May 4, 2024   4:59:48 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ........ข่าวสดวันนี้........
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 03/10/2006 @ 10:33:47
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

.000c .000c

[u:7056cd995d">[b:7056cd995d">1) ตลาดหุ้นสะลึมสะลือรอ ครม.เศรษฐกิจ[/b:7056cd995d">[/u:7056cd995d">

ผู้สื่อข่าวรายงานการลงทุนในตลาดหุ้นวันที่ 2 ต.ค. ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุน เพื่อรอดูโฉมหน้า ครม.ใหม่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ แม้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท. ได้ตอบตกลงเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว ส่วนนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ตลาดไม่มีปฏิกิริยาตอบรับหรือปฏิเสธที่ชัดเจน

ขณะที่บางส่วนกังวลหลังนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะให้ความสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นเรื่องรอง ทั้งนี้ หุ้นไทยปิดที่ 683.84 จุด ลดลง 2.26 จุด มีมูลค่าซื้อขายเพียง 8,349 ล้านบาท นางภัทรียา เบญจพลชัย ผู้จัดการตลาดหุ้นกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีภาพพจน์ดีเป็นที่น่าเชื่อถือของนักลงทุนได้ แต่ต้องรอดูรัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายเศรษฐกิจด้วย แต่ เชื่อว่านโยบายและทิศทางเศรษฐกิจไม่น่าเปลี่ยนไปมาก ส่วนตลาดหุ้นที่ยังนิ่งๆและชะลอตัวเพราะนักลงทุนรอดูความชัดเจน

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยกล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาเพื่อทำให้ประเทศสู่ภาวะที่ดีขึ้นในเรื่องความปรองดอง ดังนั้น หากนายกรัฐมนตรีจะให้เศรษฐกิจเป็นเรื่องรองก็ต้องยอมรับ แต่ได้ทำให้ต้นทุนด้านเศรษฐกิจต้องเสียไป เช่น ต้นทุนด้าน FTA ที่ต้องหยุดชะงัก ขณะที่ประเทศคู่แข่งเดินหน้ากันหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก ทั้งนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยอยากให้รัฐบาลสานต่อแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ที่ขณะนี้บางส่วนได้หยุดชะงักไป เช่น การแก้กฎหมายยกเว้นภาษีกำไรในตลาดซื้อขายตราสารหนี้ และยังต้องการให้เดินหน้าโครงการสาธารณูปโภคด้วย ด้านนายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุน และแม้จะให้เศรษฐกิจเป็นเรื่องรอง แต่มองว่าพื้นฐานของเศรษฐกิจขณะนี้ดีอยู่แล้ว ดังนั้น กบข.จึงยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจและตลาดทุนจะยังไปต่อได้.

ที่มา ไทยรัฐ

^_^

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 03/10/2006 @ 10:37:50 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.0007 .0007

[u:200de1a1d1">[b:200de1a1d1">2) SATTEL ยันปลดระวางไทยคม 3 ไม่กระทบเชื่อมั่นลงทุน-ฐานลูกค้า[/b:200de1a1d1">[/u:200de1a1d1">

ชินแซทเทลไลท์ ยืนยันปลดระวางไทยคม 3 ไม่กระทบความเชื่อมั่นการลงทุน ชี้ย้ายลูกค้าไปไทยคม 5 ก่อนหน้านี้แล้ว และมีปริมาณการใช้ช่องสัญญาณเหลือรองรับลูกค้าอีก 20-30% ส่วนไทยคม 6 ยังคงต้องรอดูก่อน ด้านนักวิเคราะห์เชื่อไม่มีปัจจัยผลักดันราคา แถมระยะนี้มีภาวะซื้อมากเกินไป

ดร.ดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL เปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ทำการปลดระวาง (De-Orbit) ดาวเทียมไทยคม 3 ออกจากวงโคจร ทั้งเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมทั้งคุณภาพของดาวเทียม เนื่องจากบริษัทได้ทำการแก้ไขปัญหา และดำเนินการย้ายลูกค้ามาอยู่ที่ดาวเทียมไทยคม 5 เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับการขยายกลุ่มลูกค้าไปแถบตะวันออกกลางที่ไม่ได้รับผลกระทบ จากการที่บริษัทมีแผนการนำดาวเทียมดวงใหม่ไปทดแทนตำแหน่งที่ยังว่างอยู่


ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายของดาวเทียมไทยคม 3 ที่ได้มีการปลดระวางไป โดยการปลดระวางดังกล่าวเป็นการปลดก่อนหมดอายุ 1 ปี ซึ่งจะทำให้อายุประกันของดาวเทียมยังคงเหลืออยู่อีก 1 ปีเช่นกัน โดยวงเงินที่จะเอาประกันจากอายุการใช้งานที่เหลือไม่เกิน 10% ของมูลค่าดาวเทียมใหม่


