May 14, 2024   6:32:33 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวสดสดสด .......
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 04/10/2006 @ 10:37:14
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[u:0f03f8d094">[b:0f03f8d094">ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองดิ่งลงปิดที่ 581.50$ ตามราคาน้ำมันดิบ [/b:0f03f8d094">[/u:0f03f8d094">

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ และจากคำสั่งขายของกลุ่มกองทุน

สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า สัญญาทองคำในตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 581.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 21.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 580.50-603.30 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 11.0450 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 59.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 14.70 เซนต์ ปิดที่ 3.2825 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,129.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 29.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 306.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.70 ดอลลาร์

นายสตีเฟ่น แพลท นักวิเคราะห์จากอาร์เชอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้กดดันราคาโลหะมีค่าในตลาดนิวยอร์กร่วงลงทั้งกระดาน

ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลง 2.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.68 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.เป็นต้นมา หลังจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดประกาศลดคาดการณ์พายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ เนื่องจากปรากฏการณ์เอล-นีโญ่ได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า ปรากฏการณ์เอล-นีโญ่ทำให้ฤดูพายุเฮอริเคนในปีนี้มีเฮอริเคนก่อตัวขึ้นน้อยเกินคาด เนื่องจากเอล-นีโญ่ทำให้การก่อตัวของเฮอริเคนลดน้อยลงด้วยการเพิ่มแรงลมในแนวตั้งเหนือทะเลแคริบเบียน

^_^

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 04/10/2006 @ 10:38:19 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:0e7b26a940">[b:0e7b26a940">ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองดิ่งลงปิดที่ 581.50$ ตามราคาน้ำมันดิบ [/b:0e7b26a940">[/u:0e7b26a940">

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ และจากคำสั่งขายของกลุ่มกองทุน

สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงานว่า สัญญาทองคำในตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 581.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 21.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 580.50-603.30 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 11.0450 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 59.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 14.70 เซนต์ ปิดที่ 3.2825 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,129.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 29.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 306.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.70 ดอลลาร์

นายสตีเฟ่น แพลท นักวิเคราะห์จากอาร์เชอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้กดดันราคาโลหะมีค่าในตลาดนิวยอร์กร่วงลงทั้งกระดาน

ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลง 2.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.68 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.เป็นต้นมา หลังจากมหาวิทยาลัยโคโลราโดประกาศลดคาดการณ์พายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ เนื่องจากปรากฏการณ์เอล-นีโญ่ได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า ปรากฏการณ์เอล-นีโญ่ทำให้ฤดูพายุเฮอริเคนในปีนี้มีเฮอริเคนก่อตัวขึ้นน้อยเกินคาด เนื่องจากเอล-นีโญ่ทำให้การก่อตัวของเฮอริเคนลดน้อยลงด้วยการเพิ่มแรงลมในแนวตั้งเหนือทะเลแคริบเบียน



^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 04/10/2006 @ 10:42:07 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:20c004ce40">[b:20c004ce40">THAINVDR เก็บหุ้น CPF เพิ่ม 0.04% รวมถือ 5.01% [/b:20c004ce40">[/u:20c004ce40">

หุ้นของบมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) โดย บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 29/09/2549 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 0.04% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 5.01% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด


[u:20c004ce40">[b:20c004ce40">WHITTLER ถือหุ้นใน BTC เป็น 20.38% หลังได้เพิ่มมาอีก 1.8% [/b:20c004ce40">[/u:20c004ce40">

หุ้นของบมจ. บางปะกง เทอร์มินอล(BTC) โดย WHITTLER CO.,LTD. ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 03/10/2549 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 1.8% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 20.38% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

[u:20c004ce40">[b:20c004ce40">บลจ. ไทยพาณิชย์ เก็บหุ้น TIES เข้าพอร์ต 6.24% [/b:20c004ce40">[/u:20c004ce40">


หุ้นของบมจ. ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม (TIES) โดย บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 28/09/2549 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 6.24% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 6.24% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

[/color:20c004ce40">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 04/10/2006 @ 10:47:39 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:101e24c3ec">[b:101e24c3ec">ฝรั่งยังขายไม่เลิก!![/b:101e24c3ec">[/u:101e24c3ec">

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ต.ค. 49 ปิดที่ 681.84 จุด ลบ 2.00 จุด ขณะที่มีมูลค่าการซื้อขาย 12,216 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,341.55 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดนำโดย BBL ปิด 104 บาท ลบ 2 บาท, PTT ปิด 214 บาท ร่วง 4 บาท, SCC ปิด 232 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง, SCB ปิด 59 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และ KBANK ปิด 64.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.บัวหลวง มองว่าปัจจัยที่นักลงทุนรอดูใน ขณะนี้คือ หน้าตาและนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุน

ขณะที่นักลงทุนต่างชาติที่ชะลอการลงทุนนั้น บางส่วนอาจยังไม่รู้จักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และอาจมีความกังวลว่านายกรัฐมนตรีมาจากภาคทหาร ดังนั้น เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติอาจรอดูท่าทีของนายกรัฐมนตรีคนใหม่อีกระยะ

วกดูหุ้นรายตัว มาโฟกัสที่หุ้น SHIN ที่ถูกพายุการเมืองโหมกระหน่ำ ราคาหุ้นยังคงปรับตัวลงต่อ แม้โบรกเกอร์จะมองว่าราคาหุ้นจะซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม แต่กรณีผลสอบการเป็นนอมินีของกุหลาบแก้ว ซึ่งมีมูลเหตุที่จะผิดกฎหมายต่างด้าว ยังเป็นประเด็นที่กดดันราคาหุ้น

ขณะที่ บล.เอเซียพลัส แนะ ?ขาย? หุ้น SHIN โดยให้ราคาเหมาะ สมที่ 39.44 บาท และระบุว่า ความเสี่ยงต่อการอาจถูกตัดสินว่ามีความผิด กฎหมายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และมีโอกาสที่อาจถูกสั่งให้เลิกการร่วมประกอบธุรกิจจะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อสัมปทานของบริษัทในเครือที่มีอยู่กับหน่วยงานรัฐ

