ซื้อ SATTEL เป้าหมาย 16 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด แนะนำ ซื้อ SATTEL บริษัทได้ปลดระวางไทยคม 3 ก่อนกำหนดเดิมที่คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ถึงสิ้นปี 2550 เนื่องจากระบบพลังงานของดาวเทียมไม่เพียงพอต่อการให้บริการ อย่างไรก็ตาม การ

ดำเนินการดังกล่าวไม่มีผลกระทบใดๆต่อลูกค้าในปัจจุบัน เนื่องจากได้ย้ายลูกค้าทั้งหมดมาอยู่ที่ดาวเทียมไทยคม 5 ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2549 ที่ผ่านมา โดยดาวเทียมไทยคม 3 ก่อนการปลดระวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปให้บริการแก่ลูกค้าในแถบตะวันออกกลางในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 1 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตามการปลดระวางไทยคม 3 ไม่ถือเป็นปัจจัยลบในมุมมองของฝ่ายวิจัย เนื่องจากรายได้จากไทยคม 3ไม่ได้มีสาระสำคัญต่อมูลค่าของ SATTEL ในทางกลับกันต้นทุนค่าเสื่อมราคาในปี 2550 ที่ลดลงส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น และช่วยให้ภายรวมงบกำไรขาดทุนของ SATTEL ดูดีขึ้น ฝ่ายวิจัยจึงคงคำแนะนำ ซื้อ มูลค่าเหมาะสมเดิมที่ 16.00 บาท (ประเมินโดยวิธี Sum of the parts)

ซื้อ HMPRO เป้าหมาย 9.32 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ HMPRO หากเพิ่มทุนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ จะได้รับเงินเข้ามา 955 ล้านบาท ประโยชน์ที่ได้รับคือจะสามารถขยายสาขาได้ไปถึงปี 2552 จำนวนสาขาจะเพิ่มขึ้นถึง 40 สาขา จากปัจจุบันที่ 24 สาขา นอกจากนี้ฐานะการเงินของบริษัทจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งไม่ต้องผิดข้อกำหนดจากเจ้าหนี้ ในเรื่องอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ระดับที่เกินกว่าข้อกำหนดของเงินกู้ในปีหน้า ข่าวดีอีกประการหนึ่งคือ อัตราการเติบโตของจำนวนสาขาเท่าเดิม (same-store sales growth) ในไตรมาส 3/2549 เป็นบวกแล้ว หลังจากติดลบมา 2 ไตรมาสติดต่อกัน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำซื้อ ราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขาย P/E ปี 2550 ปานกลางที่ 12.1 เท่า และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปีนี้เป็น 2.7% ราคาพื้นฐานมีส่วนเพิ่ม 17% เทียบกับราคาปิดเมื่อวันที่ 2 ต.ค.49 ส่วนราคาพื้นฐานหลังวัน XR เป็น 5.16 บาท ด้วย P/E ปี 2550 ที่ 13.9 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 3 ปี

ซื้อ KSL เป้าหมาย 12.60 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด แนะนำ ซื้อ KSL การปรับราคาอ้อยขั้นสุดท้ายที่คาดว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 6.3% จากราคาขั้นต้น น่าจะเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มราคาอ้อยในปีหน้าว่าไม่น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับราคาขั้นสุดท้ายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของโรงงานน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีคาดว่าด้วยปริมาณฝนที่ค่อนข้างมากในปีนี้น่าจะส่งผลดีต่อการเพาะปลูกอ้อยของเกษตรกร ดังนั้นจึงคาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งระบบในปี 2549/2550 จะเพิ่มขึ้นเป็น 53.6ล้านตันอ้อย ซึ่งทำให้ปริมาณอ้อยเข้าหีบของ KSL คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 4.0 ล้านตันอ้อย เป็น 4.6 ล้านตันอ้อย ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตต่อหน่วย (Processing Cost) ของบริษัทลดลง ประกอบกับเชื่อว่าแนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกในปีหน้าจะยังสามารถทรงตัวอยู่ได้ในระดับสูง เนื่องจากแนวโน้มการนำอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลโดยตรงมีมากขึ้นของผู้นำใน

ตลาดน้ำตาลอย่างบราซิล ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าในปี 2549-2550 อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจของ KSL น่าจะทรงตัวอยู่ได้ และเมื่อรวมกับรายได้จากธุรกิจใหม่ที่จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มที่ในปีหน้า จึงคาดว่า GPM จะปรับตัวดีขึ้นเป็น 26.8% จาก 21.0% ในปี 2548- 2549 แนะนำ ?ซื้อ? ราคาเหมาะสม 12.60 บาท

ซื้อ CPF เป้าหมาย 6 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด แนะนำ ซื้อ CPF จากผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงมากในไตรมาส 3/2549 ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ประมาณการว่าทั้งปี 2549 จะมีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติลดลง 47% แต่จากแนวโน้มราคาไก่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเหตุผลที่เรากล่าวมาข้างต้น ประกอบกับ CPF ทำการขายสินค้าประเภท value added ที่มี margin ดีขึ้น น่าจะส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2550 ของ CPF เติบโตได้ราว 43% จากราคาหุ้น CPF ที่ปรับลดลงมาราว 13% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้น น่าจะสะท้อนถึงปัจจัยลบเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2549 และปี 25496 ที่จะออกมาลดลงแล้ว ดังนั้น จึงเชื่อว่าในช่วงที่ราคาหุ้น CPF อ่อนตัวลงมา น่าจะเป็นจังหวะเข้าลงทุนใน CPF โดย ณ ราคาปัจจุบันยังมี upside ที่ 26% แนะนำ ?ซื้อ? มีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6 บาท


ที่มา ทันหุ้น

.000A .000A