หลังจากที่มีการเคลื่อนย้ายลูกค้าจากดาวเทียมไทยคม 3 มาอยู่ดาวเทียมไทยคม 5 แล้ว ดาวเทียมไทยคม 5 ที่ถือว่ามีความสามารถในการให้บริการสูงกว่าไทยคม 3 ถึง 2 เท่านั้น จะยังมีช่องสัญญาณเหลืออีกประมาณ 20-30% ที่จะรองรับลูกค้าใหม่ และสามารถครอบคลุมลูกค้าถึงทวีปยุโรปแต่อาจจะไม่นัก โดยภายหลังจากมีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในเรื่องของการปลดระวางดาวเทียมไทยคม 3 ก่อนกำหนดแล้วนั้น บริษัทจะแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อกระทรวงไอซีที่ต่อไป เนื่องจากดาวเทียมไทยคม 3 ถือว่าเป็นสัมปทานของกระทรวงไอซีที สำหรับแผนการดำเนินการดาวเทียมไทยคม 6 ขณะนี้ยังไม่มีแผนการที่ชัดเจน เนื่องจากยังต้องขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 5 โดยหากช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 5 เต็ม บริษัทอาจจะทำการดำเนินงานดาวเทียมไทยคม 6 ทันที


นายชัย จิรเสวีณุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวให้ความเห็นว่า หุ้นของ SATTEL เองช่วงนี้ถือว่ายังไม่มีข่าวที่เป็นปัจจัยที่จะผลักดันให้น่าสนใจ ซึ่งถ้ามองจากพ้นฐานแล้วให้คำแนะนำซื้อ แต่น่าจะไม่ใช่ระยะนี้ ส่วนทางเทคนิคเป็นการซื้อมากเกินไป จึงแนะนำรอ โดยมีแนวรับ 7.00/6.80 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 7.50 บาท[/color:200de1a1d1">

โดย กระแสหุ้น

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 03/10/2006 @ 10:40:35 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000002 .000002


[u:6e22872ca4">[b:6e22872ca4">3) CK ถือหุ้นใน BMCL เป็น 21.13% หลังเก็บเพิ่มอีก 5.33% [/b:6e22872ca4">[/u:6e22872ca4">

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการได้มา หุ้นของบมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL) โดย บมจ. ช. การช่าง (CK) ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 27/09/2549 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 5.33% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 21.13% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

[u:6e22872ca4">[b:6e22872ca4">4) SALEE ลั่นทั้งปีรายได้โต 500 ล. ขายหุ้น PO ยื่น ก.ล.ต.ภายใน พ.ย. [/b:6e22872ca4">[/u:6e22872ca4">

บิ๊กสาลี่ อุตสาหกรรม ยืนยันทั้งปีเป้ารายได้โตตามเดิม 500 ล้านบาท พอใจแผนขายหุ้นเพิ่มทุนรายเดิมประสบความสำเร็จ ผู้ถือหุ้นเห็นด้วยกับการขยายธุรกิจในบริษัท SC WADO เพื่อให้เพิ่มรายได้ ส่วนการขาย PO 37 ล้านหุ้นคาดยื่นไฟลิ่งก.ล.ต.ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ด้านโบรกฯเชื่อผ่านแนวต้าน 2.50 บาท ได้เห็น 3 บาทแน่

นายสุพจน์ สุนทรินคะ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ และ พัฒนาธุรกิจ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 58,000,000 หุ้น ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2.5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาท ว่า หลังจากที่ปิดการจองซื้อหุ้นพบว่าผู้ถือหุ้นเดิมได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มทั้งจำนวน จะเหลือบ้างก็เป็นเพียงเศษหุ้นเท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่ผู้ถือหุ้นมีต่อบริษัทและต้องการให้บริษัทเข้าไปขยายธุรกิจในบริษัท SC WADO เพื่อให้รายได้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต


ส่วนความคืบหน้าในการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 37,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายต่อประชาชน ( PO ) หลังจากที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติว่า คาดว่าที่ปรึกษาทางการเงินจะยื่นไฟลิ่งต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้


หากที่ปรึกษาทางการเงินสามารถยื่นไฟลิ่งให้กับ ก.ล.ต.ได้ภายในเดือนไตรมาสที่ 4/49 จะทำให้ขายหุ้นให้กับประชาชนจึงไม่น่าจะเกินไตรมาส 1/50 และเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนน่าจะอยู่ที่ 120-150 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้นบริษัทจะนำไปเป็นเงินลงทุนใน SC WADO และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท นายสุพจน์ กล่าว


โดยหลังจากการขายหุ้นเพิ่มทุนเป็นไปตามแผนเชื่อว่าจะทำให้การลงทุนใน บริษัท SC WADO เดินไปตามขั้นตอนที่วางไว้ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จาก SC WADO ในช่วงไตรมาสที่ 4/49 อยู่ที่ 50-60 ล้านบาท ดังนั้นจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 550-560 ล้านบาท จากเป้าหมายคาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท สำหรับรายได้ของบริษัทในปี 2550 จะมาจาก SC WADO 25-30% ของรายได้รวมของ SALEE ในขณะเดียวกันสัดส่วนรายได้อื่นๆจาก SALEE เองอยู่ที่ประมาณ 50% และรายได้จากธุรกิจพริ้นติ้งจะอยู่ที่ 25-30%


นายสุพจน์กล่าวว่า แม้ช่วงนี้สถานการณ์การเมืองภายในประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างแต่เชื่อว่ารายได้ของบริษัทน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 500 ล้านบาทหรือมีการเติบโต 30% เนื่องจากในครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 246 ล้านบาท ใกล้เคียงกับเป้าหมาย และในครึ่งปีหลังปกติบริษัทจะยอดขายที่ดีกว่าในครึ่งปีแรกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เป็นไปตามเป้าได้


