May 4, 2024   6:33:36 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวสดสดวันนี้
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 02/10/2006 @ 10:05:37
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[u:47f72b1ab1">[b:47f72b1ab1">1) BAY แขวนแผนปี 50 รอนโยบายรัฐฯ นักวิชาการขอทีมเศรษฐกิจคุณภาพ [/b:47f72b1ab1">[/u:47f72b1ab1">

ผู้บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุแผนงานทั้งปี 2550 ธนาคารต้องรอความชัดเจนของ คณะรัฐบาลชุดใหม่ ด้านนักวิชาการยืนยัน ตัวผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่สำคัญเท่าภาพรวมต้องรัฐมนตรีทั้งคณะ

แผนงานของธนาคารในปีนี้ ธนาคารก็ยังคงเดินหน้าต่อไปตามแผนงานเดิมตามปกติ ส่วนแผนงานในปีหน้าจำเป็นที่ธนาคารจะต้องรอดูสถานการณ์ก่อนมีการตัดสินใจในการตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อต่างๆ ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม สำหรับสินเชื่อปีนี้คาดว่าน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 33,000 ล้านบาท นางชาลอต กล่าว

คาดว่านักลงทุนต่างก็รอดูการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เป็นหลักมากกว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ออกมาในทิศทางใด สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ประเทศอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงต่างชาติ คือ ช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจในประเทศทั้งภาคเอกชนและภาครัฐจนแข็งแกร่ง ก็เชื่อว่าต่างชาติก็จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเอง ทั้งนี้ อยากให้ยึดกรณีวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เป็นสำคัญ นางชาลอต กล่าว

นางชาลอต กล่าวถึงบุคคลผู้จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ว่า นายกรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารประเทศคนใหม่นั้น ไม่ว่าจะมาจากสายใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่สะดุด ซึ่งองค์ประกอบที่สำคัญที่นักธุรกิจทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติต่างจับตามอง คือ โฉมหน้าของทีมงานที่จะเข้ามาช่วยนายกในการบริหารประเทศ สำหรับนายกคนใหม่ที่จะมาบริหารประเทศนั้น จะมาจากสายไหนก็ได้ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ทีมงานที่จะเข้ามาช่วยมากกว่า เพราะนายกไม่ได้ทำงานเพียงคนเดียว ดังนั้นหากได้ทีมงานที่ดีก็จะช่วยได้มาก ส่วนหลักการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่นั้น เชื่อว่า คปค.เองก็ดูจะเร่งของภาระเร่งด่วนเป็นสำคัญ ดังนั้น เชื่อได้ว่าไม่น่ามีปัญหา นางชาลอต กล่าว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกล่าวแสดงทรรศนะเกี่ยวกับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ว่า ควรจะเป็นบุคคลที่ เป็นที่ยอมรับของสังคม ส่วนคุณสมบัติพื้นฐานอยากให้เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ สามารถเข้าใจในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ โดยเฉพาะคุณสมบัติของการเป็นนักประสานงานที่ดี ที่สำคัญกว่านั้นคือทีมเศรษฐกิจ และทีมกฎหมายที่จะเข้ามาช่วยนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ คณะทำงานต้องทำงานอย่างกระชับ รวดเร็ว เป็นกลาง มีมุมมองที่กว้าง


ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ ต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า หากผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีความชำนาญด้านเศรษฐกิจ จะได้รับการยอมรับจากนักลงทุนต่างชาติในทันที แต่หากเป็นผู้มีความชำนาญด้านอื่น นักลงทุนต่างชาติคงต้องรอดูผลงานก่อน


ผมว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะยังคงต้องมีต่อไป เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้สามารถทรงตัวได้ แม้จะไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่แต่ก็จะไม่ทรุดตัวลงไปมากกว่านี้ โดยเศรษฐกิจปีนี้น่าจะโตได้ประมาณ 4% - 4.5% ส่วนปีหน้านั้น คงต้องดูนโยบายรัฐบาลชุดใหม่เป็นหลัก โดยเฉพาะโฉมหน้าทีมเศรษฐกิจอย่างกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ นายธนวรรธน์ กล่าว

โดย กระแสหุ้น

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 02/10/2006 @ 10:09:39 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:8fa1f397b5">[b:8fa1f397b5">2) อีสท์วอเตอร์ หวังยอดขายน้ำดิบปีหน้าโต 10% [/b:8fa1f397b5">[/u:8fa1f397b5">

จากภาคครัวเรือนแถบพื้นที่ใกล้เคียงสุวรรณภูมิและภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี วันชัย ระบุยอดขายน้ำปีนี้โตเฉลี่ย 5% พลาดเป้าจากช่วงต้นปี เหตุปริมาณน้ำฝนมาก ล่าสุดปรับแผนธุรกิจน้ำดื่มหันให้บริการดูแลรักษาท่อน้ำ มั่นใจปีนี้เลิกขาดทุน ส่วนบริษัทย่อย ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์บอร์ดสั่งชะลอแผนเข้าตลาด

อย่างไรก็ตามปีนี้แนวโน้มยอดขายน้ำดิบเติบโตประมาณ 5% หรือเท่ากับ 200 ล้านบาท จากปี 2548 ที่มียอดขาย 190 ลูกบากศ์เมตร ซึ่งยอมรับว่ายอดขายดังกล่าวลดลงจากประมาณการเดิมที่ตั้งเป้าไว้เมื่อช่วงต้นปีที่ระดับ 8-10% เนื่องจากปีนี้มีปริมาณน้ำฝนเข้ามาค่อนข้างมาก ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้น้ำในบางเก็บน้ำของตนเอง อีกทั้งเมื่อช่วงต้นปี 49 เกิดกังวลภาวะแล้งผลลูกค้าใช้น้ำในปริมาณลดลง


