นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์ กล่าวว่า สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ยังคงเป้าดัชนีหุ้นปลายปี 49 ที่ ระดับ 740 จุด ตามที่เคยทำการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2549

และคาดว่าสมาคมฯ จะทำการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์อีกครั้งประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ เพื่อสำรวจว่าสมาชิกมีการปรับดัชนีหุ้นเป้าหมายเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่ โดยขณะนี้ยังคงรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังจากนั้นจะส่งแบบสอบถามเพื่อประเมินอีกครั้ง

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายบริการซื้อขายหลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ ในฐานะอุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า บล.ทิสโก้มองดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 49 อยู่ในระดับ 720 จุด เนื่องจากตลาดยังรอข่าวดีเกี่ยวกับทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นตลาดได้

ส่วนปี 50 มองว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 800 จุด
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานของรัฐบาลรักษาการที่นำโดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ไม่เน้นเรื่องเศรษฐกิจ มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ในอำนาจเพียง 1 ปี ดังนั้นการเข้ามาแก้ปัญหา และวางรากฐานการเมืองและรัฐธรรมนูญให้มั่นคง เป็นแนวทางที่ถูกต้อง

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ กรรมการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การเมืองปัจจุบันถือว่าคลี่คลายไปในทางที่ดี ส่งผลให้งบประมาณการใช้จ่ายของภาครัฐบาลจะเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2550 จากเดิมที่คาดว่าการใช้จ่ายภาครัฐบาลจะล่าช้าออกไปถึงกลางปี 2550 รวมทั้งปัจจัยราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ถือว่าส่งผลดีต่อประเทศนำเข้าน้ำมันปริมาณมากอย่างประเทศไทย นอกจากนี้ยังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มปรับตัวลงในไตรมาส 1 ปี 2550 เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว แต่ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียมีหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่หลายตัวทำให้ดึงเม็ดเงินการลงทุนจากประเทศไทย รวมทั้งมีปัจจัยกดดันหุ้นบางตัวที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้แนะนำให้นักลงทุนลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้ผลกระทบจากปัจจัยการเมืองและหุ้นซึ่งมีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากนักลงทุนต่างชาติซึ่งอาจมีการเทขาย โดยหุ้นที่น่าสนใจ แนะนำ หุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว หุ้นโรงพยาบาล และค้าปลีก



^_%