ด้าน น.ส.ลินดา โชคชูชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ให้ความเห็นทางเทคนิคว่า ตั้งแต่ SALEE เข้าตลาดหลักทรัพย์มามีจุดแนวต้านที่สำคัญที่ 2.50 บาท และยังไม่สามารถผ่านได้ โดยเชื่อว่าถ้าผ่านได้น่าจะทำให้ขึ้นไปที่แนวต้าน 3 บาท ทั้งนี้ การที่จะขึ้นไปถึงแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ต้องมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง


โดย กระแสหุ้น




[/color:6e22872ca4">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 03/10/2006 @ 10:45:31 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
ฟฟฟฟ2 ฟฟฟฟ2

[u:2fdfc5e117">[b:2fdfc5e117">5) STRATEGIC CAPITAL ถือหุ้น ZMICO เป็น 5.04% หลังได้มาเพิ่มอีก 0.06%
-THAINVDR เข้าเก็บหุ้น LOXLEY อีก 0.08% รวมถือ 5.06%

6) ตลท.ห้ามซื้อขาย THRE-W1 ตั้งแต่ 11 ต.ค.- 6 พ.ย./พ้นสภาพ 7 พ.ย.[/b:2fdfc5e117">[/u:2fdfc5e117">

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) (THRE) ได้แจ้งการครบกำหนด
การใช้สิทธิครั้งสุดท้ายของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 1 ของบริษัท (THRE-W1) โดยมีระยะเวลาแสดงความจำนงการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2549 ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 กำหนดการใช้สิทธิในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2549 โดยบริษัท กำหนดปิดสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญตั้งแต่ วันที่ 16 ตุลาคม 2549 เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2549 เป็นผลให้ THRE-W1 พ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น

ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ THRE จึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามการซื้อหรือขาย THRE-W1 ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2549 เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2549

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงห้ามการซื้อหรือขาย THRE-W1 ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2549 ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2549 และเป็นผลให้ THRE-W1 พ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2549 เป็นต้นไป[/color:2fdfc5e117">



^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#4 วันที่: 03/10/2006 @ 10:50:06 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000003 .000003

[u:58ec1f20bb">[b:58ec1f20bb">7) ไทยเบฟฯ ปลื้มนำหุ้นเทรดตลาดสิงคโปร์แค่ 6 เดือน คว้าบรรษัทภิบาลสูงสุด ด้าน ตลท.ติงบิ๊ก บจ.ห้ามนั่งเก้าอี้ไขว้เกิน 5 แห่ง [/b:58ec1f20bb">[/u:58ec1f20bb">

นายฐาปน สิริวัฒภักดี กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังรับรางวัลบริษัทที่มีความโปร่งใสสูงสุดที่สิงคโปร์ว่า บริษัทมีความภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนในสิงคโปร์ ในประเด็นการดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ในช่วงระยะเวลาแค่ไม่ถึง 6 เดือนนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่เพียงแต่จะเป็นบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์บรรษัทภิบาลของตลาดหุ้นสิงคโปร์อย่างเคร่งครัดเท่านั้น แต่จะพยายามปรับปรุงให้มาตรฐานความโปร่งใสของบริษัทสูงเกินกว่ามาตรฐานที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์กำหนด ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับนักลงทุน

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า บริษัทจดทะเบียนได้สอบถามจำนวนที่เหมาะสมที่กรรมการบริษัทควรดำรงตำแหน่งในบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวนมาก

โดย ตลท.แนะให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนควรดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนไม่ควรเกิน 5 บริษัท และจำเป็นต้องดำรงตำแหน่งมากกว่านั้น คณะกรรมการบริษัทควรชี้แจงเหตุผลและผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการดังกล่าว ในรายงานการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และในรายงานประจำปีของบริษัท เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบ

ปัจจุบันพบว่า 99.5% ของกรรมการทั้งระบบ ดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนตั้งแต่ 1-5 บริษัท มีเพียง 23 คน หรือ 0.5% เท่านั้นที่ดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทมากกว่า 5 บริษัท.[/color:58ec1f20bb">

ที่มา Thai Post


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#5 วันที่: 03/10/2006 @ 11:04:16 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000001 .000001

[u:4c3351871c">[b:4c3351871c">8) PTTCH เผยเข้าถือหุ้นใหญ่ใน PTTPE และ BPE หลังรับโอนจาก PTT แล้ว [/b:4c3351871c">[/u:4c3351871c">

นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. เคมิคอล (PTTCH) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2549 บริษัทฯ ได้ทำการชำระเงินค่าหุ้นของบริษัท พีทีที โพลีเอทิลีน จำกัด ในวงเงิน 1,750 ล้านบาท และ ค่าหุ้นสามัญของบมจ. บางกอกโพลีเอททีลีน 2,000 ล้านบาทให้กับบมจ.ปตท. (PTT) และได้รับโอนหุ้นทั้งหมดจากปตท. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว จะมีผลให้บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แต่เพียงรายเดียวในพีทีที พีอี และ บีพีอี ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของแต่ละบริษัท

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการกระจายการลงทุนลงไปในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อการรักษาอัตราการเจริญเติบโตของรายได้ของบริษัทฯอย่างมั่นคงในระยะยาว และเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ

[/color:4c3351871c">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#6 วันที่: 03/10/2006 @ 11:06:49 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000007 .000007

[u:37954ffd5b">[b:37954ffd5b">9) MAJORลดไซต์กองทุนอสังหาฯ เดิม6เหลือ4พันล.เล็งขายปีหน้า
[/b:37954ffd5b">[/u:37954ffd5b">

กองทุนอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ลดขนาดจาก 6 พันล้านเหลือเพียง 4 พันล้านบาท เหตุไม่ได้เข้าไปซื้อสินทรัพย์ที่ปิ่นเกล้า รอดูภาวะตลาดหุ้น ถ้าไม่ทันเล็งขายต้นปีหน้าแทน ชี้การลดขนาดไม่กระทบต่อการขยายธุรกิจ ขณะที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์ พาร์ มูลค่า 4.7 พันล้านบาทเล็งขายกลางเดือนพ.ย.

