May 4, 2024   3:10:58 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 5 โบรกฯแนะ"ซื้อ"BANPU
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 04/10/2006 @ 13:50:43
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกเกอร์แนะนำซื้อหุ้นบมจ.บ้านปู(BANPU) มองแนวโน้มราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นอีก หลังข่าวดีปรากฎทั้งเหมืองทรูบาอินโดไม่ถูกปิดหลังผลตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ปล่อยจากเหมืองไม่พบกรดอันตราย รวมทั้งรัฐบาลอินโดนีเซียยกเลิกเก็บภาษีส่งออกถ่านหิน และบริษัทยังมีโอกาสได้รับคืนภาษีย้อนหลัง

ประกอบกับคาดว่ากำไรสุทธิในงวดครึ่งหลังปี 49 ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากยอดขายถ่านหินเพิ่มขึ้น แม้ราคาถ่านหินที่มีแนวโน้มปรับลดลงช่วงนี้ แต่บริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้แล้วเกือบหมดที่ 35-36 เหรียญ/ต้น จึงไม่น่ากังวล รวมทั้งมีรายได้จากโรงไฟฟ้า BLCP ที่เริ่มเดินเครื่องในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ รวมทั้งแนวโน้มกำไรจากการขายหุ้น ATC


โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.กิมเอ็งฯ ซื้อลงทุน 156
บล.เกียรนาคิน ซื้อ 158
บล.ซีมิโก้ ซื้อ 189
บล.นครหลวงไทย ซื้อ 165.40
บล.เคจีไอ ซื้อ 188

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจัยลบของ BANPU หมดไป หลังจากบริษัทได้แจ้งผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำจากเหมืองทรูบาอินโดที่อินโดนีเซีย ถือว่าเป็นข่าวดีเพราะไม่มีความเสี่ยงที่จะปิดเหมือง โดยเหมืองแห่งนี้ค่อนข้างใหญ่ คิดเป็นประมาณ 20% ของปริมาณการผลิตถ่านหินของ BANPU ถ้าไม่มีความเสี่ยงตรงนี้ก็คิดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ และโรงไฟฟ้า BLCP ก็จะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/49 น่าจะทำส่วนแบ่งกำไรให้กับ BANPU ได้

คาดว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากปริมาณการจำหน่ายถ่านหินสูงขึ้น กำไรพิเศษจากการขายหุ้น ATC ได้ในราคาที่สูง มีส่วนแบ่งกำไรที่จะได้จากโรงไฟฟ้า BLCP เข้ามาด้วยและได้รับยกเว้นภาษีจากอินโด 5% โดยรวมน่าจะทำให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งแรกนายกิติชาญ กล่าว
ส่วนแนวโน้มราคาถ่านหินน่าจะยังอ่อนตัวแต่จะอยู่ในระดับที่ผู้บริหารบริษัทคาดการณ์ไว้ แต่ราคาจำหน่ายถ่านหินของบ้านปูในปีนี้ Fixed ไว้หมดแล้วที่ 36 เหรียญสหรัฐ/ตัน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

นายเบญจพล สุทธิ์วณิช เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ผลประกอบการในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะถ่านหินที่ขายออกในครึ่งปีแรกส่วนใหญ่เป็นถ่านหินต้นทุนสูงและออเดอร์การขายก็ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งยังเหลือถ่านหินที่จะต้องขายในครึ่งปีหลังอีกค่อนข้างมาก ยังเชื่อว่า BANPU จะทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 21 ล้านตันในปีนี้

ในส่วนของราคาขายแม้ว่า Index ราคาถ่านหินจะปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะกระทบราคาขายเฉลี่ยของ BANPU เพราะส่วนใหญ่ได้ทำสัญญาล่วงหน้าไว้ 98% แล้ว

ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้า BLCP จะ เริ่มเดินเครื่องได้ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ก็จะมีรายได้จาก BLCP เข้ามาเสริม โดยจะสร้างรายได้ประมาณ 300-400 ล้านบาทในปีนี้ และปีหน้าจะสร้างรายได้เข้ามา 2 พันล้านบาท

ในปีหน้ามองราคาถ่านหินทรงตัว แต่จะมี BLCP เข้ามาเสริมกำไรให้กับบ้านปู คาดว่าทั้งปีหน้าจะทำให้มีกำไร 2,000 ล้านบาทที่จะเข้ามาใน BANPU จึงมองเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ปีหน้าจะมีการเติบโตของผลประกอบการค่อนข้างจะเด่นชัดเมื่อเทียบกับปี 49 นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากการได้รับยกเว้นภาษีนายเบญจพล กล่าว

นายธีรภัทร เมธานุเคราะห์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า พื้นฐานบริษัทดีขึ้นจากการได้รับยกเว้นภาษีจากรัฐบาลอินโดนีเซียช่วยให้กำไรโตขึ้นมากจากเดิม แต่ตอนนี้ยังประเด็นราคาถ่านหินที่ปรับลงถ่วงอยู่ เนื่องจากราคาถ่านหินที่ปรับลงจะมีผลต่อสัญญาล่วงหน้าเช่นกันแต่เชื่อว่าไม่น่าจะลงถึงปีที่แล้ว โดยราคาขายเฉลี่ยปีนี้ BANPU ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้ที่ประมาณ 35 เหรียญสหรัฐต่อตัน

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะธุรกิจถ่านหินน่าจะดีขึ้น โดยครึ่งปีหลังยอดขายน่าจะอยู่ที่ 11 ล้านตันเพิ่มขึ้น 10% จากครึ่งปีแรก และเรื่องรัฐบาลอินโดนีเซียยกเลิกภาษีส่งออกถ่านหินเป็นผลบวกจะทำให้ BANPU ไม่ต้องเสียภาษีประมาณ 200 กว่าล้านบาทในปีนี้

ราคาที่เทรดตอนนี้ยังซื้อได้ ราคาถ่านหินในตลาดโลกอาจจะไม่ค่อยดีแต่ BANPU ได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไปแล้ว นักวิเคราะห์จากบล.นครหลวงไทยกล่าว

บทวิเคราะห์ของบล.เคจีไอ ระบุว่า อีกไม่นานราคาหุ้นจะปรับตัวตามข่าวดีที่เกิดขึ้น จากกำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ แม้ตลาดยังคงมีความกังวลราคาถ่านหินที่ปรับลดลง แต่มองว่าเป็นผลของฤดูกาลและได้รวมอยู่ในประมาณการแล้ว ทั้งนี้ ราคาถ่านหินยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่แล้วจากเดิมที่ 52-53 เหรียญสหรัฐต่อตัน มาอยู่ที่ 46.5 เหรียญสหรัฐต่อตัน

และข่าวที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ยกเลิกภาษีส่งออกถ่านหินในกลางเดือนกันยายนยังไม่สะท้อนในราคาหุ้น โดยการยกเลิกภาษีในครั้งนี้ทำให้สามารถลดต้นทุนลงได้ประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปี หรือมีผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 20 บาทต่อหุ้น

ประกอบกับในระยะสั้นราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นผลบวกมากกว่าผลลบ แม้จะมีความเชื่อว่าราคาถ่านหินนั้นเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกับราคาน้ำมัน แต่พื้นฐานใน 2 ตลาดนี้มีความแตกต่างกัน ในระยะสั้นถึงกลางราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนไปใช้ถ่านหินมากขึ้น

และราคาน้ำมันดีเซลคิดเป็น 25% ของต้นทุนเหมือง คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง 10% ทำให้ต้นทุนของ BANPU ลดลง 5 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งจะช่วยให้กำไรสุทธิก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 100 ล้านบาทต่อไตรมาส

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com