May 4, 2024   2:40:16 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > EVER ทรุดฉุดหุ้นแสบสลดตาม...จับตาหุ้นสุวรรณภูมิคึกสะเดิดแทน
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 26/09/2006 @ 22:21:21
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นแสบสลดยกแก๊ง ทั้ง BNT-GEN-EMC-DE หลัง EVER ถูกคำสั่งฟ้าผ่าสั่งห้ามเน็ตฯ-มาร์จินฯรอบใหม่ แม้เพิ่งหลุดจากกรงไม่นาน วงการเชื่อตอบรับข่าวชั่วคราวแค่ระยะสั้นๆ เหตุเป็นหุ้นเก็งกำไรที่ได้รับความนิยม ไม่นานก็กลับมาคึกใหม่ พร้อมแนะจับตาหุ้นที่ได้รับผลดีจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิมีโอกาสกลับมาคึกแทน รับข่าวเปิดใช้สนามบินอย่างเป็นทางการ ทั้ง AOT-THAI-TUCC-SAMART-PRO

เช้าวานนี้ (26 ก.ย.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศสั่งห้าม Net Settlement - Margin Trading หุ้น บมจ. เอเวอร์แลนด์ หรือ EVER อีกครั้ง หลังจากพบว่าการซื้อขาย EVER ในช่วงวันที่ 21 ถึง 25 กันยายน 2549 มีการเปลี่ยนแปลงของราคาและมูลค่าการซื้อขายรวมเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเวลาก่อนหน้า และมีการซื้อขายอย่างกระจุกตัวในหลักทรัพย์ดังกล่าว โดยไม่มีสารสนเทศใดที่มีผลกระทบต่อสภาพการซื้อขาย

โดย ตลท.ระบุว่าเพื่อเป็นการป้องกันและระงับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่อาจส่งผลกระทบเสียหายต่อสภาพการซื้อขายโดยรวม อันเนื่องมาจากมีการเปลี่ยนแปลงของราคา หรือปริมาณการซื้อขายในหลักทรัพย์นั้นอย่างรุนแรงหรือมีการซื้อขายอย่างกระจุกตัวในหลักทรัพย์นั้นเป็นจำนวนมาก

ตลาดหลักทรัพย์จึงสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของหลักทรัพย์ EVER ชั่วคราว เป็นเวลา 30 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน ถึง 7 พฤศจิกายน 2549

โดยการสั่งห้าม Net Settlement - Margin Trading กลางอากาศในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่สองของหุ้น EVERภายใต้การดำรงตำแหน่งผู้จัดการและกรรมการตลาดหลักทรัพย์ของนางภัทรียา เบญจพลชัย หลังจากที่ EVER เพิ่งจะหลุดจากคำสั่ง ห้าม Net Settlement - Margin Trading เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา จากที่ ตลท.มีคำสั่งห้าม Net Settlement - Margin Trading ครั้งแรก 30 วันทำการ เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นร้อนแรงต่อเนื่องกันตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2549 ต่อเนื่องมาจนถึง 20 ก.ค.เป็นเวลา 19 วันทำการ

- EVER ทรุดหลัง ตลท.สั่งลงแส้รอบสอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ ตลท.ประกาศคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของหลักทรัพย์ EVER ชั่วคราว เป็นเวลา 30 วันทำการ ดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นปรับลดลงทันที โดยเวลา 10.00 น. ราคาหุ้น EVER อยู่ที่ 8.45 บาท ลดลง 1 บาท มูลค่าการซื้อขาย 20.25 ล้านบาท และหลังจากนั้นราคาหุ้นได้ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลงไปทำ low ของวันที่ 7.25 บาท หรือลดลง 2.25 บาท ก่อนราคาจะเริ่มขยับขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้ปิดตลาดที่ระดับราคา 8.00 บาท หรือลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 104.82 ลบ.