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีกระแสข่าวว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์จะลดขนาดของกองทุนลงจากเดิมที่มีขนาดประมาณ 6 พันล้านบาทซึ่งจะลดขนาดกองทุนลงเหลือประมาณ 4 พันล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากไม่ตกลงกับเจ้าของสินทรัพย์ที่ปิ่นเกล้าได้ ดังนั้นจึงนำสินทรัพย์ที่เมเจอร์รัชโยธินและเมเจอร์รังสิตเข้ามาไว้ในกองทุนอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น

ทั้งนี้จากการลดขนาดของกองทุนลง คาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการเสนอขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้เช่นกัน เพราะถ้าขนาดกองทุนไม่ใหญ่ ก็อาจจะทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศน้อยลง อย่างไรก็ตามการลดขนาดนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการขยายธุรกิจแต่อย่างใด

สำหรับระยะเวลาการเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.ก่อน รวมถึงจะต้องรอดูภาวะตลาดหุ้นอีกครั้ง ซึ่งถ้าไม่ทันก็อาจจะไปเสนอขายในช่วงเดือนมกราคม 2550ก็ได้

ทั้งนี้จากการสอบถามไปยังผู้บริหารบริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปรากฏว่าผู้บริหารแจ้งว่าไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะอยู่ระหว่างการยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต.

อนึ่งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ นั้นได้วางแผนที่จะเดินทางไปแนะนำข้อมูลหรือโรดโชว์ ที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง หลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต.แล้ว

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายกองทุนอสังหาริมทรัพย์บริษัทฟิวเจอร์ พาร์คเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเสนอขายว่า ขณะนี้สำนักงานก.ล.ต.กำลังพิจารณารายละเอียดโครงการ ซึ่งถ้าได้รับความเห็นชอบจะเสนอขายได้ภายในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมูลค่ากองทุนประมาณ 4.7 พันล้านบาท ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหรือ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย)เป็นผู้จัดการกองทุนในการบริหารงาน[/color:37954ffd5b">
โดยผู้จัดก่ร


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#7 วันที่: 03/10/2006 @ 11:16:18 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000004 .000004

[b:994a198011">10) TPIPL เช่าตึกจากพรชัยวิสาหกิจมูลค่ารวม 4.74 ลบ.ทำอาคาร สนง. [/b:994a198011">

นางอรพิน เลี่ยวไพรัตน์ รรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ตกลงเข้าทำสัญญาเช่าอาคารสำนักงานจาก บริษัท พรชัยวิสาหกิจ จำกัด ทำเป็นอาคารสำนักงานทีพีไอ ชั้น 20 ขนาดพื้นที่เช่า 405 ตารางเมตร ค่าเช่าและค่าบริการ 300 บาท ต่อ ตารางเมตรต่อเดือน อายุสัญญาเช่า 3 ปี (เริ่ม1ตุลาคม 2549-30กันยายน 2552) มูลค่าสัญญาเช่าและบริการ 4,374,000 บาท รวมกับเงินประกันความเสียหายตามสัญญาเช่า 145,800 บาท และเงินประกันความเสียหายตามสัญญาบริการ 218,700 บาท รวมเงินที่ต้องชำระตามสัญญา 4,738,500 บาท

รายการดังกล่าวจัดเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน เนื่องจากตระกูลเลี่ยวไพรัตน์เป็นผู้ถือหุ้นและมีอำนาจควบคุมใน บริษัท พรชัยวิสาหกิจ จำกัด และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน TPIPL

[u:994a198011">[b:994a198011">11) KSLปิดงบต.ค.กำไรพุ่ง [/b:994a198011">[/u:994a198011">

บริษัทน้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) KSL ลุ้นแผนย้ายโรงงานใหม่ปักหลักแถบโซนอีสานดันกำลังผลิตเพิ่มเต็มที่ คาดได้ข้อสรุปปี 2550 หลังเรื่องค้างอยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรมกว่า 5 ปี ขณะที่โรงงานในลาวและกัมพูชา เร่งเครื่องเต็มสูบคาดเดินเครื่องผลิตพร้อมรับรู้รายได้ในปี 2551 ส่วนผู้บริหารมั่นใจไตรมาส 4/2549 (ส.ค.-ต.ค.49) ออกมาดีกว่าไตรมาสก่อนชัวร์ ดันรายได้ปีนี้ทะลุเป้า 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% หลังรับรู้รายได้จากธุรกิจเอทานอลและน้ำตาลที่ยังขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านนักวิเคราะห์ประเมินหลังย้ายโรงงานไปจังหวัดสระแก้ว ดันปริมาณการผลิตและกำไรสุทธิพุ่งสูงขึ้น พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2551 และปี 2552 ประเมินปีนี้รายได้เหยียบ 6,353 ล้านบาท กำไรสุทธิ 670 ล้านบาท แนะ?ซื้อ? ให้ราคาเหมาะสมที่ 10.50 บาท