สำหรับธุรกิจให้น้ำดื่ม บริษัทเตรียมปรับแผนธุรกิจใหม่ โดยเน้นให้บริการดูแลติดตั้งท่อน้ำทุกประเภท ไปพร้อมๆกับการลดขนาดของธุรกิจให้การบริการตู้น้ำดื่มให้จำนวนตู้น้อยลง เพื่อลดการขาดทุนทุกเดือนๆละประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งภายในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทยอยลดผลการขาดทุนในลดลง โดยคาดว่าในเดือนตุลาคมบริษัทน่าจะลดเหลือเพียง 500,000 บาท


นายวันชัยกล่าวต่อถึงแผนการนำบริษัทยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัท โดยที่ประชุมมีมติให้ชะลอนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดไปก่อน เนื่องจากภาวะตลาดในช่วงนี้ไม่ค่อยเอื้อ อีกทั้งนโยบายการดำเนินงานของทางบริษัทยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ ต้องเกี่ยวข้องกับนโยบายภาครัฐบาลว่าจะยังคงอนุญาตให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนน้ำปะปาในรูปแบบสัมปทานตามเดิมหรือไม่

อย่างไรก็ดีหากคณะกรรมการบริษัทมีแผนยุบการนำบริษัทยูนิเวอร์แซล บริษัทยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนดำเนินงาน เนื่องจากบริษัทยังมีวิธีระ[/color:8fa1f397b5">


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 02/10/2006 @ 10:50:03 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:852bc5ea79">[b:852bc5ea79">3) THAINVDR ถือหุ้น SE-ED 4.98% หลังขายออก 0.05% [/b:852bc5ea79">[/u:852bc5ea79">

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับแบบรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ. ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED) โดย บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 27/09/2549 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น -0.05% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 4.98% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

[u:852bc5ea79">[b:852bc5ea79">4) TPIPL จ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.25 บาท จ่าย 27 ต.ค.[/b:852bc5ea79">[/u:852bc5ea79"> [/color:852bc5ea79">

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 02/10/2006 @ 10:54:44 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:12d4620633">[b:12d4620633">5) PTTEP จ้าง PTT ICT เป็นเวลา 5 ปี วงเงิน 702 ลบ. [/b:12d4620633">[/u:12d4620633">

นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549 มีมติอนุมัติให้ ปตท.สผ. ลงนามในสัญญาว่าจ้าง PTT ICT เพื่อให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแก่บริษัทฯ โดยมีกำหนดอายุสัญญา 5 ปี นับตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2549 เป็นต้นไป วงเงินค่าจ้างรวมทั้งสิ้นประมาณ 702 ล้านบาท (ในสัดส่วนของ ปตท.สผ.) โดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาดังกล่าวภายในเดือนตุลาคม 2549

อนึ่ง ปตท.สผ.ได้ร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท พีทีที ไอซีที โซลูชั่นส์ จำกัด (PTT ICT) ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 20[/color:12d4620633">

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#4 วันที่: 02/10/2006 @ 11:22:19 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:2975708efb">[b:2975708efb">6) EGCOMPเร่งสปีดลุยงานต่างด้าว [/b:2975708efb">[/u:2975708efb">

ผู้บริหาร บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) EGCOMP เร่งสปีดลุยงานต่างประเทศเพิ่มจ่อคิว 4 โครงการรวด มั่นใจซิวได้ยกแผง ประเดิมลาว 2 โครการหลังเข้าเจรจา กฟผ.และ RATCH เป็นพันธมิตร ขณะที่โครงการตะวันออกกลางแตะเบรกตัวโก่งหลังสถานการณ์ไม่เอื้อ ด้านบิ๊กล็อตโผล่กระฉูดหลังงานในมือเพียบ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้สัญญาณเทคนิคอยู่ในเกณฑ์ดี แนะ?ซื้อลงทุน? ให้แนวรับ 79-77 บาท แนวต้านที่ 82-84 บาท

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น EGCOMP วานนี้(29ก.ย.49) ปิดที่ราคา 80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.63% มูลค่าการซื้อขาย 47.48 ล้านบาท

นายวิศิษฐ์ อัครวิเนต กรรมการผู้จัดการ บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) EGCOMP เปิดเผยว่า การที่มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ หรือบิ๊กล็อต EGCOMP จำนวน 55,000 หุ้น มูลค่า 4.427 ล้านบาท ในราคาเฉลี่ย 80.50 บาทวานนี้(29 ก.ย.49)นั้นเนื่องจากธุรกิจไฟฟ้ายังมีการเติบโตที่ดรต่อเนื่องตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีการเข้าไปลงทุนในหลายประเทศ

?เรื่องบิ๊กล็อตนั้นคงมากจากความมั่นใจของนักลงทุนในศักยภาพของบริษัท และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงครึ่งปีหลังบริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรหลายรายเพื่อเข้าไปลงทุนในหลายๆประเทศมากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้มีอัตราการเติบโตที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง?นายวิศิษฐ

สำหรับความคืบหน้าในการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศนั้นปัจจุบันในตะวันออกกลางได้มีการชะลอออกไปก่อนหลังสานการณ์ไม่เอื้ออำนวย โดยจะหันไปเน้นลงทุนใน 3 ประเทศหลัก อาทิ ลาว พม่า และฟิลลิปปินส์ โดยในส่วนของลาวมีโครงการน้ำเทิน 1 ซึ่งมีระยะเวลาสัญญา 25 ปีมูลค่าโครงการ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ในเรื่องอัตราการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือนม.ค.2550 และสามารถเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ในปี 2551 และคาดว่าจะแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ทันทีในช่วงปี 2556

