสนล้านบาทจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้น
ออกมาในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม โดยจะมีมูลค่าขายสุทธิประมาณ 1.5-2.0 หมื่นล้านบาท และ
อาจส่งผลให้ดัชนี โดยเฉพาะราคาหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง ทั้งนี้จากภาวการณ์ลงทุนที่มีความเปราะบาง
จากปัจจัยทางการเมืองอาจส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงจากระดับปัจจุบันได้ถึง 5% หรือปรับตัวลดลงต่อกว่าระดับ
650 จุดได้ อย่างไรก็ตามทิศทางของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง อัตราเงินเฟ้อของ
ดอกเบี้ยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกัน ความมั่นใจของผู้บริโภคและนักลงทุนที่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้เศรษฐกิจในปี
2550 ฟื้นตัวดีขึ้น ณ. ระดับดัชนีที่จะปรับตัวลดลงจะเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนจะกลับเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะ
หุ้นกลุ่มธนาคาร

SCIBS [/color:1222660f37">