นอกจากนี้ กรณีที่ดีบีเอสแบงก์ ขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในแคปปิ-ตอล โอเค คืนให้ SHIN ซึ่งถือหุ้นเดิมอยู่ 75.31% จะทำให้ราคาหุ้นถูกกดดันซ้ำด้วย

ปิดท้าย บลจ.อยุธยา (AYF) แนะนำหุ้นกลุ่มที่น่าลงทุนในสถานการณ์ช่วงนี้ คือหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ คือ BBL SCB KBANK รวมทั้งกลุ่มยานยนต์, ท่องเที่ยวและการแพทย์ ขณะที่กลุ่มพลังงานคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่มากนัก.[/color:101e24c3ec">


ที่มา ไทยรัฐ

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#4 วันที่: 04/10/2006 @ 10:53:00 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:135c2a1897">[b:135c2a1897">ตลท.ฟ้องป.กุ้งเผาไล่ที่พ้นถนนรัชดา[/b:135c2a1897">[/u:135c2a1897">


นางนงราม วงษ์วานิช รองผู้จัดการ สายงานบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ตลท. มีมติให้ตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการฟ้องร้องขับไล่ ร้านป.กุ้งเผา ออกจากที่ดินของ ตลท. บริเวณถนนรัชดาภิเษก เนื่องจากสัญญาเช่าที่ทางร้านทำไว้กับเจ้าของเดิมนั้นหมดลงไปนานแล้ว และ ตลท. ไม่มีนโยบายให้ ป.กุ้งเผา เช่าพื้นที่ดังกล่าวต่อไป โดย ตลท.จะส่งหนังสือเตือนไปยังร้าน ป.กุ้งเผา ในเร็ว ๆ นี้ หากทางร้านไม่ยอมย้ายออกไป ก็จะดำเนินการฟ้องร้องขับไล่ตามขั้นตอนตามกฎหมาย โดยต้องการให้ ป.กุ้งเผาออกจากพื้นที่ดังกล่าวให้ได้ภายในปีหน้า

?ในช่วงที่เข้าไปซื้อที่ดินดังกล่าว ตลท.รู้อยู่แล้วว่าร้านอาหารนี้ไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ แต่ก็ตัดสินใจซื้อเพราะราคาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และหากให้เจ้าของเดิมดำเนินการฟ้องร้องขับไล่เอง คงต้องซื้อในราคาที่สูงกว่านี้มาก โดย ตลท. มีแผนนำที่ดินดังกล่าวมาก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ ให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปีข้างหน้า?

ทั้งนี้ ตลท. ซื้อที่ดินดังกล่าวซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ ซื้อมาในวงเงิน 1,400 ล้านบาท และได้รับโอนกรรมสิทธิ์เมื่อเดือน เม.ย. 49 โดยตามแผนที่วางไว้ จะเริ่มการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในราวปี 51 เพื่อรองรับพัฒนาการของตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตที่มุ่งสู่การเป็นตลาดทุนที่ครบวงจร ส่วนสาเหตุที่ ตลท. เลือกที่ดินแปลงนี้ เนื่องจากอาคารตลาดหลักทรัพย์ ในปัจจุบันบนถนนรัชดาภิเษก บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นอาคารที่อยู่บนพื้นที่เช่า มีข้อจำกัดเรื่องการพัฒนาที่ดินโดยรอบ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต

ส่วนพื้นที่แห่งใหม่บนถนนรัชดาภิเษก บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เป็นบริเวณที่กำลังมีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญหลายโครงการ รวมทั้งอยู่บนเส้นทางที่ใกล้กับแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังท่าอากาศยานแห่งใหม่ได้โดยสะดวก.

[/color:135c2a1897">
ที่มา เดลินิวส์




^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#5 วันที่: 04/10/2006 @ 11:00:17 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:fc9baa1fea">[b:fc9baa1fea">BAFS ไตรมาสสาม กำไรลด 19%[/b:fc9baa1fea">[/u:fc9baa1fea">

คำแนะนำ : ขาย

ราคาปิด : 11.00 บาท

มูลค่าพื้นฐาน : 10.50 บาท

บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยถึง ปริมาณน้ำมันอากาศยานที่บริษัทให้บริการเติมในเดือนกันยายน 2549 ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 332.92 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 0.87% จากเดือนกันยายนปี 2548 แบ่งเป็นปริมาณน้ำมันที่สนามบินดอนเมือง 299.44 ล้านลิตร และที่สนามบินสุวรรณภูมิ 33.48 ล้านลิตร (รวมผู้ให้บริการทั้งสองราย) โดยตั้งแต่ต้นปี 2549 จนถึงเดือนกันยายนนี้ ปริมาณน้ำมันที่ให้บริการมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 4.58%

ความเห็นนักวิเคราะห์

อัตราการเติบโตของปริมาณน้ำมัน เดือนกันยายน 2549 ที่ 0.87 ถือเป็นตัวเลขรายเดือนที่ต่ำสุดนับตั้งแต่บริษัทได้รับผลกระทบจากโรคซาร์สในปี 2546 (ซึ่งผลให้ปริมาณน้ำมันในช่วงดังกล่าวลดลง) อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวที่ค่อนข้างสูง (+9%) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับฐานตัวเลขที่ต่ำในปีก่อนจากเหตุ Tsunami ช่วยให้อัตราการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 3-4% โดยเรายังคงสมมติฐานการอัตราการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันปีนี้ที่ 45%

เมื่อพิจารณาปริมาณน้ำมันของไตรมาส 3/2549 ที่ 1,034.72 ล้านลิตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.3% และอัตราค่าบริการที่ปรับขึ้นจาก 2.58 U.S.Cent/U.S.Gallon เป็น 2.74 U.S.Cent/U.S.Gallon ทำให้เราประเมินรายได้ค่าบริการของบริษัท ในไตรมาสนี้ได้ราว 285 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าปริมาณน้ำมันและค่าบริการจะเพิ่มขึ้นแต่ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับ US$ ที่แข็งขึ้นถึง 5% ส่งผลต่อการลดลงของรายได้ เราคาดว่า BAFS จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติไตรมาส 3/2549 ประมาณ 106 ล้านบาท ลดลง 19% จากไตรมาส 3/2548 แต่จะเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้า