นอกจากนี้ยังมีโครงการหงษ์ลิกไนท์ที่มีกำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกฟผ.และ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) RATCH รวมถึงนักลงทุนต่งชาติในการร่วมลงทุนซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2549 นี้ โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนการลงทุนในประเทศฟิลลิปปินส์ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการรอประมูลซื้อโรงไฟฟ้าเอกชนมูลค่ากว่า100 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงต้นปี 2550 ซึ่งคาดว่าจะสามารถชนะการประมูลหลังจากบริษัทมีดรงไฟ่เดิมอยู่แล้วถึง 2 โรง ขณะเดียวกันโครงการที่ประเทศพม่าก็ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับกฟผ.เพื่อขอร่วมทุนในการเข้าไปประมูลโครงการมุลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญ

นายวิศิษฐ์ เปิดเผยต่อว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2549 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2549 ที่มีกำไร 1,582.68 ล้านบาท ส่วนทั้งปี 2549 คาดว่าจะมีรายได้เป้นไปตามเป้าหมายที่ 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 19% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 16853.92 ล้านบาท
นายกมลชัย พลอินทวงศ์ ผู้อำนวการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า สัญญาณเทคนิค EGCOMP อยู่ในเกณฑ์ดีราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ แนะนำซื้อลงทุน ให้แนวรับที่ 79-77 บาท แนวต้านที่ 82-84 บาท

ที่มา ทันหุ้น




^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#5 วันที่: 02/10/2006 @ 11:24:36 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:0251cbd18c">[b:0251cbd18c">7) HEMRAJใจกว้างปันผลครึ่งแรก0.03 บ. [/b:0251cbd18c">[/u:0251cbd18c">

บอร์ด HEMRAJ ใจกว้างยอมให้บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท จากผลกำไรในครึ่งปีแรกที่เติบโตถึงระดับ 630 ล้านบาท แย้มผลการดำเนินงานทั้งปียังวิ่งชนเป้าที่ตั้งไว้ที่ระดับ 4,000-5,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2548 ที่มีรายได้ทั้งสิ้น 3,009 ล้าน เชื่อยอดขายที่ดินทั้งปีผ่านฉลุย 800-1,000 ไร่ ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ชี้การเมืองไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจแนะเล่น?เก็งกำไร?ราคาเหมาะสม 1.10 บาท

นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) HEMRAJ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549 ได้มีมติมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2549 โดยกำหนดจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2549 เวลา 12.00 น. ในราคาหุ้นละ 0.03 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 271,037,024.85 บาท และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2549

? ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2549 บริษัทมีรายได้ทั้งสิ้น 1,941 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 630 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทจึงเห็นควรที่จะให้บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น? นายเดวิดกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานทั้งปีบริษัทยังคงเชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 4,000-5,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2548 ที่บริษัทมียอดรับรู้รายได้ทั้งสิ้น 3,009 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทยังคงคาดว่ายอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ประมาณ 800-1,000 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ารายเดิมได้มีการพูดคุยตกลงกันมาในระดับหนึ่งแล้วในขณะที่ลูกค้าใหม่ก็พยายามที่จะหาอยู่ตลอด

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) แนะนำ เล่น ?เก็งกำไร?ในหุ้น HEMRAJ ราคาตามปัจจัยพื้นฐาน 1.10 บาท โดยคาดว่า HEMRAJ อาจจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในระยะสั้น แต่ผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก จากการที่ผู้บริหารยังยืนยันว่ายอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมอาจจะลดลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1,000 ไร่ จากปัญหาการเมืองในช่วงนี้ แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 800 ไร่ โดยลูกค้าหลักอีกกลุ่มหนึ่งของบริษัทคือกลุ่มปิโตรเคมียังมีการขยายการลงทุนตามแผน ซึ่งยอดขายที่ดิน 800 ไร่ ยังสูงกว่าที่ประมาณการว่าบริษัทจะมียอดขายที่ดิน 500-600 ไร่ ในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จาก The Park Chidlom ตามสัดส่วนการก่อสร้างที่ยังคืบหน้าตามแผน ทั้งนี้โครงสร้างรายได้ของ HEMRAJ ปี 2549 ประกอบด้วย รายได้จากการขายที่ดิน โรงงาน เพียง 24% รายได้จากบริการ 16% และรายได้จากคอนโด 60% ทำให้ผลกระทบจากการชะลอตัวของยอดขายที่ดินช่วงสั้นไม่รุนแรง ดังนั้น ยังคงประมาณการกำไรไว้ตามเดิมที่1.3 พันล้านบาทกำไรต่อหุ้น (Fully Ditlued) เท่ากับ 0.14 บาท เติบโต 30%
ราคาหุ้น HEMRAJ ( 29 ก.ย.49) ปิดซื้อขายที่ 0.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 41.92 ล้านบาท
[/color:0251cbd18c">
ที่มา ทันหุ้น





^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#6 วันที่: 02/10/2006 @ 11:35:43 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:2c0f199ffa">[b:2c0f199ffa">8) BTส่อแววหาพันธมิตรใหม่เพิ่ม [/b:2c0f199ffa">[/u:2c0f199ffa">

โบรกเกอร์ฟันธงBTต้องหาพันธมิตรใหม่เพิ่ม เหตุTPG Newbridgeเป็นแค่กองทุนที่เข้ามาลงทุนระยะสั้น ไม่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจนอกจากได้เงินทุนเพิ่ม คาดหลังกองทุนฟื้นฟูฯ เคลียร์เงินบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ 1.1 หมื่นล้านบาท แบงก์จะเดินหน้าหาพันธมิตรได้ ส่วนกลยุทธ์ลงทุนเทคนิคให้แนวต้าน 6.45-6.60 บาท และแนวรับ 5.90 บาท