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น KSL วานนี้(2 ต.ค.49) เปิดตลาดที่ราคา 8.35 บาท โดยระหว่างวันราคาหุ้นขยับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ก่อนที่จะปิดที่ระดับสูงสุดของวันที่ 8.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.65 บาท หรือ 7.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 34.75 ล้านบาท

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) KSL เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2549 (ส.ค..-ต.ค.49) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าไตรมาส3/2549 (พ.ค.-ก.ค.49) ที่มีกำไรสุทธิ 100.74 ล้านบาท หลังรายได้จากธุรกิจเอทานอลปรับตัวสูงขึ้นตามราคาเอทานอลที่มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำตาลภายในประเทศ และต่างประเทศส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานของ KSL ในไตรมาส 3/2549 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม มีผลกำไรสุทธิ 100.746 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลกำไรสุทธิงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 73.99 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.754 ล้านบาท หรือ 36% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำตาลภายในประเทศ และราคาน้ำตาลต่าง ประเทศและรับรู้ผลประกอบการจากโครงการผลิตเอทานอลและปุ๋ยชีวภาพ ที่เริ่มสร้างรายได้ในปี 2549

ส่วนความคืบหน้าในการเตรียมย้ายโรงงานผลิตน้ำตาลนิวกรุงไทยในจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนภายในปี 2550 ซึ่งหากบริษัทได้รับอนุญาตจะทำการย้ายโรงงานไปในจังหวัดทางภาคอีสาน

?เรื่องการย้ายโรงงานยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเรายื่นเรื่องมาเกือบ จะ 5 ปีแล้ว คาดว่าคงจะได้ข้อสรุปภายในปีหน้านี้ แต่จะย้ายไปจังหวัดไหนต้องขอดูก่อนแต่คงจะเป็นโซนภาคอีสาน เนื่องจากเป็นทำเลที่เหมาะสมในการปลูกอ้อย?นายชลัชกล่าว

อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับการอนุญาตก็จะไม่ส่งผลกระทบกับบริษัท เนื่องจากบริษัทยังมีการลงทุนในโรงงานน้ำตาลในประเทศลาวและกัมพูชา ซึ่งสามารถที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมได้ โดยโรงงานในประเทศลาวขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ในการปลูกอ้อย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างโรงงานได้ภายในปี 2550 และเริ่มเดินสายผลิตพร้อมรับรู้รายได้ภายในปี
2551 ขณะที่โรงงานในประเทศกัมพูชาจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ภายในปี 2551 และรับรู้รายได้ในปี 2552
นายชลัช เปิดเผยต่อว่า ผลการดำเนินงานในปี 2549 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10% ตามทิศทางราคาเอทานอลและน้ำตาลทรายที่ยังอยู่ในระดับสูง

หุ้นร้อนพื้นฐานแกร่ง
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้น KSL ถึงแม้ราคาจะเคลื่อนไหวค่อนข้างหวือหวา แต่ในส่วนของปัจจัยพื้นฐานยังถือว่าค่อนข้างดีจากทิศทางราคาเอทานอลและน้ำตาลในตลาดโลกที่ยังทรงตัวในระดับสูง

สำหรับกรณีการเตรียมย้ายโรงงานนิวกรุงไทยนั้น คาดว่าจะย้ายจากจังหวัดกาญจนบุรีไปยังจังหวัดสระแก้วในปี 2551 เนื่องจากอุตสาหกรรมในจังหวัดกาญจนบุรีมีการแย่งซื้อผลผลิตอ้อยกันมาก ทำให้โรงงานมีการใช้กำลังผลิตเพียง 50% กว่าดังนั้นหากบริษัทได้รับอนุญาตย้ายโรงงานจะทำให้ผลผลิตน้ำตาลรวมของกลุ่ม KSL เพิ่มขึ้น รายได้และกำไรก็จะสูงขึ้นตาม

ขณะที่การลงทุนในโรงงานน้ำตาลในต่างประเทศ ทั้งประเทศกัมพูชาและลาวก็สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป โดยประมาณการณ์รายได้ในปี 2549 ที่ 6,353 ล้านบาท กำไรสุทธิ 670 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2551 และ 2552 ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 3% และ 5% ตามผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ โดยแนะนำ?ซื้อ? โดยปรับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานจาก 10 บาทเป็น 10.50 บาท

เทคนิคดีเหมาะเล่นสั้น
นายกมลชัย พลอินทวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า สัญญาณเทคนิคหุ้น KSL ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี แนวโน้มราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง แนะนำเก็งกำไร โดยให้แนวรับที่ 8.70-8.50 บาท แนวต้านที่ 9.20-9.40 บาท





ที่มา : ทันหุ้น




^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#8 วันที่: 03/10/2006 @ 12:18:33 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
[u:dabea42ba6">[b:dabea42ba6"> EASONแจกวอร์แรนต์ผู้ถือหุ้นเดิม [/b:dabea42ba6">[/u:dabea42ba6">
[/color:dabea42ba6">


EASON ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 107 ล้านหุ้น รองรับวอร์แรนต์ 100 ล้านหุ้นเพื่อให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ อายุ 4 ปี ส่วนที่เหลืออีก 7 ล้านบาทจัดสรรให้ESOP หวังเพิ่มเติมสภาพคล่อง และมีเงินทุนหมุนเวียนใช้ขยายธุรกิจมากขึ้น

