May 4, 2024   10:58:09 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โอกาสของการลงทุน
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 04/10/2006 @ 10:44:16
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

จังหวะของการลงทุนกับการเก็งกำไร อาจไม่แตกต่างกัน ส่วนที่ต่างกันคือระยะเวลาในการถือหุ้น ใครถือได้นานหลายเดือน หลายปีก็นับเป็นนักลงทุน ส่วนใครถือแค่ไม่กี่วันก็ต้องเป็นการเก็งกำไร


ส่วนที่ซื้อเช้าขายบ่าย ไม่ต้องบอกก็รู้กันดีว่าเป็นนักเก็งกำไรระดับไหน ในสภาวะที่ไม่ค่อยปกติแน่นอนว่าการเก็งกำไรจะถูกนำมาใช้มากกว่าการลงทุน เพราะด้วยความกลัวและความไม่มั่นใจจึงต้องเลือกเล่นสั้นไว้ก่อน แต่ที่ดูดีในขณะนี้คือการพยายามแยกตัวหุ้นออกจากกันดูแล้วพบว่า ขณะนี้มีการแยกตัวหุ้นเล่นกัน คือในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงปรับพอร์ตขายหุ้นบลูชิปขนาดใหญ่ นัยว่าต้องการเงินไปจองหุ้นที่จีน ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่น่าแปลกใจที่ขายแล้วยังไม่มีเม็ดเงินไหลออกอย่างชัดเจน จึงไม่รู้ว่าเหตุผลที่อ้างข้างต้นใช่หรือไม่ คงต้องมีบางส่วนใช่ แต่ทั้งหมดใช่หรือไม่ไม่แน่ใจ เพราะไม่มีสัญญาณบ่งชี้ในลักษณะนั้น เหตุการณ์นี้มีผลกระทบดัชนีตลาดแน่นอน เพราะการขายหุ้นบลูชิปมีผลกดดัชนีมาก แม้จะมีการเล่นเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กมากตัว แต่มีผลกับดัชนีไม่มาก

ดังนั้น จึงมองว่าตลาดขณะนี้ แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งขายหุ้นบลูชิป แต่อีกส่วนกลับมีบรรยากาศของการเก็งกำไรอย่างเต็มตัว พูดได้ว่าใครเข้าออกได้ถูกจังหวะและเก็งกำไรถูกตัว ก็มีโอกาสได้กำไรสูงเช่นกัน กำไรสูงที่ว่านี้คือกำไรต่อวันมากกว่า 5% ได้ผลตอบแทนมากขนาดนี้ เชื่อว่าคงมีผู้เข้าไปร่วมเกมไม่น้อย แต่ความเสี่ยงก็มีสูง งานนี่จึงมีทั้งคนได้และคนเจ็บตัวปนกัน

อย่างไรก็ตาม ในด้านการลงทุน มองว่านี่คือโอกาสที่ดีเช่นกัน อย่าไปยึดติดกับตัวเลขดัชนีมาก จนลืมไปว่าการลงทุนที่ดีก็คือการเลือกจังหวะซื้อหุ้นราคาต่ำๆ ซึ่งหุ้นจะมีราคาต่ำได้ ก็ต้องอยู่ในภาวะไม่ปกติ หรือมีข่าวลือในด้านลบ สภาพตลาดโดยรวมดูจากตัวเลขดัชนีที่อ่อนตัว จึงนับเป็นโอกาสได้เช่นกัน แต่เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเพราะเมื่อตลาดอ่อนตัว นักลงทุนจะกลัวภาวะการลงทุนไปด้วย แทนที่จะรู้จักฉวยโอกาสกลับมักจะทิ้งโอกาสมากกว่า นอกเสียจากจะยึดมั่นในหลักการลงทุนจริงจัง จึงพอจะสวนกระแสได้ อาจต้องท่องสูตรว่า ค่าพีอีตลาดหุ้นไทยต่ำกว่า 7.8 เท่า ต่ำสุดในภูมิภาคเอเชีย จึงควรลงทุนและจะยึดต่อไปว่าอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.3% สูงสุดในภูมิภาคเช่นกัน ก็อาจจูงใจให้เกิดความกล้าได้ สรุปว่าควรทยอยเลือกลงทุนต่อไป ใครจะเก็งกำไรก็ทำได้เช่นกัน

ส่วนกลุ่มหุ้นที่น่าลุ้น ดูจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มี AMATA, SYNTEC และ SEAFCO ให้เลือก กลุ่มขนส่งราคาน้ำมันยังอ่อนตัวธุรกิจก็มีโอกาสฟื้นได้มาก ดูแล้ว AOT, RCL และ TTA น่าจะมีลุ้นได้มากขึ้น กลุ่มวัสดุก่อสร้างได้รัฐบาลใหม่มาหนุนโครงการต่างๆ ก็คงจะเริ่มเดิน ทำให้ TGCI, RICH และ SINGHA มีลุ้นต่อไป กลุ่มไอซีทีหงอยมานาน ราคาถูกกดลงอย่างต่อเนื่องด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่ในแง่การเก็งกำไรราคาลงมามากก็มีโอกาสดีดตัวจึงมีลุ้นที่ TWZ, TKS และ TRUE ส่วนรายตัวที่กระจายมี SGF, KH และ ATC ที่ดูเด่นและมีวอลุ่มหนาตา นี่คือโอกาสและจังหวะในการลงทุนและเก็งกำไร ใครถนัดอย่างไรก็เลือกทำตามที่ถนัดน่าจะมีโอกาสทำกำไรได้ดี.

ที่มา ไทยโพส

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com