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด(มหาชน) BT อาจจะต้องมีการหาพันธมิตรอีกครั้ง หลังจากที่ธนาคารได้มีมติอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กับกองทุน TPG Newbridge ของสหรัฐ จำนวน 24.99% หรือ 500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 5-7 พันล้านบาท เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเข้ามาลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น และไม่มีการผนึกกำลังธุรกิจในด้านใดๆ นอกเหนือจากเข้ามาสนับสนุนเงินทุนเพิ่มขึ้นเท่านั้น จึงคาดว่าในอนาคตธนาคารจะต้องดำเนินการหาพันธมิตรเข้ามาลงทุนระยะยาว ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้านระบบ และการบริหารงานต่างๆได้

สำหรับกรณีที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) มีมติจะจ่ายเงินชดเชยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพตามวิธี Gain/loss sharingมูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย เพิ่มเติมจากครั้งก่อนที่มีการจ่ายไป 8 หมื่นล้านบาทให้กับBTนั้น จะต้องรอดูว่าจะบันทึกในส่วนของกำไรหรือขาดทุน แต่คาดว่าจะส่งผลดีเนื่องจาก BT ไม่มีCAP และจะมีความคล่องตัวในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามหลังจากหมดภาระการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้กับกองทุนฟื้นฟูฯ(CAP)จะมีความชัดเจนในการหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่เข้ามาได้ โดยก่อนหน้านี้ธนาคารระบุว่าการเจรจา TPG Newbridge ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเนื่องจากธนาคารยังต้องเจรจาเรื่องผลตอบแทนจากการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้กับFIDF โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่โอนให้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.) ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ชดเชยส่วนที่โอนไปยังบสท. แตกต่างจากเงื่อนไขที่ธนาคารขอชดเชยกับทางการ

โดยธนาคารขอชดเชยจำนวน 8.6 พันล้านบาท แต่ครม. มีมติให้ 7 พันล้านบาท ทำให้ธนาคารได้รับผลกระทบจากการลงบันทึกรับรู้เป็นรายได้ ที่ทำไว้ในรอบครึ่งปี ต้องเปลี่ยนมารับรู้เป็นผลขาดทุน 1.6 พันล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกของธนาคารปรับจากที่เคยกำไร 604 ล้านบาท เป็นขาดทุน ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ในส่วนของ ผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ BT บริหารเองยังคงมีกำไรตามปกติโดยคาดว่าจะสรุปได้ในเดือนก.ย.นี้

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า BT ได้มาหารือเรื่องการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตรต่างชาติ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน

ทั้งนี้ BT มีแผนเพิ่มทุนโดยออกหุ้นใหม่จำนวน 940 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 500 ล้านหุ้น เสนอขายให้ TPG Newbridge ซึ่งเป็นกองทุนจากสหรัฐอเมริกา ในสัดส่วนไม่เกิน 24.99% ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือจะขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และนักลงทุนทั่วไป โดยจะกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนในต้นปีหน้า

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคบริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า กลยุทธ์ลงทุนทางเทคนิค BT จะมีแนวต้าน 6.45-6.60 บาท แนวรับ 5.90 บาท
BT(29 ก.ย.)ปิดที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.63% มูลค่าซื้อขาย 375,460 บาท [/color:2c0f199ffa">






^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#7 วันที่: 02/10/2006 @ 11:48:49 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:df12171ba6">[b:df12171ba6">9) บีทีเน้นรุกลูกค้านอกตลาด [/b:df12171ba6">[/u:df12171ba6">

นายสมเกียรติ สืบทรัพย์อนันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านตลาดตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บีที จำกัด หรือ BTSEC เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไปรูปแบบการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) จะเป็นรูปแบบของการซื้อขายนอกตลาดมากกว่าการซื้อขายในตลาด โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักลงทุนประเภทสถาบัน และกลุ่มนักลงทุนที่มีเงินทุนสูง ที่ต้องการการลงทุนที่มีรูปแบบแปลกใหม่

ทั้งนี้ การเติบโตของตลาด TFEX มีทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่เปิดให้บริการมาในเดือนเมษายน 2548 โดยสังเกตได้จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การที่จะตลาดจะเติบโตได้จะต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่ เพราะหากมีผลิตภัณฑ์ในปริมาณน้อยจะไม่สามารถสร้างปริมาณในการซื้อขายให้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตหลังจากที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้วจะส่งผลตลาด TFEX มีขนาดใหญ่กว่าตลาดหุ้นแต่จะต้องใช้ระยะเวลานาน
?ส่วนที่จะทำให้ตลาดโตขึ้นได้คือจะต้องมีเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และการเข้ามาลงทุนของสถาบัน ซึ่งในไทยยังคงมีสัดส่วนที่น้อยหากเทียบกับต่างประเทศที่นักลงทุนสถาบันจะมีสัดส่วนการลงทุนมากกว่า? นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า แผนงานของบริษัทในขณะนี้ยังคงเป็นช่วงที่เพิ่งจะเริ่มต้น ซึ่งจะต้องติดตามการเติบโตของตลาดว่าจะเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้ในช่วงแรกจะยังไม่รุกตลาดมาก เนื่องจากจะต้องรอนโยบายของผู้ร่วมทุนซึ่งได้แก่ กองทุน TPG Newbridge จากสหรัฐอเมริกา ในการกำหนดนโยบายของธนาคารไทยธนาคาร รวมถึงบล.บีทีซึ่งเป็นบริษัทย่อยด้วย

?มีโอกาสที่พันธมิตรจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ ซึ่งตอนนี้จะต้องดูว่าผู้ร่วมทุนรายนี้จะเข้ามาจัดการอย่างไร โดยขณะนี้เป็นข้อจำกัดของบริษัทที่ไม่สามารถรุกตลาดอนุพันธ์ได้อย่างเต็มที่ เพราะหากในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบริษัทจะต้องปรับตัวตามไปด้วย? นายสมเกียรติกล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ในช่วงแรกของธุรกิจ TFEX ของบริษัทจะเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ให้ขึ้นไปอยู่ในระดับ 2% ภายใน 1 ปีจากปัจจุบันอยู่ที่ 1% และเพิ่มเป็น 5% ในอนาคต ซึ่งมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นฐานลูกค้ารายย่อยที่มีอยู่

