ตลาดหลักทรัพย์ฯคาใจ บีเอ็นทีซื้อของแพง โดยเฉพาะการลงทุนในนวดิศ เผยบุ๊กแวลูจริงแค่ 22.43 ล้านบาท แต่ต้องควักกระเป๋าจ่ายสูงถึง 234 ล้านบาท แถมบันทึกขาดทุนจากด้อยค่าเงินลงทุนกว่า 61 ล้านบาท ขณะที่แมงเม่าเริ่มเสียวสันหลัง พร้อมใจกันเทขายทุบราคาร่วง 0.01 บาท ปิดที่ 0.40 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ได้พิจารณางบการเงินไตรมาส 2 ของ BNT ที่นำส่งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯพบว่า BNT มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนใน บริษัท นวดิศ จำกัด (นวดิศ)จำนวน 61.39 ล้านบาท โดยที่นวดิศเป็นบริษัทย่อยที่ BNT เพิ่งลงทุนซื้อมาในเดือนมีนาคม2549 และมีมูลค่าหุ้นตามบัญชี(Book Value) ณ 30 กันยายน 2548 จำนวน 22.43 ล้านบาท แต่ BNT ลงทุนในมูลค่ารวม 234 ล้านบาท

โดยอ้างอิงวิธีส่วนลดกระแสเงินสดสุทธิ (Discounted Cashflow) ระหว่างปี2549-2553 แต่จากหมายเหตุประกอบงบการเงินที่ 29.2 และ 30 ระบุว่าผลขาดทุนจากการด้อยค่าดังกล่าว เป็นผลจากการที่ BNT ต้องดำเนินการจ่ายคืนหนี้สินที่ติดมาจากการซื้อกิจการดังกล่าวในภายหลัง ซึ่งฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างเจรจาให้เจ้าหนี้ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของนวดิศยกเลิกสิทธิเรียกร้องความเป็นเจ้าหนี้ดังกล่าว

ทั้งนี้ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขอให้ BNT ชี้แจง ได้แก่ 1.เกี่ยวกับการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในนวดิศดังกล่าวจำนวน 61.39 ล้านบาท 2.ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามเงินมัดจำค่าสถานีวิทยุและค่าเช่าสถานีจ่ายล่วงหน้าที่บริษัท ไลฟ์ เรดิโอ จำกัด (ชื่อเดิมคือ บีเอ็นที เรดิโอ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BNT จ่ายให้จำนวนรวม 40.35 ล้านบาท 3.ความคืบหน้าการต่อสัญญาของแชนแนลวีกับ UBC

4.การยกเลิกสัญญาวิทยุจากผู้ให้เช่าสถานี และ 5.เงินทดรองจ่ายและเงินให้กู้แก่บริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท พาโนรามา ดอดคิวเมนทารี่ จำกัด จำนวน 11.43 ล้านบาท และ 1.26 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งทาง BNT ได้ชี้แจงว่าบริษัททั้ง 2 ไม่สามารถชำระคืนจากสัญญาได้ และ BNT อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารเพื่อจะฟ้องทั้ง 2 บริษัทต่อศาลภายในเดือนมิถุนายน 2549

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ BNT ชี้แจงความคืบหน้าในการติดตามทวงถามเงินทดรองจ่ายและเงินให้กู้ดังกล่าว รวมทั้งความคืบหน้าการดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัททั้ง2 ด้วย โดยต้องชี้แจงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ลงทุนทราบโดยทั่วกันภายในวันที่ 8 กันยายน 2549 ส่วนกรณีการติดตามการชำระหนี้คืนตามข้อ2 ข้อ 4และข้อ 5 ตลาดหลักทรัพย์ขอให้บริษัทชี้แจงความคืบหน้าดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมกับการนำส่งงบการเงินของ BNT เริ่มตั้งแต่งวดไตรมาส 3 เป็นต้นไป

จากประเด็นดังกล่าว ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย H หลักทรัพย์ BNTในช่วงเปิดตลาดซื้อขายภาคเช้าวานนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากปรากฏสารสนเทศสำคัญเกี่ยวกับการคาดการณ์กำไรของบริษัทย่อยและกำไรต่อหุ้นของบริษัท ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปลดเครื่องหมายดังกล่าวออกตั้งแต่การซื้อขายภาคบ่ายหลังจากบริษัทได้ชี้แจงหรือเปิดเผยสารสนเทศสำคัญดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยและครบถ้วน

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:a080591925">

ฟฟฟฟ1 ฟฟฟฟ1 ฟฟฟฟ1