อัตราการเติบโตที่ค่อนข้างต่ำของปริมาณน้ำมันในเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาจเป็นสัญญาณไม่ดีนักเมื่อเทียบกับเป้าหมายปี 2550 ที่บริษัทคาดว่าจะขยายตัว 5% โดยเรายังคงคำแนะนำ ขาย BAFS จากราคาหุ้นปัจจุบันที่สูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสม (DCF) ปี 2550 ที่ 10.50 บาท [/color:fc9baa1fea">


ที่มา มติชน
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#6 วันที่: 04/10/2006 @ 11:06:42 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:d320dfc638">[b:d320dfc638">IFEC ตั้งบ.ย่อยที่ฮ่องกง ถือหุ้น 100% หวังขยายธุรกิจในจีน[/b:d320dfc638">[/u:d320dfc638">


นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ ประธานกรรมการ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ (IFEC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ให้ลงทุนในบริษัทฯ โดยการจัดตั้งบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ (ฮ่องกง) จำกัด ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 2 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณสิบล้านบาท โดย IFEC จะหุ้นร้อยละ 100 ทั้งนี้เพื่อหาช่องทางและโอกาสในการขยายธุรกิจในประเทศจีน

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ลงทุนครั้งนี้ มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

ส่วนคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ นายสุเทพ ด่านศิริวิโรจน์ และนายยรรยง สนธิมาศ

ที่มา : IQ Biz[/color:d320dfc638">
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#7 วันที่: 04/10/2006 @ 11:07:41 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:24bbfef6f5">[b:24bbfef6f5">SEAFCO โตเกินเป้าแน่ รับรู้รายได้ก่อนกำหนด[/b:24bbfef6f5">[/u:24bbfef6f5">


ซีฟโก้ โดดเด่นที่สุดในกลุ่มอุตฯ ผู้บริหาร ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ แย้มประมูลงานใหม่เพิ่ม 10 โครงการ มูลค่า 700-800 ล้านบาท หลายโครงการส่งมอบก่อนกำหนด หนุนไตรมาส 3 รับรู้รายได้ราว 1.3-1.4 พันล. มั่นใจสิ้นปีทำรายได้ทะลุเป้าแน่ ฟุ้งลุยงานต่างประเทศได้ทันที่หากงานในหด ด้านนักวิเคราะห์เล็งปรับประมาณการ SEAFCO โตเพิ่ม ดันพื้นฐานราคาหุ้นเหมาะสม 5.40 บาท

นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้เข้ายื่นประมูลโครงการใหม่ไปอีกกว่า 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 700-800 ล้านบาท ส่วนผลของการประมูลยังไม่ทราบกำหนดที่ชัดเจน คงจะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ส่วนประเด็นเรื่องของการส่งมอบงานนั้น หลายโครงการส่งมอบได้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ โดยใน 2 ไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทสามารถส่งมอบงานและรับรู้รายได้ประมาณ 840 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 คาดว่าจะส่งมอบงานได้อีกประมาณ 500 ล้านบาท จะส่งผลให้การรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท ดังนั้นเป้ารายได้รวมที่บริษัทตั้งไว้ที่ 1,750 ล้านบาท ไม่น่าจะพลาดเป้าอย่างแน่นอน


โครงการรอรับรู้รายได้ 1พันล้าน
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าโครงการที่รอรับรู้รายได้อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ได้หมดประมาณกลางปี 2550 และคาดว่าจะได้ Backlog เพิ่มอีกประมาณ 400-500 ล้านบาท


นายณรงค์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2550 ว่า ทางบริษัทยังคงเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง คงเน้นการประมูลงานของภาคเอกชนมากกว่าภาครัฐ ขณะเดียวกันบริษัทก็จะยังเน้นงานในประเทศมากกว่าต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันยังมีงานโครงการเก่าและใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงจะต้องดูภาวะเศรษฐกิจของประเทศด้วย


พร้อมรุกงาน ตปท.หางานในชะลอตัว
อย่างไรก็ตามหากงานในประเทศเริ่มมีทิศทางที่ชะลอตัวลง ทางบริษัทก็มีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพิ่มด้วย เนื่องจากทางบริษัทได้มีพันธมิตรต่างประเทศที่สามารถจะเข้าไปดำเนินงานทันที เพราะว่าบริษัทได้ทำการเซ็นสัญญากับพันธมิตรที่ประเทศดูไบเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ บริษัทก็ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตปี 2550 เพิ่มขึ้นประมาณ 15%


ในปีหน้าเราก็ยังคงเน้นการรับงานในประเทศ เพราะว่าเรายังมีที่จะต้องทำและส่งมอบให้ทันตามกำหนดเวลา ส่วนการเข้าไปลงทุนต่างประเทศนั้น เราคงจะชะลอออกไปก่อนจากเดิมที่เรามีแผนที่จะเข้าไปลงทุนแต่ว่าตอนนี้เรายังมีงานล้นมือดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องเก็บเกี่ยวรายได้ในส่วนนี้ก่อน แต่อย่างไรก็ดี หากในปีหน้าภาวะเศรษฐกิจไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้และงานในประเทศเริ่มมีท่าทีว่าจะน้อยลง เราก็สามารถที่จะเข้าไปลงทุนที่ประเทศดูไบได้ทันที เพราะว่าเราได้เซ็น MOU กับบริษัทพันธมิตรเอาไว้เรียบร้อยและเราเองก็สามารถที่จะเข้าไปลงทุนเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าเราพร้อม นายณรงค์กล่าว


นายณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการเมกะโปรเจ็กต์นั้นทางบริษัทคาดว่าโครงการดังกล่าวน่าจะยังคงเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและทางท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ยังบอกว่าโครงการนี้จะยังคงมีอยู่ เพราะว่าเป็นโครงการที่จำเป็นต่อประเทศและระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นหากโครงการเมกะโปรเจ็กต์สามารถเดินหน้าได้ ทางบริษัทก็เชื่อว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมในปีหน้าก็จะยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีนี้อย่างแน่นอน


ชี้นักลงทุนสนใจลงทุนพื้นฐานเด่น
นายณรงค์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทมองว่านักลงทุนเริ่มที่จะเข้าใจธุรกิจของบริษัทมากขึ้น จากในอดีตนักลงทุนอาจจะยังไม่มีความเข้าใจในตัวธุรกิจและมองว่าการรับงานก็คงจะไม่มาก แต่พอมาถึงวันนี้ทางบริษัทได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า บริษัทเรามีงานเข้าต่อเนื่องและสามารถส่งมอบงานได้ทันตามกำหนดเวลา ส่งผลให้รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นและดีกว่าที่บริษัทประมาณการณ์ไว้ประกอบกับหุ้นของบริษัทไม่ได้อิงกับการเมือง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น


พื้นฐานราคาเหมาะสม 5.40 บาท
นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้จัดการส่วนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKS ประเมินหุ้น SEAFCO ว่า ที่ผ่านมามีมูลค่างานที่ประมูลได้ในช่วง ม.ค.-ก.ย. 49 ที่ผ่านมามีมูลค่ารวม 1,685 ล้านบาท สัดส่วน 78%เป็นเสาเข็มเจาะรองลงมาเป็นงานโยธา และโครงสร้าง 22% ทำให้บริษัทมี Backlog โดยรวม 2,426 ล้านบาทหลังหักการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 1,585 ล้านบาทโดยสัดส่วนการรับงานแบ่งเป็นงานภาคเอกชน 75% และงานภาครัฐ 25%


ขณะเดียวกันการเลื่อน Mega-Project ไม่เป็นปัญหาต่อการรับงานของบริษัทเนื่องจากบริษัทคาดหวัง การเติบโตจากการรับงานของภาคเอกชน ซึ่งมาจากการก่อสร้างตึกทรงสูงใกล้ (Mass transit) ที่ต้องใช้งานฐานรากเพื่อการก่อสร้าง จะเป็นงานคอนโดมิเนียม และ Shopping Complex แต่ถ้าโครงการ Mega-Project มีความชัดเจนก็จะเป็นประเด็นบวกต่อบริษัทต่อการรับงานในอนาคตมากกว่า จะเห็นได้จากงานที่ได้รับในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีการรับงานมูลค่าโครงการโดยรวม 792.4 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วน 74%เป็นงานภาคเอกชน และ 26% เป็นงานภาครัฐบาล และ 80% เป็นงานเสาเข็มเจาะ 20% เป็นงานฐานรากและอื่นๆ ทั้งนี้ได้ประมาณผลประกอบการในงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% มาจากรายได้ 841 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 14.8% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2548 ที่ 13.7% นอกจากนั้นบริษัทยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี โดยเมื่อเทียบกับยอดขายมี SG&A/ Sale ที่ 5% เมื่อเทียบกับ ครึ่งแรกของปี 2548 อยู่ที่ 7% ทำให้มีอัตรากำไรสุทธิที่ปรับเพิ่มเป็น 7 % เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2548 อยู่ที่ 5.4%
คาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3/2549 มีกำไรสุทธิ ประมาณ 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%โดยคาดว่าจะมีรายได้ 578 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 32%ผลประกอบการปรับเพิ่ม มาจากการปิดโครงการของ มิลเลนเนียมและเอ็นเนอร์ยีคอมเพล็กซ์ ประมาณการในปี 2549 คาดว่าจะมีรายได้ 1,377 ล้านบาท กำไรสุทธิ 104 ล้านบาท EPS 0.50 บาทต่อหุ้น และคาดว่าจะจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น (Dividend Yield 6.3%) บริษัทได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.12 บาทต่อหุ้น และคาดปี 2550 บริษัทจะมีรายได้ 1,595 ล้านบาท กำไรสุทธิ 113 ล้านบาท EPS 0.54 บาทต่อหุ้น และคาดว่าจะจ่ายปันผลที่ 0.27 บาทต่อหุ้น ราคาที่เหมาะสมปี 2550 ใช้ APER 10 เท่า อยู่ที่ 5.40 บาท


เล็งปรับประมาณการเพิ่ม-แนวต้าน 4.24บ.
นายวรุฒม์ ศิวะศิริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) หรือ GBX ประเมินหุ้น SEAFCO ว่า เป็นหุ้นที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นหุ้นที่ไม่ได้อิงกับประเด็นทางการเมือง ขณะเดียวกัน SEAFCO เองก็มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบหลายอย่างเข้ามากระทบแต่ทาง SEAFCO ก็ยังมีงานและสามารถส่งมอบงานได้ทันตามกำหนดเวลา ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ผลกระกอบการในปีนี้น่าจะออกมาดีเกินกว่าที่ได้ประมาณการไว้ อาจจะทำการปรับประมาณการรายได้และกำไรของ SEAFCO เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1,480 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 95 ล้านบาท สำหรับทางเทคนิคประเมินกรอบราคาหุ้นแนวรับอยู่ที่ 4.04 บาท ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 4.24 บาท[/color:24bbfef6f5">

ที่มา กระแสหุ้น


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#8 วันที่: 04/10/2006 @ 11:20:32 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:8624e90d3b">[b:8624e90d3b">บีทีโชว์สถิติน่าสนใจ [/b:8624e90d3b">[/u:8624e90d3b">

นายสมเกียรติ สืบทรัพย์อนันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านตลาดตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บีที จำกัด หรือ BTSEC เปิดเผยว่า จากข้อมูลการเก็บสถิติการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2549 จนถึงวันที่ 26 กันยายน 2549 จำนวน 101 วันปรากฏว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะตัดสินใจลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) จากความเคลื่อนไหวของดัชนีหลักทรัพย์ (SET) มากกว่าดัชนี SET50 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิง

ทั้งนี้ การหาค่าความสัมพันธ์ระหว่างการซื้อขายของสัญญา S50U06 กับ SET โดยใช้โมเดลของ Pearson Correlation มีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ .989 และค่าความสัมพันธ์ของ SET50 เท่ากับ .987 ในขณะที่การใช้โมเดลอื่นๆ ปรากฏผลเช่นเดียวกันคือ นักลงทุนจะพิจารณาดัชนี SET มากกว่า SET50 โดยใช้โมเดล Kendall?s tau_b และโมเดล Spearman?s rho

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของค่าเฉลี่ยดัชนีหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2549 ที่ผ่านมาปรากฏว่าสัญญา S50U06 มีค่าเฉลี่ยราคาดัชนีที่ 486.09 จุด ส่วนดัชนี SET50 มีค่าเฉลี่ยที่ระดับ 487.50 จุด และดัชนี SET มีค่าเฉลี่ยที่ระดับ 699.95 จุด

ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งสำหรับนักลงทุนคือ หากเป็นช่วงที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวอยู่ในภาวะปกติดัชนี SET50 จะสูงกว่าราคาของสัญญาฟิวเจอร์ส แต่หากเป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ราคาของสัญญาฟิวเจอร์สจะสูงกว่าดัชนี SET50



[/color:8624e90d3b">
ที่มา : ทันหุ้น



^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#9 วันที่: 04/10/2006 @ 11:22:21 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:51a3de952a">[b:51a3de952a">AMATAยอมรับสภาพ [/b:51a3de952a">[/u:51a3de952a">

AMATA เมินโบรกปรับประมาณการณ์รายได้บริษัท และแนะลดลงทุนหลังบริษัทหั่นยอดขายปีนี้ลงเหลือ 750 ไร่ จากเป้าหมายเดิม 2,000 ไร่ ด้าน?วิบูลย์ กรมดิษฐ์? ผู้บริหารระบุไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงให้ผู้ถือหุ้นทราบ ขณะที่ผู้บริหารเข้าเก็บหุ้นต่อเนื่องช่วยพยุงราคาหุ้นกระเตื้องขึ้นมาได้

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยอาวุโส บริษัทอมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ AMATA เปิดเผยว่า ภาพการลงทุนในประเทศไทยน่าจะกลับมามีความน่าเชื่อถือในสายตานักลงทุนต่างชาติอีกครั้ง หลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงการวางตัวรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อย่างม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่ตอบรับในการเข้ามาดูแลทิศทางเศรษฐกิจในประเทศไทยต่อจากนี้ไปเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ยอมรับว่า หลังที่เกิดการสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา จนถึงการเข้ายึดอำนาจ โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)ส่งผลให้นักลงทุนที่เตรียมจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หรือแม้แต่ในอมตะนคร ต้องมีการชะลอแผนการลงทุนออกไป จึงส่งผลให้บริษัทตั้งมีการปรับเป้ายอดขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในปีนี้เหลือเพียง 750 ไร่ จากเดิมที่ตั้งเป้า 2,000 ไร่ ซึ่งการปรับลดเป้าของบริษัทภายในปีนี้รวมทั้งหมด 3 ครั้ง

นอกจากนี้ นายวิบูลย์ กล่าวยอมรับว่า การปรับเป้ายอดขายของบริษัทส่งผลให้นักวิเคราะห์ออกมาปรับลดประมาณการณ์รายได้ และราคาเป้าหมายของบริษัทก็ตาม แต่ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลผลประโยชน์ และซื่อสัตย์ต่อผู้ถือหุ้น บริษัทจึงต้องแจ้งผลกระทบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้ถือหุ้นทราบ ดังนั้นมองว่าการแจ้งข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับสถานการณ์บริษัทให้ทราบถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะมีการปรับเป้ายอดขายของอมตะนครลง แต่ก็เชื่อว่าบริษัทอมตะเวียดนาม ก็จะเข้ามาพยุงภาพรวมของรายได้ของบริษัทในปีนี้ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากอมตะเวียดนามในแต่ละปีมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาจากที่การลงทุนในประเทศไทยมีปัญหาก็มีการทยอยไปลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายที่อมตะเวียดนามในปีนี้ไว้ประมาณ 600-700ไร่

ส่วนราคาหุ้นที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเข้าไปทยอยเก็บหุ้นของผู้บริหารในบริษัท เนื่องจากราคาหุ้นได้มีการปรับตัวลดลงมาก่อนหน้า ส่วนสัดส่วนหุ้นที่เข้าไปเก็บนั้นอยู่ในระดับเท่าไรนั้นตนเองไม่ทราบ ทั้งนี้คงต้องรอสรุปตัวเลขอีกครั้ง

ทั้งนี้จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ในวันที่ 27 ก.ย.2549 มีการทำการซื้อขายออกมา 3 รายการ โดยนายวิกรม กรมดิษฐ์ ได้เข้าไปซื้อหุ้นAMATA จำนวน1.8 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 12.00 บาท และในวันเดียวกันนายอาสา สารสิน ได้ซื้อหุ้น AMATA จำนวน 200,000 หุ้น ราคาเฉลี่ย 12.30 บาท ขณะเดียวกันก็ขายหุ้นAMATA ออกมาจำนวน 150,000 หุ้น ในราคาเฉลี่ย 12.30 บาท

นายชัย จิรเสวีประพันธ์ หันหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทพัฒนสิน จำกัด(มหาชน)หรือCNS กล่าวว่า ราคาหุ้นAMATA ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสัญญาณรีบาวน์ทางด้านเทคนิคระยะสั้น หลังจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นดังกล่าวได้มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งตามสัญญาณทางด้านเทคนิค หากว่าราคาหุ้นAMATA ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่13.50-13.80 บาท อาจะลดลงมาแตะระดับแนวรับที่ 12.20-12.00 บาท

ราคาหุ้น AMATA วานนี้ (3ต.ค.) ปิดตลาดในราคาสูงสุดที่ 13.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 5.69% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 65 ล้านบาท