เมื่อวานนี้(2 ต.ค.))ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขึ้นเครื่องหมาย H ห้ามการซื้อขายหุ้น EASON เป็นการชั่วคราวในช่วงเช้า และได้อนุญาตให้หุ้นของบริษัทซื้อขายได้ในช่วงบ่าย หลังบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนมายังตลาด โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 3.76 บาท ปรับขึ้นสูงสุด 3.78 บาท และปิดที่ 3.40 บาท ลดลง 0.16 บาท หรือ 4.49 % มูลค่าซื้อขาย 10.21 ล้านบาท

นายสนิท เอกแสงกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด(มหาชน) EASON แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท(29 ก.ย.) ได้อนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่เป็น 307 ล้านบาท จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 107 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ(EASON-W1) ที่จะออกให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยบริษัทได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 100 ล้านหุ้นเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม อายุ 4 ปี จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า ในอัตรา 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้ ได้กำหนดอัตราการใช้สิทธิ คือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ใบ ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิของ 1 บาทต่อหุ้น มีระยะเวลาการใช้สิทธิผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้ในวันทำการสุดท้ายของเดือนมิถุนายน และธันวาคมของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ และกำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 มิถุนายน 2550
ส่วนหุ้นเพิ่มทุนอีก 7 ล้านหุ้น จัดสรรเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะออกให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร (ซึ่งมิได้ดำรงตำแหน่งกรรมการ) พนักงาน และที่ปรึกษาของบริษัท โดยไม่คิดมูลค่า อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 3 ปี ซึ่งมีอัตราการใช้สิทธิ คือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ราคาการใช้สิทธิหุ้นละ 1 บาท ทั้งนี้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิได้ในวันทำการสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ และสิงหาคมของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยการเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีสภาพคล่อง และเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้นเพื่อใช้ขยายธุรกิจ

ที่มา : ทันหุ้น

^_^

[/color:dabea42ba6">
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#9 วันที่: 03/10/2006 @ 12:45:17 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.0008 .0008

[u:b562d5f75d">[b:b562d5f75d">13) หุ้น BANPU บวก 2.03% โบรกฯมองงบ Q3-4 จะดี-หมดปัจจัยลบ [/b:b562d5f75d">[/u:b562d5f75d">

หุ้น BANPU บวก 2.03% ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท วอลุ่มแน่น เมื่อเวลา 10.39 น โดยเปิดตลาดที่ 148.00 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 152.00 บาท

นายเบญจพล สุทธิ์วณิช เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เกียรตินาคิน กล่าวว่า หุ้น BANPU ราคาปรับขึ้นด้วยวอลุ่มแน่น มองว่าปัจจัยลบหมดไปแล้ว ช่วงนี้เป็นการคาดหมายผลประกอบการที่จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/49 ที่จะประกาศ และแนวโน้มไตรมาส 4/49 ก็จะดีขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้า ขณะที่เหมืองในอินโดนีเซียทั้งเรื่องภาษีส่งออกและน้ำเสียก็ชัดเจนแล้ว

ระดับราคาลงไปก่อนหน้านี้ ก็ตอบรับข่าวดีโดยการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา เพราะค่อนข้างชัดเจนว่าธุรกิจของบ้านปูยังเติบโตได้ นายเบญจพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ราคาที่ปรับขึ้นมา ณ ปัจจุบันก็ยังแนะนำซื้อลงทุน ให้ราคาเป้าหมาย 158 บาท

[/color:b562d5f75d">

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#10 วันที่: 03/10/2006 @ 12:46:51 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000003 .000003

[u:314d971679">[b:314d971679">14) บิสิเนสไทมส์เผย เทมาเส็กส่อเค้าละเมิดกม.ไทยกรณีเทคโอเวอร์ชินคอร์ป[/b:314d971679">[/u:314d971679">

หนังสือพิมพ์บิสิเนส ไทม์สรายงานโดยอ้างผลการตรวจสอบเบื้องต้นว่า กองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ อาจละเมิดกฏข้อบังคับของไทยที่ว่าด้วยการถือครองหุ้นของบริษัทช่างชาติ ในกรณีที่เทมาเส็กเข้าเทคโอเวอร์กิจการของบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN)

บิสิเนส ไทมส์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายดุสิต อุชุพงศ์อมร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าของไทยว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นระบุว่ากองทุนเทมาเส็กอาจละเมิดกฎหมายของไทยที่ว่าด้วยสิทธิที่ชาวต่างชาติพึงถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้สูงสุดแค่ 49%

บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่นถือครองหุ้น 42.82% ในบมจ.แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส (AIS) ส่วนเทมาเส็กมีหุ้นอยู่ในชิน คอร์ป 41.7% ในชิน คอร์ป โดยผ่านทางแอสเพ็น โฮลดิ้งส์ ส่วนอีก 54.6% ถือครองโดยเซดาร์ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทไซเพรส โฮลดิ้งส์ของเทมาเส็ก ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทกุหลาบแก้ว

บิสิเนส ไทมส์ระบุว่า การตรวจสอบครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่บริษัทกุหลาบแก้ว ซึ่งเป็นบริษัทคู่ค้าของเทมาเส็กในการเข้าซื้อหุ้นในบมจ.ชิน คอร์ป และมุ่งหาข้อเท็จจริงว่าบริษัทกุหลาบแก้วเป็นบริษัทของไทยหรือเป็นนอมินีของเทมาเส็ก
เราพบหลักฐานแล้ว โดยเฉพาะหลักฐานที่บริษัทกุหลาบแก้วโยกย้ายเม็ดเงินเข้าซื้อชิน คอร์ป ซึ่งอาจจะขัดต่อกฎหมายของไทย นายดุสิตกล่าว สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน


[/color:314d971679">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#11 วันที่: 03/10/2006 @ 12:50:30 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000009 .000009

[u:626a29d399">[b:626a29d399">15) ตท.ขายหุ้นPTTPE-BPEให้ PTTCH [/b:626a29d399">[/u:626a29d399">

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือPTTเปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2549 บริษัทฯได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าคณะกรรมการ ปตท. ในการประชุมครั้งที่8/2548 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2549 ได้มีมติอนุมัติให้ ปตท. ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ ซึ่งรวมถึงการจำหน่ายหุ้นบริษัท พีทีที โพลิเอทิลีน จำกัด (PTTPE) และบริษัท บางกอกโพลีเอททีลีนจำกัด (มหาชน) (BPE) ที่ ปตท.ถืออยู่ทั้งหมดให้แก่บริษัท ปตท. เคมิคอลจำกัด (มหาชน) (PTTCH) นั้น

ทั้งนี้ปตท.ขอแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 2 ตุลาคม 2549 ปตท.ได้ทำการโอนหุ้นสามัญของ PTTPE และ BPE ที่ ปตท. ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน 11,500,000หุ้นและ 85,000,000 หุ้นตามลำดับ ให้แก่ PTTCH เรียบร้อยแล้ว และได้รับชำระเงินค่าหุ้นดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,750,000,000 บาทและ2,000,000,000 บาทตามลำดับจาก PTTCH เรียบร้อยแล้วในวันเดียวกันทั้งนี้ ภายหลังการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว จะมีผลให้ PTTCH เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แต่เพียงรายเดียวใน PTTPE และ BPE ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของแต่ละบริษัท

อนึ่ง การจำหน่ายหุ้น PTTPE และ BPE ดังกล่าวของ ปตท.ได้รับยกเว้นตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 ข้อ 7(4) และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่จะต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน แต่เป็นการรายงานการเข้าร่วมทุนหรือยกเลิกการเข้าร่วมทุนกับบริษัทอื่น โดยสัดส่วนของการเข้าร่วมทุนตั้งแต่ร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วของบริษัทที่เข้าร่วมทุน

ที่มา ผู้จัดการ

[/color:626a29d399">

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#12 วันที่: 03/10/2006 @ 13:04:11 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000007 .000007

[u:72cf114555">[b:72cf114555">16) หุ้น TISCO บวก 2.17% โบรกฯชี้เข้าเก็งกำไรหลังเทคนิคฟื้น-พื้นฐานปันผลดี [/b:72cf114555">[/u:72cf114555">

หุ้น TISCO บวก 2.17% มาอยู่ที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท เมื่อเวลา 11.14 น.โดยราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 23.60 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 22.90 บาท

นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า หุ้น TISCO ขยับขึ้นวันนี้ น่าจะเป็นการเก็งกำไรทางเทคนิค โดยราคาเริ่มฟื้นตัวค่อนข้างดี ช่วงนี้ตลาดไม่มีอะไร TISCO ก็ไม่มีข่าว ในแง่พื้นฐานช่วงหลังมีแต่รายย่อยแนะนำแค่ถือ แต่ทางเทคนิคราคาเริ่มฟื้นอาจจะไปได้อีกเล็กน้อยแถวๆ 24 บาท

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า จุดเด่นของ TISCO คือ Dividend Yield ค่อนข้างดี อาจจะเป็นการเข้ามาซื้อลงทุนมากกว่า
ในแง่ผลประกอบการไม่โดดเด่นมากเพราะสินเชื่อขยายตัวไม่ดีนัก แต่ปีหน้าถ้าแนวโน้มดอกเบี้ยอยู่ในขาลงก็เชื่อว่า TISCO จะได้รับประโยชน์ในแง่ต้นทุนการเงินที่ลดลง แนะถือ ราคาเป้าหมาย 26 บาท นักวิเคราะห์ กล่าว

[/color:72cf114555">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#13 วันที่: 03/10/2006 @ 13:57:51 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.000001 .000009

[u:3e7ab8d180">[b:3e7ab8d180">17) HMPRO บวก 1.27% โบรกฯมองบริษัทฯเติบโตดี-หลังเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม [/b:3e7ab8d180">[/u:3e7ab8d180">

หุ้น HMPRO ราคาขยับขึ้น 1.27% มาอยู่ที่ 8 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.95 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.55 น. โดยเปิดตลาดที่ 7.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 8 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 7.90 บาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต แนะซื้อหุ้น HMPRO ที่ราคาเป้าหมาย 12 บาท เนื่องจากคาดว่าบริษัทฯ ยังมีการเติบโตที่ดีหลังจากการเพิ่มทุน โดยมีระดับ D/E ลดลงเหลือเพียง 0.8 เท่า ณ สิ้นปี 2007 จาก 1.5 เท่า ณ สิ้น 2Q06 ขณะที่มีผล dilute ต่อกำไรราว 48% เนื่องจากจำนวนที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว และคาดว่า P/E จะเพิ่มขึ้นเป็น 12.2 เท่า ในปี 2007 เทียบกับ 11.1 เท่า ก่อนที่จะมีการเพิ่มทุน

