May 3, 2024   2:03:10 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เผยแผน3หุ้นแสบ ดันขึ้นยอดอีกครั้ง :หวังปล่อยของ
 

Kuririn
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 26
วันที่: 12/09/2005 @ 08:38:06
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เผยแผน3หุ้นแสบ ดันขึ้นยอดอีกครั้ง :หวังปล่อยของ ใช้จึงรุ่งเรืองกิจเครื่องมือปั่น

กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--ข่าวหุ้น

ระวังพฤติกรรม 3 หุ้นแสบ ล่าสุดลือกระฉ่อนทั่วห้องค้า คราวนี้เตรียมดันถึงยอดก่อนปล่อยของ พบต้นปี PICNI ติดยอดดอย 14 บาทส่วน EWC ไปไกลถึง 55 บาท ขณะที่ APUREเป้าหมาย 9 บาท อาศัยข่าวจึงรุ่งเรืองกิจซื้อหุ้นมาเป็นแค่เครื่องมือปั่น รายชื่อผู้ถือหุ้นพันกันนัวร์ ตลท.ออกโรงเตือนความสัมพันธ์ลึกผู้บริหารปิคนิคฯ-อีสเทิร์นไวร์หวั่นงบการเงินส่อเข้าข่ายไม่โปร่งใส

จากกรณีความเคลื่อนไหวของ 3 หุ้นกล่าวคือบริษัท ปิคนิคคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ PICNI บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด(มหาชน)หรือ EWC และบริษัท อะกริเพียวโฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) หรือ APURE พร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)3 หุ้นดังกล่าวพบว่ามีนักลงทุนเข้าเก็งกำไรอย่างหนาแน่น ตลอดช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประเด็นดังกล่าวเกิดจากมีกระแสปล่อยข่าวตามในห้องค้าต่างๆว่า การดันราคาหุ้นครั้งนี้เป้าหมายอยู่ที่จุดสูงสุดที่เคยทำไว้นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นเพราะมีนักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่มติดที่ราคาดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก จึงมีความพยายามไล่ราคาขึ้น เพื่อทยอยออกของกันในที่สุด

ทั้งนี้หุ้น PICNI เคยขึ้นไปสูงสุดระดับ 13-14 บาท ช่วงเดือนม.ค.48 ก่อนหน้านี้เคยมีความพยายามดันขึ้นถึง 11-12 บาทมาแล้ว ช่วงเดือนพ.ค.48 แต่โดนตลาดฯสั่งขึ้นเครื่องหมาย SP กรณีถูกก.ล.ต.สั่งแก้ไขงบการเงินเนื่องจากงบการเงินปี 2547 ไม่ถูกต้อง ทำให้ราคารูดลงมาต่ำกว่า 2 บาทช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่หุ้น EWC มีพฤติกรรมเช่นเดียวกันคือ พยายามดันกันให้ถึงระดับ 55 บาทช่วงเดือนก.พ.48 และเดือนมิ.ย.นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวก็เคยดันกันถึง 27 บาทมาแล้ว ขณะที่หุ้น APURE ราคาหุ้นสูงสุดที่เคยทำไว้ประมาณ 9 บาท เมื่อต้นเดือนมี.ค.48 หลังจากนั้นราคารูดลงจนมาต่ำสุด 2 บาท ช่วงต้นเดือนนี้เอง

ส่วนแผนดันหุ้นทั้ง 3 ตัว โดยอาศัยจังหวะที่มีข่าวเกิดขึ้นเห็นได้ชัดคือ PICNI-EWCมีการอาศัยข่าวกลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจซื้อหุ้นมาเป็นตัวปั่นราคา ด้วยการปล่อยข่าวในห้องค้าว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในทั้ง 2 บริษัทบ้าง หรือแผนการต่อยอดทางธุรกิจในเครือไทยซัมมิทฯ ที่สำคัญพบว่าผู้ถือหุ้นทั้ง 2 แห่งมีความเกี่ยวโยงกันจนเห็นได้ชัดว่าและมีความเกี่ยวเนื่องจนส่อเข้าข่ายความขัดแย้งทางผลประโยชน์ร่วมกันด้วย

ประเด็นดังกล่าว จึงเท่ากับว่าการเข้ามาถือหุ้นใน PICNI และ EWC ของกลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ กลายเป็นเครื่องมือในการสร้างราคาทันทีเพราะหากดูตามปัจจัยพื้นฐานทั้ง 2บริษัทยังไม่เห็นเหตุผลที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ขนาดนี้

ส่วนหุ้น APURE แม้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ PICNI-EWC แต่เป็นที่รู้กันดีกว่านักลงทุนที่เล่นหุ้นตัวนี้ คือกลุ่มนักลงทุนที่เล่นหุ้นทั้ง 2 ตัวนั่นเอง โดยมีการปล่อยข่าวการจ่ายปันผล หลังจากบอร์ด APURE อนุมัติแผนลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม ช่วยปลายเดือนที่ผ่านมาเข้ามาเป็นตัวสร้างราคากันอีกครั้งหนึ่ง

เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์หลายราย ประเมินว่า สาเหตุที่หุ้น PICNI-EWC-APUREปรับขึ้นเกิดจากการเก็งกำไรจากกลุ่มนักลงทุน หรือเป็นการสร้างราคา จากกลุ่มนักลงทุนบางกลุ่มเท่านั้น ส่วน APURE ที่เป็นหุ้นเก็งกำไรอยู่แล้วจึงเกาะกระแสตามกันมา ซึ่งเป็นการเก็งกำไรลักษณะเดียวกัน
อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่คิดจะเข้าไปเก็งกำไร ต้องยอมรับว่าหุ้นทั้ง 3 ตัวนี้ ราคาค่อนข้างหวือหวาและขึ้นลงรวดเร็วมาก จึงต้องมีความพร้อม และติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามไม่แนะนำลงทุนหุ้นดังกล่าว

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่าจากการติดตามข้อมูลที่ผ่านมาของ PICNI และ EWC ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบประเด็นข้อมูลที่มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะประเด็นที่มาของรายได้ของ PICNI แหล่งเงินและความสัมพันธ์ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ PICNI
โดยพบรายการที่น่าสังเกต 2 รายการ คือการที่ PICNI รับเหมาก่อสร้างอาคารหลักสี่พลาซ่า ให้แก่บริษัท เจเจแลนด์ เดเวลลอปเมนท์ จำกัดมูลค่าโครงการ 810 ล้านบาทนั้น เจเจฯมีการกู้ยืมเงินจาก EWC 331 ล้านบาท มีกำหนดชำระภายในสิงหาคม 2548 แต่เจเจฯไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนดยังคงค้างชำระอยู่อีก 81 ล้านบาท


สำหรับแหล่งเงินที่ EWC ให้เจเจฯกู้นั้น มาจากการที่ EWC ต้องไปกู้ยืมระยะสั้นในรูปตั๋วแลกเงิน ซึ่ง EWC ได้เคยชี้แจงว่าจะไม่มีปัญหาในการชำระคืนตั๋วแลกเงิน เพราะมีเงินสดเหลือ จากเคยได้ระดมทุนจากประชาชน เมื่อเดือนตุลาคม 2547 แล้วถ้ามาพิจารณาความสัมพันธ์เชิงการถือหุ้น และกรรมการร่วมกัน พบว่า กรณี PICNI และเจเจฯ ที่PICNI ชี้แจงว่าไม่มีความสัมพันธ์กันนั้น

โดยมีข้อน่าสังเกตว่าวันที่ตกลงเข้าทำรายการผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการเจเจฯ คือน.ส.อรวรรณ กาญจนชูศักดิ์ เป็นภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ซึ่งตระกูลลาภวิสุทธิสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ PICNI แม้ว่าปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่เจเจฯ จึงได้เปลี่ยนเป็นนายอนุกูล ตั้งเรืองเกียรติและนายเฉลิมชัย ชุบผาแล้ว แต่ว่าบุคคลทั้งสองเป็นกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลืออดีตผู้บริหาร PICNI ที่ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษจากการที่งบการเงินPICNI แสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานดีกว่าความเป็นจริงนั่นเอง

อีกกรณีคือความสัมพันธ์ระหว่าง PICNI และEWC พบว่ามีผู้ถือหุ้นร่วมกัน 2 รายคือนายธนะชัย โรมพันธ์ถือหุ้นทั้ง 2บริษัท 0.8% และนายชัยรัตน์ ลาภทรงสุข ถือหุ้น PICNI2% และ EWC 0.8% ตามลำดับ

ส่วนอีกรายการหนึ่งที่สร้างรายได้ให้แก่ PICNI คือรายการรับเหมาก่อสร้างสนามกอลฟ์ให้แก่บริษัท ซันซิตี้กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ จำกัดหรือ ซันซิตี้ มูลค่า 369 ล้านบาทซึ่ง PICNI แจ้งว่าไม่มีความสัมพันธ์แต่มีข้อน่าสังเกตว่า ณ วันที่เกิดรายการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของซันซิตี้คือนายเฉลิมชัย ชุบผา โดยนายทวีทรัพย์ เกริกเกียรติศักดิ์ เป็นกรรมการบริษัทซึ่งบุคคลทั้งสอง เป็นกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลืออดีตผู้บริหาร PICNI ที่ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษเช่นกัน--จบ--

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 12/09/2005 @ 14:11:51 : re: เผยแผน3หุ้นแสบ ดันขึ้นยอดอีกครั้ง :หวังปล่อยของ
.0003 แผนชั่วนักกินเมือง
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 12/09/2005 @ 19:51:28 : re: เผยแผน3หุ้นแสบ ดันขึ้นยอดอีกครั้ง :หวังปล่อยของ
High risk High return
.000A ฟฟฟฟ3 .0008 ฟฟฟฟ2 .0007 .0005
 กลับขึ้นบน
ฮาโตริ
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 67
#3 วันที่: 12/09/2005 @ 22:50:03 : re: เผยแผน3หุ้นแสบ ดันขึ้นยอดอีกครั้ง :หวังปล่อยของ
ไม่มีการปั่นก็ไม่มันนะสิ...คิดอะไรมากถือว่าเป็นการวัดฝีมือรายย่อยก็เเล้วกัน...กินตามนำไปเข้าออกให้ถูกจังหวะก็ได้ค่ากับข้าวเเล้ว .0008 .0008 .0008
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com