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเน้นการสร้างฐานลูกค้าบนพื้นฐานการให้ความรู้แก่นักลงทุน ซึ่งทางบริษัทมีแผนที่จะให้ความรู้จนถึงสิ้นปี และในวันที่ 14 ตุลาคม 2549 ทางบริษัทได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์ ที่ห้องประชุมชั้น 23 ธนาคารไทยธนาคาร สำนักงานใหญ่ ถนนสาทร ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 0-2657-9000

นอกจากนี้ แผนงานในอนาคตบริษัทกำลังศึกษาการให้บริการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Internet Trading) เนื่องจากปริมาณการซื้อขายยังมีปริมาณไม่มากนัก ดังนั้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตเทรดดิ้งจะยังไม่จำเป็นในขณะนี้ แต่เชื่อว่าในอนาคตบริษัทจะให้บริการอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีการยื่นขอเป็นผู้เสริมสภาพคล่องในตลาด (มาร์เก็ตเมกเกอร์) บริษัทจำเป็นที่จะต้องรอให้สัดส่วนของมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นกว่าในปัจจุบัน เพื่อที่จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงภายหลังจากที่มีการรับพอร์ตการลงทุนในปริมาณที่มาก
[/color:df12171ba6">
ที่มา ทันหุ้น

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#8 วันที่: 02/10/2006 @ 11:51:49 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:37ff52f9b1">[b:37ff52f9b1">10) เผยTSFCคุมเข้มปล่อยกู้มาร์จิ้น หลังหุ้นเก็งกำไรกลับมาคึกคัก [/b:37ff52f9b1">[/u:37ff52f9b1">
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2549 09:53 น.


บริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์คุมเข้มการปล่อยกู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์หลังหุ้นเก็งกำไรกลับมาคึกคักอัครรัตน์ เผยยอดการกู้ลดลงกระทบรายได้หลังนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ แต่ยังเชื่อผลการดำเนินงานปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมา เผยมีหุ้น 38 บริษัทไม่อนุญาตให้มีการซื้อหรือใช้เป็นหลักประกันเพิ่ม

นายอัครรัตน์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด หรือ TSFC กล่าวถึงธุรกิจการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ว่า ปัจจุบันบริษัทมีการทบทวนหลักทรัพย์ที่เปิดให้มีการกู้ยืมเพื่อซื้ออย่างต่อเนื่อง จากปกติจะมีการทบทวนหลักทรัพย์เดือนละครั้ง เป็นทบทวนตามสถานการณ์ในตลาดหุ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ในหลักทรัพย์ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงกับธุรกิจ

ทั้งนี้มาตรการในการพิจารณาหลักทรัพย์ที่ปล่อยให้มีการกู้เพื่อลงทุนของบริษัทยังเข้มงวดเหมือนเดิมและได้มีการเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในสถานการณ์ที่หุ้นเก็งกำไรเริ่มกลับเข้ามาได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นเหมือนปัจจุบัน

สำหรับธุรกิจของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบบ้างจากการที่นักลงทุนรายย่อยในประเทศกลับมาเป็นนักลงทุนที่ขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีธุรกรรมที่จะต้องมาขอสินเชื่อเพื่อซื้อหุ้นลงทุน เนื่องจากการปล่อยกู้ของบริษัทจะปล่อยกู้ให้เฉพาะนักลงทุนในประเทศเท่านั้น

อย่างไรก็ตามบริษัทยังเชื่อว่าในปีนี้ผลการดำเนินการของบริษัทจะต้องดีกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากการกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ยังคงมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนการตลาด หรือมาร์เกตแชร์ในธุรกิจให้กู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์ยังคงเป็นอันดับหนึ่งที่ 24-25%

นายอัครรัตน์ กล่าวอีกว่า การกู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนมีทั้งกลุ่มที่กู้เพื่อลงทุนในระยะสั้นกับนักลงทุนที่ต้องการกู้ยืมเพื่อลงทุนซึ่งในกลุ่มหลังบริษัทค่อนข้างจะสนับสนุนในการปล่อยกู้เนื่องจากความเสี่ยงจะน้อยกว่า เพราะหลักทรัพย์ที่นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวจะเลือกลงทุนจะเป็นหลักทรัพย์ที่ปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างดี

เราชอบลูกค้าที่มากู้เราไปถือลงทุนนานๆมากกว่า ลูกค้าที่กู้ไปในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนมีการเข้ามาทำกำไรจากการลงทุนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากเป็นการป้องกันความเสี่ยงของบริษัทได้อีกทางหนึ่งนายอัครรัตน์กล่าว

สำหรับรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่อนุญาตให้ลูกค้าซื้อและ/หรือนำมาเป็นหลักประกันเพิ่ม หลักทรัพย์ที่ไม่อนุญาตให้ลูกค้าซื้อในบัญชีมาร์จิ้น ประจำเดือนกันยายน รวมจำนวน 238 บริษัท พบว่า มีหลักทรัพย์ที่ถูกจัดอยู่ในเกรด A คือ กลุ่มที่ต้องมีหลักประกันขั้นต้น 50% อัตรามูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ 35% และมูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ 25% จำนวน 126 บริษัท

ส่วนเกรด B คือ กลุ่มที่ต้องมีหลักประกันขั้นต้น 60% อัตรามูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ 35% และมูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ 25% จำนวน 64 บริษัท, เกรด C กลุ่มที่ต้องมีหลักประกันขั้นต้น 70% อัตรามูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ 35% และมูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ 25% จำนวน 40 บริษัท และเกรด D คือ กลุ่มที่ต้องมีหลักประกันขั้นต้น 80% อัตรามูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ 50% และมูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ 35% จำนวน 8 บริษัท