ที่มา : ทันหุ้น





^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#10 วันที่: 04/10/2006 @ 11:42:05 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:7684fab168">[b:7684fab168">CKซุ่มวางแผนหาเงิน [/b:7684fab168">[/u:7684fab168">

CK ตีปีกหลังรัฐบาลเร่งผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ประเดิมด้วยโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ด้าน?อนุกูล ตันติมาสน์? ผู้บริหารเผยไม่ต้องห่วงเรื่องงบลงทุน เตรียมพร้อมหาลู่ทางไว้อยู่แล้ว ส่วนโบรกมองตรงกันยกให้ CK เด่นสุดในกลุ่มรับเหมาช่วงนี้ ทั้งจุดเด่นที่ปลอดการเมืองมากสุด และช่องทางรายได้ที่มีมากกว่า จากการกระจายเสี่ยงลงทุนในหลายธุรกิจ มองเป็นจุดเด่นผลักดันราคาหุ้น ให้เป้าหมายปีหน้า 11.40 บาท

นายอนุกูล ตันติมาสน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า กรณีที่หลายฝ่ายมีการประเมินว่า CK เป็นบริษัทที่ปลอดการเมือง และมีโอกาสที่จะคว้างานโครงการรถไฟฟ้า 3 สายมองว่าเป็นสิ่งที่ดี และบริษัทก็มีความพร้อมที่จะเข้าประมูลโครงการดังกล่าวอยู่แล้ว โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการระดมทุนซึ่งมีทั้งการเพิ่มทุน และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อใช้ลงทุนในโครงการดังกล่าว

?การเตรียมเงินลงทุนในขณะนี้บริษัทได้เร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนการดำเนินการดังกล่าวมีทั้งการเพิ่มทุน และการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่วนการหาพันธมิตรนั้นอาจจะมีหากโครงการที่ได้นั้นบริษัทยังขาดประสบการณ์ หรือไม่ถนัด แต่หากบริษัทสามารถทำได้ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพันธมิตร โดยการใส่เงินลงทุนจะขึ้นอยู่กับลักษณะโครงการก่อน?นายอนุกูลกล่าว

ส่วนทิศทางการเติบโตของรายได้ในปี 2550 เชื่อว่าจะยังคงเติบโตได้ดีกว่าปี 2549 ที่คาดว่ามีรายได้ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่ทยอยรับรู้ที่ประมาณ 29,780 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มถึง 40,000 ล้านบาท จากการทยอยเข้าไปประมูลทั้งภาครัฐ และเอกชน

นอกจากนี้บริษัทมีการรับรู้กำไรจากการปันผลของ BMCL ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ประมาณ 21.13% และในต้นปีหน้าจะมีการผลักดันให้บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้เร็วที่สุดในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีให้กับบริษัท เพราะบริษัทถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเกือบ 50%

นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า CK เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มรับเหมาที่คาดว่าน่าจะคว้างานโครงการขนาดใหญ่อย่างโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย เพราะเป็นบริษัทที่ปลอดการเมือง อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่างานในมือที่สูงถึง 29,780 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีนี้จนถึงปี 2550

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ CK ราคาเป้าหมายปี 2550 ที่ 11.40 บาทโดยมองว่าเป็นผู้รับเหมาเพียงรายเดียวที่มีประสบการณ์การสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินจึงทำให้กลายเป็นผู้เข้าร่วมประมูลที่มีโอกาสชนะการประมูลการสร้างรถไฟฟ้า 3 สายในปีหน้าอย่างมาก และเชื่อว่าอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจจะเป็นปัจจัยผลักดันมูลค่าหุ้นของ CK
ราคาหุ้น CK วานนี้(3ต.ค.) ปิดตลาดที่ 8.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 3.07% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 52 ล้านบาท

[/color:7684fab168">
ที่มา ทันหุ้น




^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#11 วันที่: 04/10/2006 @ 11:44:43 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:980ac98570">[b:980ac98570">D1พุ่งเป้าลงทุนธุรกิจไอที[/b:980ac98570">[/u:980ac98570">

ผู้บริหารใหญ่ D1 ?จเรรัฐ ปิงคลาศัย? เตรียมเปิดตัวบริษัทไอทีตัวแรกที่เข้าลงทุน ในวันที่ 25 ตุลาคม 2549 นี้ และเตรียมทยอยซื้อลงทุนในอีก 2 บริษัทไอทีในปีนี้ คาดใช้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท ด้านเอ-โฮสท์คาดยื่นไฟลิ่งภายในเดือนตุลาคมนี้ มั่นใจไม่มีใครขัดขาให้สะดุดอีก ส่วนสัญญาณเทคนิคมีโอกาสลุ้นทดสอบไฮเดิม ที่ 3.10 บาท แนะกลยุทธ์รอบนี้เก็งกำไรได้สะดวก ให้แนวรับ 1.94-1.93 บาท ส่วนแนวต้าน 2.14-2.34 บาท

นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) D1 เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 ตุลาคม 2549 บริษัทจะเปิดตัวธุรกิจไอทีบริษัทแรกที่เข้าลงทุน ซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนในปีนี้ที่บริษัทจะทยอยเข้าลงทุนใน 3 บริษัท และคาดใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยมาจากกระแสเงินสด 300 ล้านบาท และการเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 500 ล้านบาท

ทั้งนี้แผนการลงทุนยังคงเน้นการลงทุนในบริษัทที่ให้ผลตอบแทนดี และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด หรือ เอ-โฮสท์ เป็นธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งตอนนี้ทางที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำข้อมูลของเอ-โฮสท์ เพื่อเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.นี้

