???
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410 |  วันที่: 25/09/2006 @ 11:17:28 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต .0007 .0007
ซื้อ BEC เป้าหมาย 19.5 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด แนะนำ ซื้อ BEC ผลประกอบการของบริษัทยังฟื้นตัวต่อเนื่อง ในขณะที่รายได้จากการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์โดยรวมขยายตัว 8% จากปีก่อน ในช่วง ม.ค.-ส.ค. 2549 แต่รายได้จากการโฆษณาของ BEC
ขยายตัวถึง 20% จากปีก่อน และส่วนแบ่งผู้ชม (audience share) ของ BEC เพิ่มจาก 24.5% ในปี 2005 เป็น 25.9% ในครึ่งปีแรก และ 26% ใน ก.ค.-ส.ค. 2549 ในขณะที่ส่วนแบ่งเม็ดเงินโฆษณาของ BEC เพิ่มจาก 21% ในปี 2548 เป็น 22.6% ในช่วง ม.ค.-ส.ค.2549 บริษัทปรับผังรายการเล็กน้อยซึ่งจะมีผลในเดือน ต.ค.เป็นต้นไป โดยรายการที่เปลี่ยนเป็นรายการในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งบริษัทได้เพิ่มจำนวนรายการสำหรับเด็ก และรายการ variety shows นอกจากนี้ ผู้บริหารยังเปิดเผยว่า หลังจากที่ BEC ประสพความสำเร็จในการเสนอรายการช่วงเช้า ทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนารายการเพื่อเพิ่มรายได้สำหรับรายการในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทั้งนี้ ที่ราคาหุ้นปัจจุบันคาดหวังว่ายังมี upside อีกราว 13% รวมทั้งยังมี div.yield อีกราว 5% เราจึงยังคงแนะนำ ?ซื้อ? โดยมีราคาเป้าหมายที่ 19.5 บาท[/color:1d4837377d">
ซื้อ MK เป้าหมาย 3 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด แนะนำ ซื้อ MK คาดหลังปัจจัยลบคลี่คลายบริษัทสามารถทำยอด Presale ปี 2549 ได้ประมาณ 2,000-2,200 ล้านบาท มีแผนเปิดตัวโครงการ ปลายเดือน ก.ย. 49 จำนวน 2 โครงการ หวังกระตุ้นยอดขาย โดยมี Presale ปัจจุบัน 1,310 ล้านบาท โครงการขายได้หลักๆ มาจาก พื้นที่บริเวณ ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยได้ประมาณการผลประกอบการปี 2549 คาดบริษัทมีรายได้จากการขายและรับปลูกสร้าง 1,995 ล้านบาท กำไรสุทธิ 349 ล้านบาท EPS 0.40 บาทต่อหุ้นคาดจะจ่ายปันผลในปี 2549 จำนวน 0.15 บาทต่อหุ้นและคาดผลประกอบการปี 2550 บริษัทมีรายได้จากการขายและรับปลูกสร้าง 2,331 ล้านบาท กำไรสุทธิ 435 ล้านบาท EPS 0.50 บาท โครงการใหม่ที่เตรียมเปิด บริษัทยังคงราคาเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำประมาณ 2.4-2.6 ล้านบาทต่อหน่วย ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากความต้องการของตลาดที่ระดับราคา 2- 5 ล้านบาท ดังนั้นจึงประเมินราคาที่เหมาะสมปี 2550 อ้างอิง APER 6 เท่า อยู่ที่ 3 บาท มี Upside gain 19% คาดบริษัทมีผลตอบแทนจากการจ่ายปันผล (Dividend Yield) ปี 2549 ที่น่าสนใจ คือ 6% แนะนำ?ซื้อ?[/color:1d4837377d">
ซื้อ ITD เป้าหมาย 8.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ ITD คาดว่ายอดขายและกำไรปี 2550-2551 มีศักยภาพโตต่อเนื่อง ณ 4 ก.ย. 2549บริษัทมีงานในมือ 87,286 ล้านบาทโดยมีงานที่ชนะประมูลแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอีก 1,223 ล้านบาททำให้เราเชื่อว่าแม้จะไม่มีการเปิดประมูลเมกะโปรเจกต์ในปีนี้แต่บริษัทยังมีศักยภาพในการเติบโตของยอดขายต่อเนื่องในระยะ 2-3 ปี ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรมีแนวโน้มปรับดีขึ้นจากการที่โรงงานผลิตปูนซิเมนต์จะผลิตได้เต็มกำลังผลิตในปีหน้า ฐานะการเงินมีแนวโน้มอ่อนแอลง โครงการลงทุนในเหมือแร่โปแตชและงานในมือที่สูงขึ้นทำให้บริษัทมีความต้องการใช้เงินลงทุนมากขึ้น โดยครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนออกหุ้นกู้จำนวนไม่เกิน1หมื่นล้านบาทล่าสุดเพิ่งออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาทเพื่อชำระหนี้ระยะสั้น ทั้งนี้เราคาดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนปลายปีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 0.7 เท่าเป็น 0.8 เท่าแสดงถึงฐานะการเงินที่อ่อนแอลง แนะนำ ?ซื้อ? ราคาเหมาะสม 8.70 บาท[/color:1d4837377d">
ซื้อ SPALI เป้าหมาย 3.85 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส จำกัด แนะนำ ซื้อ SPALI บริษัทวางแผนที่จะเปิดขาย 2โครงการใหม่ จับลูกค้าระดับปานกลางที่มีความต้องการอีกมาก มูลค่าขาย 3.9 พันล้านบาท ในเดือน พ.ย. 2549 ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 1
โครงการ ทำเลถนนศรีนครินทร์ อีกหนึ่งโครงการเป็นทาวน์เฮ้าส์ ทำเลศรีนครินทร์-สุขุมวิท107 ราคาขายเฉลี่ยเป็น 1.68 ล้านบาท สำหรับคอนโดมิเนียม และ 2.75 ล้านบาท สำหรับทาวน์เฮ้าส์ คงแนะนำซื้อต่อไป เนื่องจากราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E ปีนี้ที่เพียง 6.2 เท่า และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ซึ่งเป็นราคาพื้นฐานของเป็น 3.85 บาท คิดเป็นส่วนเพิ่มจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 17% ส่วนคาดการณ์เงินปันผลในส่วนที่เหลือของปีนี้เป็น 0.10 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 3.0% อย่างไรก็ตามมองว่าการเปิดโครงการใหม่จะช่วยผลักดันให้ยอดขายและรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สูงในอนาคต อีกทั้งความสามารถในการทำกำไรก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น SPALI ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำ ?ซื้อ? โดยประเมินราคาเหมาะสมทั้งปีไว้ที่ระดับ 3.85 บาท
[/color:1d4837377d">
ฟฟฟฟ2 ฟฟฟฟ2
|