ทั้งนี้ จากจำนวน 238 บริษัทที่บริษัทหลักทรัพย์อนุญาตให้ลูกค้ากู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์ พบว่ามี 38 บริษัทที่ไม่อนุญาตให้ซื้อเพิ่มในบัญชีมาร์จิ้นและ/หรือนำเป็นหลักประกันเพิ่ม

สำหรับอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์อยู่ที่ 5.75% ต่อปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดในกรณีลูกค้าผิดนัดและ/หรือผิดสัญญาอยู่ที่ 20%ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยคงเหลือของลูกค้าในบัญชีมาร์จิ้น (คำนวณถัวเฉลี่ย ณ.สิ้นเดือนสิงหาคม 2549)อยู่ที่ 2.6905% ต่อปี

ที่มา ผู้จัดการ

[/color:37ff52f9b1">

^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#9 วันที่: 02/10/2006 @ 13:31:49 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:4a97462690">[b:4a97462690">11) MPT ยุบรวม MTI มีผล 2 ต.ค.นี้ ยืนยันไม่กระทบกำลังการผลิต [/b:4a97462690">[/u:4a97462690">

นายอัลเบิร์ท ออง คิม กวน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บมจ.แมกเนคอมพ์ พรีซิซั่น เทคโนโลยี (MPT) เปิดเผยว่า การยุบรวมกิจการบริษัท แมกเนคอมพ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MTI เพื่อเป็นสาขาหนึ่งของบริษัท จะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 49 เป็นต้นไป

การรวมกิจการของแมกเนคอมพ์ (ประเทศไทย) เข้ากับกิจการของบริษัทนี้ เป็นเพียงการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการบริษัทภายในเครือแมกเนคอมพ์ ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต อีกทั้งยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ และการให้บริการของกลุ่มบริษัทในระยะยาว

ทั้งนี้ การยุบรวมดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการปฏิบัติงานด้านการผลิตของ MTI ซึ่งตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ และที่อ.วังน้อย จ.อยุธยา

มั่นใจว่า การจัดโครงสร้างบริษัทในเครือแมกเนคอมพ์ใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันโดยรวมของกลุ่มบริษัทครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถบริการลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น นายอัลเบิร์ท กล่าว

12) [u:4a97462690">[b:4a97462690">EGCOMP บวก 2.5% โบรกฯชี้แนวโน้มมีกำลังการผลิตเพิ่ม-ผลประกอบการมั่นคง [/b:4a97462690">[/u:4a97462690">

หุ้น EGCOMP บวก 2.50% ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท เมื่อเวลา 10.48 น. โดยเปิดตลาดที่ 80.50 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 82.50 บาท ราคาปรับลงต่ำสุดที่ 80.50บาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า แนะซื้อหุ้น EGCOMP เนื่องจากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าเป็นหุ้น Defensive ซึ่งผลประกอบการไม่ค่อยจะผันผวนและมีความเสี่ยงต่ำ ราคาเทรดยังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานที่ประเมินไว้ที่ 96 บาท

EGCOMP มีความแน่นอนในเรื่องของผลประกอบการ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรผลประกอบการน่าจะอยู่ในระดับ OK เพราะมีสัญญาระยะยาวกับกฟผ.อยู่แล้ว EGCOMP มีการเติบโตของกำลังการผลิต ซึ่งกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแง่ที่ว่าจะมีโรงไฟฟ้าใหม่ๆ น่าจะช่วยให้รับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น นักวิเคราะห์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นโรงไฟฟ้า BLCP ที่จะเปิดไตรมาส 4/49 โดย EGCOMP มีแผนว่าจะไปขอซื้อ BLCP ด้วย ถ้าซื้อได้ก็จะรับรู้รายได้ทันที รวมทั้งมีเงินปันผลสม่ำเสมอเฉลี่ย 4-5% เป็นหุ้นที่ค่อนข้างมีความมั่นคงราคาหุ้นไม่น่าตกลงมากถึงแม้สถานการณ์จะแย่อย่างไรก็ตาม

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ซีมิโก้ แนะนำหุ้นกลุ่ม Defensive โดยเฉพาะ EGCOMP เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง และความผันผวนทางเศรษฐกิจน้อย และรายได้มีความมั่นคง EGCOMP โดยมีมูลค่าพื้นฐาน 91 บาท
เช้านี้ นสพ.ระบุผู้บริหาร EGCOMP เร่งสปีดลุยงานต่างประเทศเพิ่มจ่อคิว 4 โครงการรวด มั่นใจได้หดด ประเดิมลาว 2 โครงการหลังเข้าเจรจา กฟผ.และ RATCH เป็นพันธมิตร ขณะที่โครงการตะวันออกกลางแตะเบรกตัวโก่งหลังสถานการณ์ไม่เอื้อ



^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#10 วันที่: 02/10/2006 @ 13:33:50 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:2d5656e5fa">[b:2d5656e5fa">13) TNH พุ่ง 5.88% สูงสุดจากวันเข้าตลาด รับผลดีจากชุมชนแถบสุวรรณภูมิขยาย [/b:2d5656e5fa">[/u:2d5656e5fa">

หุ้น TNH บวก 5.88% โดยเปิดตลาดที่ 4.50 บาท ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 4.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท เมื่อเวลา 11.14 น.ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 4.86 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อธ.ค.ปี 48 ที่เทรดวันแรกที่ระดับราคา 1.78 บาท

บทวิเคราะห์ บล.ไซรัส แนะซื้อหุ้น TNH ราคาปรับขึ้นต่อเนื่องกว่า 40% จากที่แนะนำซื้อล่าสุดจนราคาสูงเกินราคาเป้าหมายปี 2549 ที่ 3.80 บาท และฝ่ายวิจัยได้ปรับเป็นราคาเป้าหมายปี 2550 ที่ 5.00 บาท (PE ที่ 13.6 เท่า, PBV ที่ 2.9 เท่า)