?ตอนนี้ทางเดินของบริษัทถือว่าค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นแผนการดำเนินงานต่างๆจะค่อนข้างเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้แน่นอน เรื่องเงินลงทุนไม่มีปัญหาเพราะมีเพียงพอแล้ว? นายจเรรัฐ กล่าว
อย่างไรก็ดีสำหรับแผนการลงทุนในต่างประเทศนั้น เบื้องต้นบริษัทมีแผนที่จะลงทุนดำเนินธุรกิจทางด้านที่ปรึกษาการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เบื้องต้นยังตอบไม่ได้ว่าประเทศใดบ้างแต่คาดว่าจะลงทุนในหลายประเทศ โดยล่าสุดได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือบริษัท ดราก้อน ดูไบ จำกัด ให้นักลงทุนในดูไบมาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากดูไบเป็นศูนย์กลางด้านตลาดเงินและตลาดทุนของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกกลาง

ด้านนางสาวภัทรวัลลิ์ หวังมิ่งมาศ นักวิเคราะห์เทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KSEC กล่าวว่า ระยะสั้น D1 ส่งสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างดี โดยเฉพาะหากสามารถทดสอบ 2.20 บาทได้นักลงทุนสามารถทยอยซื้อสะสมเพื่อรอจังหวะขาย เนื่องจาก D1 มีโอกาสปรับขึ้นมาทดสอบ 2.34 บาท และ 2.46 บาทหรืออาจทดสอบระดับราคาสูงสุดเดิม ที่ 3.10 บาทได้เช่นกัน โดยใช้จุดตัดขายขาดทุนที่ระดับ 1.86 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์มองกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นทางเทคนิคในหุ้น D1 แนะนำ ?ทยอยซื้อสะสมหรือซื้อเก็งกำไร? โดยให้แนวรับ 1.94-1.93 บาท ส่วนแนวต้านแรก 2.14 บาท และแนวต้านถัดไป 2.20,2.34 บาท

ราคาหุ้น D1 วานนี้(3ต.ค.) ปิดตลาดที่ 1.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 5.88% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 218 ล้านบาท โดยราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 1.14 บาท



[/color:980ac98570">



^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#12 วันที่: 04/10/2006 @ 13:45:34 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:2e036c0d09">[b:2e036c0d09">หุ้นรับเหมาฯบวก หลังรบ.ใหม่จะเดินหน้าประมูลรถไฟฟ้า [/b:2e036c0d09">[/u:2e036c0d09">

หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเช้านี้ราคาปรับขึ้น รับข่าวรัฐบาลใหม่เตรียมเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกท์ ที่เป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ โครงกรรถไฟฟ้า ระบบโลจิสติกส์ และระบบน้ำ
เมื่อเวลา 11.30 น.
หุ้น CK อยู่ที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+2.98%)
หุ้น ITD อยู่ที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท (+2.70%)
หุ้น STEC อยู่ที่ 4.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท (+2.53%)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ปรับขึ้นวันนี้ได้กระแสทิศทางเรื่องของรัฐที่อาจจะมีโอกาสกลับมาพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าหรือโครงการพัฒนาทรัพยากรประเภทน้ำขึ้นมาใหม่ เป็นการสร้างกระแสในเชิงบวกให้กับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

กระแสตรงนี้อาจจะเข้ามากระทบราคาในช่วงสั้นทำให้เกิดการเก็งกำไรขึ้นไป แต่ถ้าดูผลในเชิงพื้นฐานไม่แน่ใจว่าเม็ดเงินก้อนแรกที่จะต้องจ่ายให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างจะลงมาเมื่อไร ซึ่งตรงนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้หรือครึ่งแรกของปีหน้า ซึ่งต้องใช้เวลาในการรอคอย นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ฝ่ายวิจัยแนะซื้อสะสมเพียง 2 ตัว คือ CK และ SEAFCO ถึงแม้ส่วนใหญ่รับงานในภาคเอกชนแต่ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับงานส่วนเพิ่มจากภาครัฐเพิ่มเติมเข้ามา โดย CK เป้าหมาย 9.56 บาท SEAFCO เป้าหมาย 6.15 บาท

ด้าน บล.โกลเบล็ก ระบุเชื่อว่าการเปิดประมูลรถไฟฟ้าจะยังเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อการขยายตัวและเติบโตของธุรกิจรับเหมาในปีหน้า และคาดว่าผู้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการเมกะโปรเจกต์จะเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ทั้ง 3 ราย อย่าง ITD แนะซื้อเป้าหมาย 8.70 บาท CK ซื้อเป้าหมาย 12.15 บาท STEC ถือเป้าหมาย 4.00บาท รวมทั้งรายกลางอย่าง PLE ซื้อเป้าหมาย 11.30 บาท และรายเล็กอย่าง SEAFCO ซื้อเป้าหมาย 4.50 บาท ซึ่งเป็นหุ้นที่ยังคงแนะนำในการเข้าลงทุน

[/color:2e036c0d09">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#13 วันที่: 04/10/2006 @ 13:46:56 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:59af1200b6">[b:59af1200b6">DELTA,HANA บวก โบรกฯแนะซื้อมองกำไร H2/49 โต ตามอุตฯที่ขยายตัวดี[/b:59af1200b6">[/u:59af1200b6">

หุ้น DELTA และ HANA ราคาขยับขึ้น โดยเมื่อเวลา 10.49 น.ราคาหุ้น DELTA เคลื่อนไหวอยู่ที่ 18.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท(+1.10%)มูลค่าซื้อขาย 7.26 ล้านบาท

ขณะที่หุ้น HANA ราคาอยู่ที่ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท(+0.89%) มูลค่าซื้อขาย 1.37 ล้านบาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย มองหุ้นกลุ่มอิเลคทรอนิกส์ เป็นBullish ประเมินการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย สอดคล้องกับภาพรวมของอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่อง

ล่าสุดมูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เดือน ส.ค. 2549 ที่ 1,292 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.4% mom และ 15.9% yoy แม้ค่าเงินบาทเฉลี่ยแข็งค่า 1.0% mom และ 8.6% yoy ก็ตาม มูลค่าการส่งออกรูปเงินบาท 48,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% yoy และ 12.5% mom

