.0007 .0007

[b:c6676d6e5c">9.30-11.30 am.
- GSTEEL-OA ได้หุ้น NSM 19% จากการแปลงสิทธิเรียกร้องเป็นทุนตามแผนฟื้นฟูฯ

-D1 เผยมีเงินสดเพียงพอในการบริหาร A-HOST แม้ยังไม่มีเงินเพิ่มทุนเข้ามา

-หุ้น AMATA ราคารูดลง 3.25% มาอยู่ที่ 11.90 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.24 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.06 น. โดยเปิดตลาดที่ 12.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 12.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 11.90 บาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย แนะขาย หุ้น AMATA คาดว่าลูกค้ารายใหญ่จะชะลอการตัดสินใจออกไปทำให้ยอดขายใน Q4/49 มีโอกาสพลาดจากเป้าหมายไปมาก ทั้งนี้ ประมาณการกำไรปกติปี 2549 ของ AMATA ถูกปรับลดลงถึง 24% ขณะที่ปี 2550 ได้ปรับลดประมาณการลงถึง 31-44 % จากยอดขายที่ดินที่คาดว่าจะยังฟื้นตัวได้ไม่มาก
ทั้งนี้ ได้ปรับการประเมินมูลค่าเหมาะสมของ AMATA มาอิงกับ PER ที่ต่ำลงเหลือราว 10 เท่าของผลประกอบการในปี 50 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่ AMATA เคยซื้อขายในช่วงปี 47 ได้มูลค่าเหมาะสมใหม่ในปี 50 ที่ 6.96 ? 8.57 บาท เห็นว่า Downside risk ยังสูงถึง 30% - 43%

ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คาดว่าจะทำให้ FDI ยังชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่ง AMATA ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจาก AMATA มียอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศ(อมตะนครและอมตะซิตี้)คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของรายได้รวม ดังนั้น หากตัวเลข FDI มีการฟื้นตัวช้าออกไปจึงคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ AMATA ค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ เชื่อว่า AMATA อาจต้องมีการปรับลดเป้าหมายยอดขายที่ดินในปี 49 ลงอีกครั้ง เนื่องจากเป้าหมายส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 4Q49 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคาดว่าจะทำให้การตัดสินใจของลูกค้าชะลอออกไป

--NWR คาดการณ์รายได้ปี 50 ใกล้เคียงปีนี้ที่ 4.0-4.5 พันลบ.

-หุ้น TOP-RRC ปรับขึ้น โบรกเกอร์มองหุ้นโรงกล้นดีดขึ้นจากค่าการกลั่นเริ่มปรับสูงขึ้น และตลาดรับข่าวผลประกอบการไตรมาส 3/49 แล้ว แนะนำซื้อราคาถูก และใกล้ฤดูหนาว เหมาะเข้าเก็บช่วงนี้

เมื่อเวลา 11.03 น.ราคาหุ้น TOP พุ่ง 3.39% มาที่ 61 บาท บวก 2 บาท ราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 61.50 บาท และ หุ้น RRC ปรับขึ้น 0.53% มาที่ 18.80 บาท บวก 0.10 บาทราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 19 บาท วอลุ่มหนาแน่น

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย)มองว่า ราคาหุ้นของโรงกลั่นขึ้นเพราะค่ากลั่นเพิ่มขึ้น โดยปรับขึ้นไป 4.7 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ลงมาในจุดต่ำสุดเมื่อช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับตัวลงมา แต่เพราะราคาผลิตภัณฑ์ลงช้ากว่าต้นทุน ราคาขายปลีกปรับลงช้ากว่า ส่งผลให้ค่าการกลั่นเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่บทวิจัยของบล.เอเชียพลัส มองว่า ค่าการกลั่นของ TOP และ RRC น่าจะสูงกว่าที่สิงคโปร์ หากสถานการณ์ในปัจจุบันยังเป็นอยู่อย่างนี้ คือส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันดิบดูไบยังลดลงน้อยกว่าการลดลงของส่วนต่างของน้ำมันเบนซิน และน้ำมันเตา ฝ่ายวิจัยก็เชื่อว่าค่าการกลั่นของ TOP และ RRC น่าจะอยู่สูงกว่าค่าการกลั่นอ้างอิงที่สิงคโปร์ (Outperform)

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าปัจจุบันหุ้น TOP และ RRC ได้ปรับตัวลดลงสะท้อนค่าการกลั่น และผลประกอบการในช่วง 3Q49 ที่จะออกมาแย่ เมื่อเทียบกับ 2Q49 ไประดับหนึ่งแล้ว โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น TOP และ RRC ได้ปรับตัวลดลง 10% และกลับมาซื้อขายในช่วง PER ระดับ 6.5-7 เท่า ซึ่งเป็นช่วง PER ที่ต่ำสุดในช่วงขาลง จากเหตุผลซื้อขายที่ PER ต่ำ และค่าการกลั่นน่าจะต่ำสุดในช่วง 3Q49 ก่อนจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 4Q49 จากผลของฤดูกาล


