May 4, 2024   8:39:32 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ยูมิจังมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 02/10/2006 @ 11:16:49
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

พบกับ ยูมิจัง วันที่ 2 ตุลาคม 2549

****แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามโผที่คาดการณ์ไว้ ...สุดท้าย พล.เอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็คว้าตำ แห่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 มาครอบครอง ...แม้ว่าจะมีความกังวลอยู่บ้างว่า ท่านเคยเป็นอดีตทหารเก่า แต่ยูมิจังเชื่อว่าการคัดสรรครั้งนี้คงจะเหมาะสมกับสถานการณ์แล้ว ยิ่งได้ฟังตอนท่านตอบคำถามสื่อมวลชน
มาดท่านสุขุมมากกกกกกค่ะ ...จากนี้ไปคงต้องรอลุ้นคณะรัฐมนตรีที่จะเข้ารวมทำงานว่าจะ work แค่ไหน ... ได้แต่ภาวนาขอให้ได้ทีมที่ดีมาร่วมงานเถิด .....สาธุ****

****ไม่รู้ช่วงนี้เป็นเทศกาลอะไรเอ่ย?? ....บจ.ทั้งหลายแหล่ตบเท้าเพิ่มทุนเป็นทิวแถว เป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นนัย-นัยไม๊หนอ ...มันตีความได้สองด้านว่า ตังค์ไม่พอใช้หรือเศรษฐกิจดีต้องขยายธุรกิจเพิ่ม ผู้ถือหุ้นอย่างคุณ-คุณ ท่าน-ท่าน คงต้องดีดลูกคิดให้มากมากก้อแล้วกัน****
****รูด...ดไปตามระเบียบหลังจาก KMC ประกาศเพิ่มทุน 527.81 ล้านหุ้นขายให้ผู้ถือเดิม ....งานนี้ เฮียวิรัตน์ บิ๊กบอส KMC มั่นใจว่าผู้ถือหุ้นใช้สิทธิหมดแน่ เพราะพื้นฐานบริษัทแกร่งออกเช่นนี้ ....ได้ยินเช่นนี้แล้วคนสวยละเหี่ยจายยยยยยยยยยย ....ขนาด PTTCH ที่ว่าแน่แถมพื้นฐานแข็งโป๊กยังตอบเสียงอ่อยว่า กลัวผู้ถือหุ้นมาใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนไม่หมด เพราะราคาสูงกว่ากระดาน ...คงต้องรอดูว่าขายหมดหน่ะหุ้นหรืออะไร...****
****ในที่สุดดีลซื้อขาย-หุ้นของ BAY-GE ต้องเหยียบเบรคดังเอี๊ยดดดดดดดดด ....หลังจากที่อากาศเปลี่ยนแปลง เอ้ย!! สถานการณ์ในประเทศเปลี่ยนแปลงบ่อยจึงจำใจต้องเลื่อนดีลออกไปเป็นม.ค.50 เพื่อรอให้ทุกอย่างนิ่งเสียก่อน ... เจ๊ชาลอต มาดามใหญ่ของ BAY คงร้อนๆหนาวๆแน่-แน่ แต่หลายฝ่ายฟันธงว่า ดีลนี้ไม่มีล่ม ชัวร์!!****
**** ฤดูกาลนี้ต้องหุ้นโรงพยาบาล-โรงแรมถึงจะอินเทรน ...เพราะช่วงนี้คนบาดเจ็บเยอะ ทั้งเจ็บจากหุ้น-การเมือง แถมอากาศยังเปลี่ยนแปลงบ่อยอีกใช่ม๊ะ ....เบื่อ-เบื่อ การบ้าน-การเมืองก็ตบเท้าไปนอนตีพุงในโรงแรมเล่นให้สบายใจ ....เงินทองถึงรั่วไหลของโรงบาล-โรงแรมเป็นว่าเล่น มีตังค์ก้อซื้อเก็บไว้หน่อยก็ดีนะจะได้ไม่ตกยุค****

 กลับขึ้นบน
arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
#1 วันที่: 02/10/2006 @ 11:20:10 : re: ยูมิจังมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
MINTสตารท์ไฮซีซั่นQ3