ทั้งนี้ ได้ประเมินกำไรสุทธิใน 2H/49 ของบริษัทในกลุ่มฯที่ศึกษาจะเติบโตเฉลี่ย 84% hoh เนื่องด้วยตลาดที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคดีขึ้น และผู้บริโภคเริ่มมองว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ ตาม ส่งผลให้ผลการดำเนินงานใน 2H/49 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของธุรกิจนี้อยู่แล้ว ปรับตัวดีขึ้นจาก 2H/48

ทั้งนี้ ได้แนะซื้อหุ้น DELTA หากพิจารณาจากผลประกอบการใน H2/49 เพิ่มขึ้นถึง 73% เมื่อเทียบกับ H2/48 และ 13% เมื่อเทียบกับ H1/49 สืบเนื่องจากกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นระดับอัตราส่วนกำไรขึ้นต้นทุนมากกว่าปริมาณการผลิต ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งการร่วมมือกับลูกค้าในการออกแบบสินค้า และการวิจัยและพัฒนาสินค้าเพื่อลดต้นทุนการผลิต พิสูจน์ได้จากผลการดำเนินงานในช่วง 5 ไตรมาสที่ผ่านมา GPM เฉลี่ยที่ 19.4% และ H1/49 กำไรสุทธิเติบโตถึง 54% yoy อีกทั้ง DELTA เป็นหุ้นจ่ายเงินปันผลมาตลอด โดยประเมินเงินปันผลงวดปี 2549 ที่ 1.43 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 8.4%
ส่วน HANA เป็นหุ้นน่า ?ซื้อ? อันดับที่ 2 ของกลุ่ม ด้วยอัตราการขยายตัวของกำไรอย่างต่อเนื่อง จึงประเมินกำไรสุทธิ H2/49 ไว้ที่ 1,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เทียบกับ H2/48 และ 3% เมื่อเทียบกับ H1/49 และเป็นหุ้นที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง โดยประเมินเงินปันผลงวดปี 2549 ที่ 1.53 บาท/หุ้น

[/color:59af1200b6">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#14 วันที่: 04/10/2006 @ 13:48:17 : re: ข่าวสดสดสด .......
[u:d21122bdc9">[b:d21122bdc9">หุ้นน้ำมันปรับลง หลังราคาน้ำมันร่วงแรง โบรกฯมองแค่ช่วงสั้น คาด Q4 ฟื้น[/b:d21122bdc9">[/u:d21122bdc9">

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นน้ำมันที่ปรับลงแรง เนื่องจากการร่วงลงอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน ทำให้ฉุดหุ้นพลังงานขนาดใหญ่ PTT, PTTEP, TOP และ RRC ปรับลงตาม ขณะที่พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน

อย่างไรก็ตาม มองว่า จิตวิทยาการลงทุนจะเป็นลบ เพียงช่วงสั้นเท่านั้น และคาดว่าไตรมาส 4 น่าจะดีขึ้น ราคาน้ำมันน่าจะปรับขึ้น เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำมัน เพราะอากาศเริ่มหนาว

ราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวขึ้นได้ในไตรมาส 4 ซึ่งจะทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวได้เช่นกัน รวมทั้งค่าการกลั่นเริ่มดีขึ้น จังหวะนี้จึงเป็นจังหวะของการเข้าซื้อลงทุนในหุ้นกลุ่มน้ำมันนำโดย TOP RRC น่าสนใจ รวมทั้ง PTT PTTEP ซื้อลงทุนได้นักวิเคราะห์ กล่าว

ฝ่ายวิจัยแนะซื้อลงทุนหุ้น TOP ราคาเป้าหมาย 77 บาท มองว่าค่าการกลั่นปัจจุบันสามารถยืนเหนือ 3 เหรียญ/บาร์เรลได้และคาดว่าจะกลับไปสู่ระดับ 6-7 เหรียญ/บาร์เรลในไตรมาสนี้ตามผลของฤดูกาลที่มีความต้องการใช้น้ำมันเพื่อการทำความอบอุ่น โดยราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาประมาณ 10% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาตามค่าการกลั่นที่ตกต่ำลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งเชื่อว่าการที่ค่าการกลั่นเริ่มยืนระดับได้บวกกับแนวโน้มราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่คาดว่าจะเป็นขาขึ้นอีกครั้งในไตรมาส 4 จะส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทฟื้นตัวได้ในไตรมาสนี้

อนึ่ง สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.68 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.เป็นต้นมา
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.19 น
PTT อยู่ที่ 212.00 บาท ลดลง 2.00 บาท (-0.93%)
PTTEP อยู่ที่ 105.00 บาท ลดลง 2.00 บาท (-1.87%)
TOP อยู่ที่ 60.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.84%)
RRC อยู่ที่ 18.90 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.53%)

[/color:d21122bdc9">
^_^
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#15 วันที่: 22/12/2006 @ 00:37:15 : Comment
In Oklahoma dogs must have a permit signed by the mayor in order to congregate in groups of three or more on private property <a href= http://www.uwtc.washington.edu/courses/512/Cialis-Mexico.html >cialis mexico </a> [URL=http://www.uwtc.washington.edu/courses/512/Cialis-Mexico.html"> cialis mexico[/URL"> http://www.uwtc.washington.edu/courses/512/Cialis-Mexico.html
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#16 วันที่: 22/12/2006 @ 00:48:11 : Comment
In Oklahoma females are forbidden from doing their own hair without being licensed by the state <a href= http://toro.csudh.edu/bb/help/docs/Generic-Viagra-Online.html >viagra for sale </a> [URL=http://toro.csudh.edu/bb/help/docs/Generic-Viagra-Online.html"> viagra for sale[/URL"> http://toro.csudh.edu/bb/help/docs/Generic-Viagra-Online.html
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#17 วันที่: 26/12/2006 @ 16:41:08 : Comment
In Indiana mustaches are illegal if the bearer has a tendency to habitually kiss other humans <a href= http://toro.csudh.edu/bb/help/docs/Cialis-Levitra-Sales-Viagra.html >cialis levitra sales viagra </a> http://toro.csudh.edu/bb/help/docs/Cialis-Levitra-Sales-Viagra.html
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com