- EVER ฉุดหุ้นแสบสลดตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วงเช้าของการซื้อขายวานนี้ (26 ก.ย.) หลังจากที่ราคาหุ้น EVER ได้ปรับลดลง ได้ฉุดให้ราคาหุ้นเก็งกำไรที่เคลื่อนไหวค่อนข้างหวือหวาจนได้รับการขนานนามว่า หุ้นแสบ ก่อนหน้านี้ ได้ปรับลดลงอย่างชัดเจน ไล่มาตั้งแต่ ราคาหุ้น บมจ. เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง หรือ GEN บมจ.บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ หรือ BNT บมจ. อีเอ็มซี หรือ EMC ใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของอีเอ็มซี หรือ EMC-W1 และ บมจ.ดี อี แคปปิตอล หรือ DE
โดย GEN ปิดตลาดที่ระดับ 0.93 บาท ลดลง 0.03 บาท มูลค่าการซื้อขาย 106.59 ลบ.BNT ปิดที่ระดับ 0.31 บาท ลดลง 0.01 บาท มูลค่าการซื้อขาย 133.86 ลบ.DE ปิดที่ระดับ 1.00 บาท ลดลง 0.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 144.58 บาท EMC ราคาอยู่ที่ระดับ 2.18 บาท ลดลง 0.32 บาท มูลค่าการซื้อขาย 119.97 ลบ.
ทั้งนี้ การปรับลดลงของหุ้นในกลุ่มเก็งกำไรหลายตัวในวันนี้ นักวิเคราะห์หลายรายได้มองตรงกันว่า เป็นเพราะผลจาการสั่งห้าม Net Settlement - Margin Trading หุ้น EVER จึงส่งผลให้นักลงทุนตอบรับข่าวในลักษณะเทขายหุ้นเก็งกำไรที่มีความเคลื่อนไหวค่อนข้างล่อแหลมต่อการถูกห้าม Net Settlement - Margin Trading ดังกล่าว

- KKS เชื่อ หุ้นแสบทรุดมาจากแรงฉุดของ EVER
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน หรือ KKS กล่าวถึงหุ้นเก็งกำไรที่ปรับตัวลดลงวานนี้ (26 ก.ย.)ว่า ประเมินว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ในวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการสั่งห้ามซื้อขายแบบ Net Settlement และ Margin Trading ในหุ้น EVER ชั่วคราวอีกครั้ง เป็นเวลา 30 วันทำการ พร้อมทั้งยังมีการจับตาหุ้นเก็งกำไรอีก 3 บริษัท ดังนั้นจึงส่งผลให้หุ้นเก็งกำไรลดความร้อนแรงลง โดยเฉพาะหุ้น EMC , BNT ,GEN, หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงแบบไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนมารองรับ
ในวันนี้หุ้นเก็งกำไรส่วนใหญ่ปรับลดลงนั้น อาจเกิดจากการที่หุ้น EVER โดนทางตลาดหลักทรัพย์ห้ามเน็ทและมาร์จิ้นก็มีความเป็นไปได้ เพราะตลาดหลักทรัพย์ยังบอกอีกว่าอยู่ระหว่างการจับตาหุ้นเก็งกำไรอีก 3 ตัว นางวิริยา กล่าว

- ASL แนะสลับตัวเล่นเพื่อความปลอดภัย
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ็ดคินซัน หรือ ASL กล่าวว่าหุ้นเก็งกำไรที่วันนี้ราคาหลายตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนที่เข้าลงทุนในหุ้นเก็งกำไรมีการสลับตัวเล่น เพื่อลดความเสี่ยง หลังจากที่วันนี้ตลท.มีมาตรการออกมาลงโทษหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยเฉพาะจากที่ก่อนหน้านี้ที่ราคามีความผันผวน ทั้งนี้แนะนำให้นักลงทุนยังสนใจลงทุนในหุ้นเหล่านี้ โดยเฉพาะ BNT-EMC-EMC-W1 -DE-EVER ให้สลับไปเล่นตัวอื่นแทน

- TSEC มอง EVER ยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทีเอสอีซี เปิดเผยว่าสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคาหุ้น EVER มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อ ถึงแม้ว่าวานนี้ (26 ก.ย.49) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ห้ามเล่น Net Settlement - Margin Trading แต่สัญญาณเทคนิคยังคงมีแนวโน้มที่ดี ดังนั้นจึงแนะนำเก็งกำไร โดยให้แนวรับไว้ที่ 6.79 บาท ให้แนวต้านไว้ที่ 9.60 บาท ให้แนวต้านถัดไปไว้ที่ 10.80 บาท


- วงการมองหุ้นแสบมีโอกาสกลับมาคึกอีกครั้ง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่า การลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเก็งกำไรที่เคลื่อนไหวหวือหวาในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นเพราะนักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยง หลังจากที่ ตลท.ออกมาระบุว่ายังจับตามองหุ้นในกลุ่มนี้อีก 2-3 ตัว จึงได้เปลี่ยนตัวเล่น โดยเข้าไปเล่นเก็งกำไรในหุ้นตัวอื่นแทน จึงทำให้ในวันนี้แม้หุ้นในกลุ่มเก็งกำไรหลายตัวปรับลดลง แต่ก็ยังมีหลายตัวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