ทั้งนี้ HMPRO ประกาศเพิ่มทุนเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา การเพิ่มทุนนี้เป็นการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 (เดิม): 1 (ใหม่) ในราคา 1 บาท/หุ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนได้ 961 ล้านบาท กำหนด XR ในวันที่ 7 พ.ย.06 และจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค.06

การใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนคือ เพื่อจัดซื้อที่ดิน และขยายสาขาใน 3 ปีข้างหน้า และเพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับสัดส่วนหนี้สิน/ทุนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น

ขณะที่บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะทยอยสะสมหุ้น HMPRO ประเมินมูลค่าหุ้นด้วย DCF ราคาที่เหมาะสมก่อน XR และหลัง XR เท่ากับ 8.30 และ 5.15 บาท ตามลำดับ พร้อมแนะนำให้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนสำหรับผู้ที่ถือหุ้นอยู่แล้ว ทั้งนี้ มีมุมมองที่เป็นบวกต่อ HMPRO การเพิ่มทุนซึ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นนอกจากจะช่วยเสริมความเข้มแข็งของฐานะการเงินแล้ว (โดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลง) ยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นด้วย ผลจาก Dilution คาดว่าจะถูกชดเชยด้วยการเติบโตของกำไรในระยะยาวจากการนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปขยายธุรกิจ ในขณะที่ผู้ถือหุ้นเดิมคือ LH, QH และผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่นๆ มีแนวโน้มจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน

ทั้งนี้ HMPRO จะมียอดขายที่เติบโตดีในไตรมาส 3/49 จากการที่ยอดขายต่อสาขาเดิมกลับมาเป็นบวกได้หลังจากติดลบในช่วงสองไตรมาสแรกของปี เนื่องจากการแย่งลูกค้ากันเองลดลง (Cannibalisation)อย่างไรก็ดี อัตรากำไรน่าจะลดลงจากการที่มีการจัดการส่งเสริมการขาย เช่น การลดราคาครั้งใหญ่

การขยายสาขายังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักโดยเฉพาะสาขาต่างจังหวัดซึ่งยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก HMPRO คาดว่าจะเปิดสาขา 10 แห่ง (8 แห่งในต่างจังหวัด) ในช่วงปี 49-50 ทำให้มีสาขารวมเป็น 30 แห่งด้วยพื้นที่ขายราว 200,000 ตรม. ในสิ้นปี 50 และคาดว่าจะเปิดอีก 10 แห่งภายในปี 52



^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#14 วันที่: 03/10/2006 @ 16:10:10 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
.0007 .0007

[u:069492fb40">[b:069492fb40">18) บอร์ด SIAM มีมติจ่ายปันผลประจำปีงวด 48/49 หุ้นละ 0.40 บาท [/b:069492fb40">[/u:069492fb40">

นายวันชัย คุณานันทกุล ประธานกรรมการ บมจ. สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล (SIAM) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 1/2549 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2549 มีมติให้จ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานปี 2548/2549 สิ้นสุดวันที่ 30
มิถุนายน 2549 เป็นจำนวนเงิน 237,250,339.60 บาท คิดเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท โดยให้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติอนุมัติ

พร้อมกับได้กำหนดประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2549 เวลา 14.30 น.ณ สำนักงานของบริษัทฯ โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลและสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 18 ตุลาคม 2549 ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2549


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#15 วันที่: 03/10/2006 @ 17:11:06 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
[u:893942d01d">[b:893942d01d">19) หุ้น SIAM ลบ 2.18% หลังประกาศจ่ายปันผล โบรกฯชี้ราคาขึ้นมากแล้ว[/b:893942d01d">[/u:893942d01d">

หุ้น SIAM ราคาปรับลง 2.18% ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 4.94 บาท ลดลง 0.11 บาท เมื่อเวลา 14.47 น. โดยเปิดตลาดที่ 5.05 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 5.20 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 4.90บาท

น.ส.รินดา โชคชูชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า หุ้น SIAM ที่ราคาปรับลงหลังประกาศจ่ายปันผลที่ 0.40 บาท น่าจะเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาราคาปรับขึ้นพอสมควรแล้ว โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.43 บ./หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 9.5% ให้ Fair value ที่ 5.38 บาท เป็น PE 5 เท่า

บ่ายนี้ SIAM แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2549 มีมติให้จ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานปี 2548/2549 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 เป็นจำนวนเงิน 237,250,339.60 บาท คิดเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท โดยให้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติอนุมัติ

^-^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#16 วันที่: 03/10/2006 @ 17:18:55 : re: ........ข่าวสดวันนี้........
[b:cc9adc5b53">[u:cc9adc5b53">20) ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งปิดบวก 63.48 จุดจากแรงซื้อกองทุน[/u:cc9adc5b53">[/b:cc9adc5b53">

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดสูงขึ้นในวันนี้ (3 ต.ค.) จากแรงซื้อใหม่ๆของกองทุนที่เข้ามาและแรงซื้อคืนในช่วงท้ายที่ช่วยหนุนให้ตลาดฟื้นตัวจากภาวะขาดทุนในช่วงเช้าได้

สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดบวก 63.48 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 17,606.53 จุด จากระดับต่ำที่ 17,428.10 และระดับสูงที่ 17,648.71 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.99 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง

ดีลเลอร์กล่าวว่า แรงซื้อคืนจากผู้จัดการกองทุนได้กระตุ้นหุ้นของแบงค์จีน เช่น ไชน่า เมอร์ชานท์ แบงค์ และไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ ขณะที่หุ้นสายการบินได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ

^-^
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com