--------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MINT เริ่มออกสาตาร์เข้าสู่ช่วงไอซีซั่น แค่ประเดิมไตรมาส 3/2549 ยอดจองห้องพักขยับเพิ่มขึ้นถึง 70% แล้ว จากไตรมาส 2/2549 ส่วนไตรมาส 4 หายห่วง เพราะเป็นช่วงพีคของธุรกิจที่เริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซันเต็มสตีม มั่นใจทำรายได้ปีนี้โตตามเป้าเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่ 10,422 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอาหารยังแรงไม่แพ้กัน พร้อมเร่งขยายสาขา เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ดึงลูกค้าสุดฤทธิ์
ด้าน?ประภารัตน์ ตังควัฒนา?ผู้บริหารแย้มแผนเจรจาเข้าบริหารโรงแรมประเทศแถบตะวันออกกลางเพิ่ม หลังประสบความสำเร็จในดูไบไปแล้วก่อนหน้า คาดรายได้ธุรกิจโรงแรมเบียดแซงหน้าธุรกิจอาหารได้ในอนาคต ด้านโบรกเกอร์ขานรับเชียร์ ?ซื้อ? มองพื้นฐานแกร่งสุดๆ ให้เป้าหมาย 12.48 บาท
นางสาวประภารัตน์ ตังควัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MINT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/2549 คาดว่าจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจก็ตาม แต่อัตราการเข้าจองห้องพักอยู่ในสัดส่วนที่สูงขึ้นถึง 70%จากไตรมาส 2/2549 เพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป
ส่วนทิศทางการเติบโตของรายได้ในไตรมาส 4/2549 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นคาดว่าจะปรับตัวสูงสุด เพราะ โดยคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากกว่า 35% ของรายได้รวมปีนี้ทั้งปี จากการหลังไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้นจากเดิม
รวมทั้งการรับรู้รายได้จากรายได้จากการขายแฟรนไชส์ ในธุรกิจอาหารที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา และผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างจุดขายมากขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2549 เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 10,442 ล้านบาท
?ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารสูงถึง 50% ส่วนธุรกิจโรงแรมบริษัทมีการรับรู้รายได้ที่ประมาณ 40% และส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจสปาและพลาซ่า ซึ่งมองว่าอนาคตสัดส่วนรายได้จากการธุรกิจโรงแรมจะมีแนวโน้มที่เติบโตเพิ่มขึ้นได้ เพราะบริษัทเน้นการเข้าไปบริหาร เพื่อลดสัดส่วนการลงทุน และยังสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า รวดเร็วกว่าการลงทุนเอง?นางสาวประภารัตน์กล่าว
บุกแถบตะวันออกกลาง
ส่วนแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศนั้นขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาการเข้าไปบริหารงานในโรงแรม โดยเฉพาะในประเทศแถบตะวันออกกลาง เช่น คูเวต จอแดน บาเรน และตุรกี ซึ่งจากก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปบริหารโรงแรมในดูไบก่อนแล้ว และจะมีเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะเริ่มทยอยสรุปผลได้ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไป
ล่าสุดบริษัทได้เข้าไปรับบริหารงานให้กับโรงแรมในประเทศประเทศศรีลังกาจำนวน 4 แห่ง ซึ่งคาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้จากค่าธรรมเนียมและการบริการได้ตั้งแต่ปี 2550 โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
โบรกมองเป้า12.48บาท
บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) แนะ?ซื้อ? MINT ราคาเป้าหมาย 12.48 บาท โดยคาดกำไรจากการดำเนินปกติปี 2549 เติบโต 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดรายได้จากการดำเนินงานเติบโต 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดบริการโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ใหม่ 2 แห่งที่เชียงรายและสมุย รวมถึงแผนร่วมลงทุนกับโรงแรมชั้นนำ 2 แห่งในมัลดีฟส์ ประกอบกับมีการขยายสาขาร้านอาหารเพิ่ม 108 แห่ง เป็น 666 แห่ง และจำนวนสาขาสปาเป็น 26 แห่ง เพิ่มขึ้น 8 แห่ง จากปีก่อน ขณะเดียวกันแผนการลงทุนที่ประหยัดสินทรัพย์ (Asset Light) ไม่ต้องลงทุนเองทั้งหมด โดยเป็นการรับสิทธิบริหารโรงแรมและให้สิทธิแฟรนไชส์ธุรกิจอาหาร ซึ่งให้มาริ์จิ้นที่ดี น่าจะผลักดันให้กำไรสุทธิทั้งปี เติบโต 25%
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2549 คาดว่าจะเติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เฉลี่ยต่อปี 11.3% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ปัจจัยหลักมาจากการเปิดใช้สนามบินใหม่ และการขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำ ยังคงเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจโรงแรมในประเทศของ MINT ขยายฐานรายได้จากห้องพักได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ ทั้งใน มัลดีฟส์ ดูไบ ศรีลังกา และบาหลี ผ่านการร่วมลงทุนและรับสิทธิในการบริหาร จะทำให้ MINT มีจำนวนโรงแรมในพอร์ตการลงทุนจาก 15 แห่งในปี 2549 สู่ 30 แห่ง หรือ จำนวนห้องพักราว 5 พันห้องในปี 2553 และช่วยเพิ่มรายได้ธุรกิจโรงแรมให้ขยายตัว 18.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปี 2549 และ 16.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อปี อีก 5 ปีข้างหน้า
มองพื้นฐานแกร่ง
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น MINT ยังคงน่าสนใจลงทุน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยให้แนวรับที่ 9.20-9.00 บาท และแนวต้านที่ 10.00-10.20 บาท ดังนั้นแนะนำ ?ซื้อ?
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาหุ้น MINT ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้แนวรับที่ 9.20-9.00 บาท และ แนวต้านที่ 10.00 บาท แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ?ซื้อ?
ราคาหุ้น MINT ล่าสุด(29ก.ย.) ปิดตลาดทรงตัวที่ 9.55 บาท และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 6.20 ล้านบาท โดยปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 9.65 บาท
 กลับขึ้นบน
arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
#2 วันที่: 02/10/2006 @ 11:21:49 : re: ยูมิจังมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
?กรรมตามทัน?

