นักลงทุนต่างชาติพร้อมจะขนเงินมาลงทุนในประเทศไทย
แต่ต้องรอให้การเมืองเข้าสู่ภาวะปกติเสียก่อน
เท่ากับเป็นการยืนยันว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของนักลงทุนต่างชาติ
และดัชนีกำลังรอจังหวะดีๆเพื่อทะยานขึ้นอีกรอบพะยะค่ะ

*PHATRA ใจป้ำมากๆ ค่ะ แม้ว่าปีนี้ตลาดหุ้นจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็จ่ายปันผลระหว่างกาล 1 บาท
ปิดสมุด 6 กันยานี้ และจะจ่ายเงินปันผลวันที่ 18 กันยา นโยบายนี้ของเฮียสุวิทย์นี่โดนใจเดี๊ยนสุด ๆ
แต่ถ้าโบรกฯอื่นจะเจริญรอยตามก็ยากหน่อยนะคะเพราะ ย่ำแย่กันแทบทุกราย
ที่พอจะยิ้มได้ชนิดหน้าชื่น อกไม่ตรมนี่ เดี๊ยนว่านับหัวได้ค่ะ

*ตอนนี้หุ้นหลายตัวลดทุน เพิ่มทุนกันหนุกหนาน แว่ว ๆมาว่า N-PARK จะเดินตามรอยรุ่นพี่ไปอีกราย
แต่ก็อย่างว่าค่ะตลาดหุ้นยุคนี้ ข่าวโคมลอยมันเยอะไปหมดค่ะ แต่ใครๆก็ชอบเรื่องทำนองนี้กันทั้งน้าน
ไม่ต้องพูดถึงแมงเม่าที่ไหนหรอกค่ะ เพราะนักวิเคราะห์(บางคน)ก็ชอบหุ้นปั่นกับเขาเหมือนกัน!

*DSGT หลังจากโดนปู้ยี่ปู้ยำมาเยอะราคารูดปานว่าตกหน้าผาชัน 90 องศา ที่ปรึกษาทางการเงินก็บ่นเหนื่อยใจ
เพราะไม่มีกำลังภายในมาทำให้ราคาหุ้นวิ่งฉิวได้เหมือนคนอื่นเขาทำเอานักลงทุนที่จองซื้อหุ้นเสียววาบ
แต่อยู่ๆ ราคาหุ้นก็วิ่งฉิวขึ้นไปถึง 2.86 บาท สงสัยจะแอบไปฝึกพลังยุทธ์มากจากไหน
ราคาหุ้นปิดที่ 2.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาทค่ะ

*เห็นจเรรัฐ ปิงคลาศัย ขายหุ้น D1 ทิ้งอีก 43.53 ล้านหุ้น แล้วบอกได้คำเดียวว่าเป็นหนาว! ค่ะ
เพราะคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีมาทำท่าค่อยๆ ตีจากแบบนี้ ผู้ถือหุ้นก็คงใจบ่ดีหรอกค่ะ
ทำไมต้องทยอยขายหุ้นเพื่อรับความเสี่ยงเพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น
หรือว่ากลยุทธ์นี้เป็นการกระจายความเสี่ยงค่ะ
แต่เมื่อคุณพี่ออกมาบอกว่าขายให้คนโน้นคนนี้ก็เพื่อจะได้เกื้อหนุนกันในอนาคตถึงกับยอมขายขาดทุนซะด้วย
เดี๊ยนก็สมควรปลื้มแทนผู้ถือหุ้นจนขาสั่นนิ๊ดๆๆ ด้วยความตื้นตันค่ะ

*เมื่อดูรายชื่อของคนที่ จเรรัฐขายหุ้นให้นั้น มี 2 คนที่น่าสังเกตคะ
โดยเฉพาะในรายของหม่อมหลวง สุพิชา อัศวานันท์
ซึ่งถูกมองว่าเป็นผลประโยชน์ที่มีการมอบให้หลังจากการที่ อัฏฐ์ อัศวานนท์ เข้ามานั่งเป็นผู้บริหาร
ส่วนอีกรายคงไม่ต้องสงสัย เพราะมีชื่อของสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้บริหาร IEC รวมอยู่ด้วย

*ในส่วนของ BNT ที่ล่าสุด ก็ออกมาประกาศจะลดทุน-เพิ่มทุน
ซึ่งทำแบบนี้คนที่เจ็บตัวที่สุดคงหนีไม่พ้นรายย่อยอย่างแน่นอน
เนื่องจากสัดส่วนการลดทุนครั้งนี้มากมายเหลือเกิน จาก2.5พันล้านบาท เหลือเพียง 230 ล้านบาท
ซึ่งการลดทุนครั้งนี้จะทำใหสัดส่วนผู้ถือหุ้นลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย

*นี่ยังไม่รวมการเพิ่มทุนอีก 230 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มทุนในสัดส่วนที่มากถึง50%
และเชื่อแน่นว่างานนี้นอกจากนี้หุ้นที่ถืออยู่ในมือจะหายไปบางส่วน โดยส่วนที่เหลือในมือก็จะต้องไดลูทอีก
เพราะการเพิ่มทุนครั้งนี้ให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ที่ราคาหุ้นละ 1.10 บาท

*โมนิก้าเห็นแบบนี้แล้วลำบากใจคะ ไม่รู้ว่าจะเหมือนกับหุ้นPICNIหรือเปล่า ที่ป่านนี้ยังหาคนซื้อไม่ได้เลย
แต่ก็ไม่เป็นไรนะคะ เพื่อบริษัทก็เปิดช่องไว้ว่าถ้าขายผู้ถือหุ้นเดิมไม่ได้ จะเปิดขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจงคะ

*ถ้าได้ยินอย่างนี้แล้วชายหนุ่มที่รู้ตัวว่าชื่อ จเรรัฐ โปรดรับทราบด้วยนะคะว่า
ตอนนี้BNT เค้าเปิดช่องให้เข้ามาผสมพันธ์(มิตร)อยู่แล้วล่ะค้า ขอเพียงแต่เตรียมเงินรอไว้ก็พอแล้วคะ
เพราะถ้าผู้ถือหุ้นเดิมไม่เอาก็เสียบได้เลยนะคะ อันนี้เดี๊ยนก็ขอเอาใจช่วย
ขอให้สมหวังนะคะ ราคาหุ้นปิดที่ 0.33 บาท บวก 0.01 บาท