^_^[/b:c6676d6e5c">[/color:c6676d6e5c">

ค่าการกลั่นขึ้นไปถึง 6 เหรียญ สวนราคาน้ำมัน nymexตกต่ำลง กว่า60 เหรียญ นับว่าค่าการกลั่นขึ้นเร็วมากเหมือนกันนะครับ2 อาทิตย์ก่อน ยังเห็นแค่ 2.5- 3 เหรียญ เองทำให้หุ้นโรงกลั่น แข๊งกว่า กว่าหุ้นพลังงานตัวอื่นโดยรวม ไม่รู้ว่าขึ้นเร็วอย่างนี้ จะลงเร็ว หรือป่าวนะ ซื้อหุ้นโรงกลั่น ก็ระวังหน่อยนะครับ เพราะค่าการกลั่นผันผวนเอาการ อยู่เหมือนกัน

.000b .000b

[b:e7d2f99121">11.45 AM.
-DRT เดินหน้ารุกตลาดในปท.-ส่งออก โบรกฯคาดปี 50 ปันผลตอบแทนพุ่ง 12.7%

11.50 AM.
DE พุ่ง 8.42% โบรกฯคาดเก็งกำไรลือเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น-บอร์ด
หุ้น DE ราคาพุ่งขึ้น 8.42% มาอยู่ที่ 1.03 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 28.99 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.39 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.95 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.06 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.89 บาท

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ราคาหุ้น DE ดีดตัวสูงขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาหนาแน่นอีกครั้ง เป็นผลจากนักลงทุนเข้ามาเล่นเก็งกำไร เนื่องจากเชื่อว่าดีลการร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่ใกล้เสร็จเต็มที่แล้ว ทั้งนี้ เพราะมีกระแสข่าวออกมาจากห้องค้าหลักทรัพย์ว่า ขณะนี้ทาง DE อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของบริษัทฯ และโครงสร้างผู้ถือหุ้น

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ตอนนี้ผู้บริหารอยู่ระหว่างการทำรายละเอียดในการทำดีลร่วมทุนกับพันธมิตรใหม่อยู่ เพียงแต่ว่ายังไม่เสร็จเรียบร้อย จึงยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการได้ พร้อมทั้งเชื่อว่า เร็ว ๆ นี้คงจะประกาศดีลออกมาได้

ทางด้านนายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ในทางเทคนิคราคาหุ้น DE มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 1.20 บาท ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 0.90 บาท ทั้งนี้ แม้จะมีข่าวเรื่องดีลกับพันธมิตรร่วมทุน แต่เนื่องจากยังไม่ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ดังนั้น แนะให้หลีกเลี่ยง



^_^[/b:e7d2f99121">[/color:e7d2f99121">

.0009 .0009

[b:6e2f049a22">00.30 pm.
หุ้น ERAWAN-W ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 0.95 บาท มูลค่าซื้อขาย 14.95 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.14 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.85 บาท

ขณะที่ ราคาหุ้นแม่ ERAWAN ปิดตลาดช่วงเช้าที่ 3.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1.38 ล้านบาท

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก แนะซื้อเก็งกำไรหุ้น ERAWAN-W ตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ERAWAN และจากราคาเหมาะสมที่ประมาณ 5.00 บาท(ราคาวอแรนต์ที่ 1.49 บาท) จึงทำให้มี up side ของราคาวอแรนต์จากราคาปิดของ ERAWAN ที่ 3.80 บาท(ราคาวอแรนต์ที่ 0.89) อยู่ประมาณ 67% และยังเป็นวอแรนต์ที่มีลักษณะ In-the-money อีกด้วย

เนื่องจากยังไม่มีการซื้อขายวอแรนต์จึงไม่สามารถคำนวณราคาวอแรนต์จาก Implied Volatility ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่าได้จึงคิดจาก Historical Volatility แทน และหากพิจารณาในแง่ของ ?การแกว่งตัว? ของผลตอบแทนรายวัน (Historical Volatility - HV) ย้อนหลัง 1 ปี ในหุ้น ERAWAN แล้วจะได้ค่า HV เท่ากับ 52% และคำนวณ ERAWAN-W ได้ค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 0.89 บาทต่อหน่วยจากโมเดล SRCEV

ทั้งนี้ คำนวณราคา ERAWAN-W จากโมเดล SRCEV ได้ค่าที่เหมาะสมที่ 0.75-1.49 บาท/หน่วย เมื่อราคาหุ้นแม่ ERAWAN เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3.50-5.00 บาท/หุ้น

00.35 pm.
ปิดตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ พบมีการซื้อขายบิ๊กล็อต 9 หลักทรัพย์ 16 รายการ
พบ PTT มีมูลค่าสูงสุด 51.55 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 210.41 บาท

00.40 pm.
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศถอนอันดับความน่าเชื่อถือไฮบริดบอนด์ขั้นที่ 1 ของธนาคารกรุงไทย(KTB) ซึ่งเคยให้ไว้ที่ Ba1 โดยในเบื้องต้นไฮบริดบอนด์ชุดนี้ได้วางแผนที่จะออกผ่านสาขาของธนาคารในสิงคโปร์

การประกาศถอนอันดับครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจของ KTB ที่จะยุติการออกไฮบริดบอนด์ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย[/b:6e2f049a22">[/color:6e2f049a22">



^_^ ...วันนี้คงรายงานได้แค่นี้..ช่วงบ่ายจะไปธุระครับบบบ....