TNH ประกาศกำไรไตรมาส 4/49 (พ.ค.-ก.ค.) ซึ่งเป็นช่วง High season ในระดับที่ดีมากที่ 23.7 ลบ. เพิ่มขึ้นถึง 122% จากกำไรไตรมาสก่อนที่ 10.7 ลบ. เพราะรายได้เพิ่ม 19% q-q และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31.4% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 28.7% เพราะ Economy of Scales จากรายได้ที่เพิ่ม แต่ต้นทุนที่เพิ่มไม่มากนัก

กำไรปี 2549 ที่ 53.7 ลบ. (0.30 บาท/หุ้น) ดีกว่าคาดถึง 28% และกำไรนั้นเพิ่มสูงถึง 162% y-y จากรายได้ที่เพิ่ม 23% y-y เพราะจำนวนผู้ป่วยนอกเพิ่ม 11.8% และผู้ป่วยในเพิ่ม 4.3% ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจาก 24.5% ในปี 2548 เป็น 28.2% ในปี 2549 ปันผล 0.18 บาท/หุ้น (Div yld 4.1%) กำหนด XD วันที่ 9 พ.ย.49, จ่ายภายในเดือนพ.ย.นี้

นอกจากนี้ ได้รับผลประโยชน์จากการขยายตัวของชุมชนในแถบสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะ TNH อยู่ห่างออกไปเพียง 12 กม.ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มคาดกำไรปี 2550 (ส.ค.49-ก.ค.50) ขึ้น 14.7% เป็น 66.5 ลบ. (0.37 บาท/หุ้น) โต 23.8% y-y เนื่องจากคาดรายได้จากกิจการโรงพยาบาลที่ 771.6 ลบ. เติบโต 7.3% y-y (เพิ่ม 5.4% จากคาดเดิม) โดยคาดผู้ป่วยนอกเพิ่ม 7.8% y-y และผู้ป่วยในเพิ่ม 2.9% y-y ซึ่งค่อนข้างระมัดระวัง และจากเข้าจดทะเบียนใน MAI ทำให้อัตราภาษีลดลงเหลือ 20%

[/color:2d5656e5fa">
^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#11 วันที่: 02/10/2006 @ 13:50:13 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:599a4e5b15">[b:599a4e5b15">14) หุ้น GEN เทรดคึกคัก ทรงพนธ์แจงขายหุ้นลดพอร์ตหลังการเมืองไม่แน่นอน [/b:599a4e5b15">[/u:599a4e5b15">

หุ้นแม่-ลูก GEN ราคาขยับขึ้น วอลุ่มเทรดคึกคัก โดยเมื่อเวลา 11.31 น.ราคาหุ้น GEN เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท(+5.26%) มูลค่าซื้อขาย 68.01 ล้านบาท ส่วนหุ้นลูก GEN-W1 ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 0.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท(+3.23%) มูลค่าซื้อขาย 5.77 ล้านบาท

หุ้น GEN มีการซื้อขายที่คึกคักหลังจากมีรายงานข่าวว่านายทรงพนธ์ จันทรพันธ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับนักการเมืองในรัฐบาลชุดก่อน ขายหุ้นที่เหลืออยู่ประมาณ 3.97% หลังจากที่ขายไปแล้ว 11.03% เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ นายทรงพนธ์ เปิดเผยกับอินโฟเควสท์ว่า การขายหุ้น GEN ออกไปก่อนหน้านี้บางส่วน เนื่องจากมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงปรับลดพอร์ตการลงทุนลง

ก็ได้ขายหุ้นออกไปบางส่วน เพราะตลาดหุ้นยังไม่มีความแน่นอน รัฐบาลยังไม่ชัวร์ ผมก็เลยลดพอร์ตลงมาก่อนนายทรงพนธ์ กล่าว

นายทรงพนธ์ ปฎิเสธที่จะเปิดเผยว่า ได้ขายหุ้น GEN ที่เหลืออยู่ไปหมดแล้วหรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่าเช้าวันนี้ยังไม่ได้เข้าไปเทรดหุ้นในตลาดฯ คงต้องรอดูสภาพตลาดฯก่อนแล้วจึงจะพิจารณาว่าจะลงทุนหรือไม่ อย่างไร

น.ส.ภัทรวัลลิ์ หวังมิ่งมาศ นักวิเคราะห์เทคนิค บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ขณะนี้หุ้น GEN อยู่ระหว่างการทดสอบแนวต้านที่ 1.01 บาท หากขึ้นไปได้ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1.13 บาท ซึ่งขณะนี้หุ้นอยู่ในช่วงของการแกว่งตัว ยังไม่อาจบอกได้ว่าจะขึ้นต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นตัวนี้จะเป็นลักษณะเคลื่อนไหวทีละ gap ส่วนแนวรับจะอยู่ที่ 0.93, 0.87 บาท

ส่วนหุ้นลูก GEN-W1 ทิศทางจะอ่อนกว่าหุ้นแม่ GEN โดยมีแนวต้านที่ 0.33-0.36 บาท ส่วนแนวรับที่ 0.30,0.27 บาท ลักษณะการเคลื่อนไหวของหุ้น GEN-W1 ให้พิจารณาที่หุ้นแม่เป็นหลัก หากหุ้นแม่ GEN ผ่าน 1.01 บาท ได้ก็จะทำให้หุ้นลูกขยับขึ้นตามได้[/color:599a4e5b15">


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#12 วันที่: 02/10/2006 @ 15:48:52 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[b:e9c1746811">[u:e9c1746811">15) D-MARK เผยลดทุน-เพิ่มทุนเป็น 166.5 ลบ.ตามแผนฟื้นฟูฯ[/u:e9c1746811"> [/b:e9c1746811">