โดยหุ้นเก็งกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นชัดเจนในวันนี้ได้แก่ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) (PRO) บมจ.อีสเทิร์นไวร์(EWC) บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) บมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) บมจ.ดราก้อน วัน (D1)

ทั้งนี้ PICNI ปิดที่ระดับ 0.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท มูลค่าการซื้อขาย 13.40 บาท PRO ราคาปิดที่ระดับ 0.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 10.55 ลบ.EWC ปิดที่ระดับ 6.85 บาท เพิ่มขึ้น 1.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 86.92 ลบ.APURE ปิดที่ระดับ 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าการซื้อขาย 73.11 ลบ.IEC ปิดที่ระดับ 1.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 573.13 ลบ.และ D1ปิดที่ระดับ 1.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท มูลค่าการซื้อขาย 20.29 ลบ.

อย่างไรก็ตาม เขามองว่า แม้วานนี้ราคาหุ้นในกลุ่มเก็งกำไรหลายตัวได้ปรับตัวลดลงแต่เชื่อว่าจะอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวไม่นานนัก ซึ่งสังเกตได้จากราคาหุ้นบางตัวได้เริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปิดตลาด แม้ว่าในช่วงการซื้อขายระหว่างวันราคาปรับลดลงมาค่อนข้างลึกก็ตาม จึงทำให้เชื่อได้ว่าราคาหุ้นอาจมีโอกาสพลิกกลับขึ้นมาได้อีก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนสลับตัวเล่นเป็นระยะ เพื่อลดความเสี่ยงจากมาตรการของ ตลท.และหาจังหวะทำกำไรจากหุ้นเก็งกำไรอื่นๆ


- แนะจับตาหุ้นสุวรรณภูมิอาจคึกสะเดิดช่วงเปิดใช้สนามบิน
นักวิเคราะห์รายเดิมกล่าวว่า ในช่วงที่หุ้นเก็งกำไรหลายตัวได้รับผลกระทบจากมาตรการห้ามเล่น Net Settlement - Margin Trading ในหุ้น EVER ของ ตลท.เขามองว่าหุ้นในกลุ่มที่น่าสนใจหลังจากนี้จะเป็นหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากจะเปิดใช้สนามบินอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย.ที่จะถึงนี้ อาจทำให้หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิตอบรับข่าวในทิศทางบวกได้ อาทิ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) บมจ. การบินไทย (THAI) บมจ.ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ (TUCC) บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) และ บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) หรือ PRO

AOT ได้รับผลดีจากการเปิดใช้สนามบินที่จะได้รับรายได้ชัดเจน ขณะที่ TUCC รับผลดีในฐานะผู้ที่รับงานผลิตชิ้นส่วนรถเข็นกระเป๋าในสุวรรณภูมิ ส่วน SAMART-PRO จะรับประโยชน์จาการเป็นผู้รับกำจัดขยะที่ทำให้มีรายได้เข้ามาชัดเจน หุ้นเหล่านี้น่าจะตอบรับข่าวในทิศทางที่ดี นักวิเคราะห์รายเดิมกล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ บล.เกียรตินาคิน แนะนำซื้อเพื่อลงทุน AOT โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 65 บาท ขณะที่บล.แอ๊ดคินซันคาดว่าผลประกอบการของ THAI ในช่วงปลายปีนี้จะดีขึ้น นอกจากนั้นการยืนยันเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 28 ก.ย. นี้ ยังถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น THAI โดยให้ราคาพื้นฐานของ THAI ไม่ต่ำกว่า 45 บาท และแนะนำซื้อเก็งกำไร ส่วนบล.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBS แนะนำซื้อ SAMART มูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้นจาก 10.5 บาท สู่ 11 บาท

โดยวานนี้ราคาหุ้น AOT ปิดที่ระดับ 58.00 บาท ลดลง 1 บาทมูลค่าการซื้อขาย 135.34 ลบ. THAI ปิดที่ระดับ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 72.24 ลบ.TUCC ปิดที่ระดับ 6.45 บาท ลดลง 0.05 บาท มูลค่าการซื้อขาย 76.52 ลบ.SAMART ราคาปิดที่ระดับ 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 27.92 ลบ.PRO ราคาปิดที่ระดับ 0.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 10.55 บาท



ที่มา efinance.com

 กลับขึ้นบน
P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
#1 วันที่: 27/09/2006 @ 11:27:23 : re: EVER ทรุดฉุดหุ้นแสบสลดตาม...จับตาหุ้นสุวรรณภูมิคึกสะเดิด
ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com