--------------------------------------------------------------------------------

ดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของสหรัฐ ถือว่าดูดีทีเดียว ทำให้ดัชนีหุ้นดาวน์โจนเริ่มขยับขึ้นไปเรื่อยๆ ดึงเอาดัชนีตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นตามไปด้วย ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลกคงจะไม่มีอาการแกว่งไกวมากนักเนื่องจากโอเปค คงจะไม่มีการลดกำลังการผลิตในช่วงนี้แน่ๆ เนื่องจากเป็นช่วงถือศีลอดของผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ผลติน้ำมันทั้งนั้น คงจะไม่มีการประชุมโอเปคในเรื่องลดกำลังการผลิตน้ำมันซึ่งเป็นรายได้หลัก
ผู้อาวุโสในวงการค้าหุ้นเล่าให้ฟังว่า หลังจากผู้บริหารระดับสูงของตลาดหุ้นไทยที่ควบคุมดูแลหน่วยงานกำกับดูแล ถูกย้ายไปให้คุมหน่วยงานใหม่ ทำเอาคนที่ทำงานในหน่วยงานกำกับดูแลต่างหมดกำลังใจ และขวัญเสียเป็นอันมาก เพราะส่งผลให้ภาพพจน์ของหน่วยงานกำกับดูแลมีความน่าเชื่อถือลดลงไปมากทีเดียว โถ! พวกท่านจะหมดกำลังและขวัญเสียกันไปทำไม หากพวกท่านปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติ ต่อให้อะไรเกิดขึ้น ผู้บริหารจะเป็นใคร คนใหม่ หรือ คนเก่า คงไม่มีข้อแตกต่างกันมากมายหรอกครับ ยกเว้นคนที่ปฏิบัติงานแบบเลือกปฏิบัติต่างหาก ที่ควรจะเสียขวัญ เนื่องจากอาจจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้องนัก และเลือกปฏิบัติไว้ในบางกรณี อาจจะผวาที่จะต้องถูก ?กรรมตามทัน? เอากระมัง เพราะสมัยนี้ ?กรรมตามทัน? ได้รวดเร็วเสียด้วย หรือที่เรียกกันว่า ?กรรมติดจรวด? นั่นแหละ
ผู้อาวุโสในวงการค้าหุ้นยังเล่าให้ฟังด้วยความเมามันว่า สมัยนี้นอกจาก ?กรรมตามทัน? เพราะ ?กรรมติดจรวด? แล้ว ยังมีผู้บริหารในหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูงยังสามารถเปลี่ยนสีผิวได้อีก อย่างกรณีตรวจสอบหุ้นอภิมหายักษ์ใหญ่ของเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้ ออกแถลงข่าวซะอย่างอึกทึกครึกโครมว่าไม่พบความผิดปกติอะไรทั้งสิ้น แต่พอผู้บริหารบ้านเมืองต้องมีอันเปลี่ยนแปลงไป กลับแถลงข่าวออกมาว่าพร้อมที่จะตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้งว่าอะไรเป็นอะไร ผู้อาวุโสในวงการค้าหุ้นบอกว่า ?คนอะไร? เปลี่ยนสีได้รวดเร็วเหลือเกิน...นับถือ...นับถือ?
ส่งท้ายสัปดาห์นี้น่าจะมี Window Dressing เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเป็นวันสิ้นสุดการปิดงบไตรมาส 3 และงบการเงิน 9 เดือน คงจะมีการทำราคาหุ้นเพื่อให้ดูดีมีฐานะขึ้น ส่งผลให้งบการเงิน ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยดีขึ้นไปบ้างพอควร เพื่อรอรับเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติในรอบใหม่ หุ้นน่าจับตามอง คงจะหนีไม่พ้น BBL, KBANK, SCB, SCC, SCCC, AOT, TOP, RRC, THAI แค่ 9 รายนี่ก็พอเพียงต่อการจับตาดูแล้วกระมัง ขืนจับตาดูมากกว่านี้ เดี๋ยวจะดูแลหุ้นในพอร์ตไม่ทัน
เก็งกำไรทางเทคนิค TPI แนวรับ 6.70 ? 6.90 แนวต้าน 7.20 ? 7.60
TKS แนวรับ 2.62 ? 2.6 แนวต้าน 2.80 ? 3.00
ซื้อลงทุน BCP ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท, DELTA ราคาเป้าหมาย 22 บาท
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com