นางสาวนวลระหง รัตนะพิบูลย์กุล กรรมการ บมจ. พันธุ์สุกรไทย-เดนมาร์ค (D-MARK) เปิดเผยว่า ตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งเห็นชอบในแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 โดยมีบริษัท พันธุ์สุกรไทย-เดนมาร์ค จำกัด(มหาชน) เป็นผู้บริหารแผนฯ นั้น

การปรับโครงสร้างหนี้ตามแผนของบริษัทฯ ในส่วนของการปรับโครงสร้างทุนบริษัทฯได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2549 โดยดำเนินการลดทุนจดทะเบียนจากเดิม 180,000,000 บาท โดยการลดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังมิได้จัดสรร จำนวน 3,000,000 หุ้น ภายหลังการลดทุนดังกล่าว บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนจำนวน 150,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งจำนวน มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

จากนั้นเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 150,000,000 บาท เป็น 166,500,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้กลุ่ม 9 คือ บริษัทศรีไทยอาหารสัตว์ จำกัด จำนวน 1,650,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท

ทั้งนี้ ผู้บริหารแผนได้ชำระหนี้จำนวน 102.70 ล้านบาทของเจ้าหนี้รายดังกล่าวด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,650,000 หุ้น มูลค่าละ 10 บาท เป็นจำนวนเงิน 16,500,000 บาท[/color:e9c1746811">


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#13 วันที่: 02/10/2006 @ 16:15:26 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:53299cbf0f">[b:53299cbf0f">16) AFETเผยแอ็กโกรว์ เอ็นเตอร์ไพร์สยังรักษาส่วนแบ่งตลาดสูงสุดก.ย.49 ได้ [/b:53299cbf0f">[/u:53299cbf0f">

รายงานข่าวจาก ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เปิดเผยอันดับของบริษัทสมาชิกนายหน้าซื้อขาย
ล่วงหน้าสินค้าเกษตร ตามปริมาณการซื้อขาย ปรากฎว่า ในเดือนกันยายน 2549 บริษัทสมาชิกที่มีส่วนแบ่งการตลาดปริมาณการซื้อ
ขาย มีดังนี้


ลำดับที่ รายชื่อสมาชิก ชื่อย่อ Market Share (%)

1 บริษัท แอ็กโกรว์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด AGE 19.19%
2 บริษัท แอโกรเวลท์ จำกัด AGR 17.67%
3 บริษัทเจเอสพี. ฟิวเจอร์ส จำกัด JSP 11.49%
4 บริษัท ดีเอส ฟิวเจอร์ส จำกัด DSF 9.92%
5 บริษัท ธนเกษตร จำกัด TAA 6.52%
6 บริษัท รีพเอเซีย จำกัด RAS 6.26%
7 บริษัท ฟิวเจอร์ อกริ เทรด จำกัด FAT 5.79%
8 บริษัท หงต้า ฟิวเจอร์ส จำกัด HOT 4.17%
9 บริษัท โกลบอล อะโกร เทรด จำกัด GAT 4.09%
10 บริษัท สรกิจ จำกัด SRC 4.08%
11 บริษัท พัฒนาเกษตรล่วงหน้า จำกัด PAF 3.96%
12 บริษัท เมอร์ชั่น ฟิวเจอร์ส จำกัด MFL 3.78%
13 บริษัท เอ.เอ็น.ที. (ไทยแลนด์) จำกัด ANT 3.08%

รวม 100%


^_^
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#14 วันที่: 02/10/2006 @ 17:54:47 : re: ข่าวสดสดวันนี้
[u:37e1448b84">[b:37e1448b84">17) IRCP เผยกิจการร่วมค้าได้งานติดตั้งระบบ ERP ของกฟผ. มูลค่า 890 ลบ.[/b:37e1448b84">[/u:37e1448b84">

นายไกรสีห์ กรรณสูต ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ลงนามว่าจ้างกิจการร่วมค้าไอ เอส ยู (I.S.U. Joint Venture) ในโครงการจ้างเหมาพร้อมติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรขององค์กร มูลค่า 890 ล้านบาท

กิจการร่วมค้าไอ เอส ยู (I.S.U. Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท ซีเมนส์ จำกัด, บริษัท ซีเมนส์ อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็ม จำกัด และบมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิรช คอร์ปอเรชั่น (IRCP)

นายไกรสีห์ กล่าวว่า การลงนามในสัญญาโครงการจ้างเหมาพร้อมติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) นี้ ประกอบด้วยระบบย่อย 11 ระบบ คือ ระบบบัญชีและการเงิน ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล ระบบจัดหาและบริหารพัสดุ ระบบการบริหารการผลิต ระบบบริหารโครงการ ระบบบำรุงรักษา ระบบขายและการกระจายสินค้า ระบบบริหารความสัมพันธ์กับผู้ขาย ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง ระบบการจัดการเชิงกลยุทธ์ และระบบ Enterprise Portal

สำหรับระบบวางแผนทรัพยากรขององค์กร หรือ ERP เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่เชื่อมโยงการทำงานของระบบต่างๆ เข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์ เพื่อสร้างให้เกิดฐานข้อมูลเดียวกันทั้งองค์กรในรูปแบบ On-Line และ Real-time โดยใช้ซอฟต์แวร์ SAP ซึ่งจะช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรขององค์กร เช่น ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบุคคลในการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดต้นทุนอุปกรณ์พื้นฐานและการดูแลรักษา ช่วยสนับสนุนข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหาร
และสามารถรองรับการขยายงานด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ กฟผ. ในอนาคตได้โดยจะติดตั้งระบบดังกล่าว ครอบคลุมสำนักงานกลางและภูมิภาค ใช้เวลาดำเนินงาน 2 ปี 3 เดือน ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2551 และมีระยะเวลารับประกันและบำรุงรักษาต่ออีก 1 ปี
[/color:37e1448b84">


^_^
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com