May 3, 2024   11:53:23 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > วัดใจผู้ถือหุ้น BNT
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 23/08/2006 @ 00:17:28
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

จับตาการประชุมผู้ถือหุ้น BNT 19 ก.ย.นี้ ผถห.จะยอมรับผลกระทบจากการลดมูลค่าหุ้น-ยอมซื้อเพิ่มทุนในราคาสูงกว่ากระดาน เพื่อให้แผนลดขาดทุนสะสมและแผนระดมทุนเพื่อขยายกิจการของบริษัทเป็นจริงหรือไม่ หลังล่าสุดประกาศฟ้าผ่าลดมูลค่าหุ้น-ขายเพิ่มทุนให้ ผถห.เดิมในราคาสูงกว่ากระดาน ขณะฟากกูรูฟันธงล่วงหน้า ผู้ถือหุ้นไม่ยอมอนุมัติตมิบอร์ดแน่ เหตุเห็นชัดๆ ว่าเป็นผู้เสียผลประโยชน์ เชื่อหลังจากนี้ต้องมีทิ้งหุ้นครั้งมโหฬาร เพื่อหนีความเสี่ยงในอนาคต
วานนี้ (22 ส.ค.49) บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BNT) ได้แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 11/2549 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 ว่า ที่ประชุมมีมติลดทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 2,500,000,000 บาท เหลือ 2,280,106,682 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังจำหน่ายไม่ได้จำนวน 219,893,318 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 219,893,318 บาท และพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4ให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
ทั้งนี้ ให้บุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมายในการจดทะเบียนแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ มีอำนาจแก้ไขและเพิ่มเติมถ้อยคำเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของนายทะเบียน มีมติลดทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 2,280,106,682 บาท หุ้น เหลือ 230,000,000 บาทโดยลดจำนวนหุ้นสามัญที่ชำระเต็มมูลค่าแล้วในอัตรา 1 หุ้นเดิมเหลือ 0.1008725 หุ้นรวมจำนวนหุ้นที่ลดลงไปทั้งสิ้นจำนวน 2,050,106,682 หุ้น รวม 2,050,106,682 บาท เพื่อล้างส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นจำนวน 760,483,463.28 บาท และลดขาดทุนสะสมจำนวน 1,289,623,218.72 บาท
การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้งบการเงินของบริษัทแสดงส่วน ของผู้ถือหุ้นชัดเจน เข้าใจง่าย และไม่ซับซ้อน และจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้เร็วขึ้น(ในกรณีที่บริษัทมีกำไรในอนาคต)
นอกจากนั้น มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 230,000,000 บาท เป็น 460,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 230,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นจำนวนเงิน 230,000,000 บาท เพื่อ ใช้รองรับการขยายกิจการของบริษัทและบริษัทย่อย เพื่อใช้รองรับการลงทุนในบริษัทอื่น และเพื่อสำรองเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและบริษัทย่อยและมีมติให้แก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน
มีมติอนุมัติให้บริษัทจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 230,000,000 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นสามัญเดิม (ภายหลังการลดทุน) ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ โดยเสนอขายในราคาหุ้นละ1.10 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันเดียวกับวันที่ปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะถูกลดทุน
พร้อมกันนี้ มีมติเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เขียนเป็นภาษา อังกฤษว่า Live Incorporation Public Company Limited
ทั้งนี้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 ในวันที่ 18 กันยายน 2549 เวลา 8.30 น ณ ห้องเอเวอร์กรีน ชั้น5 โรงแรมอเล็กซานเดอร์ เลขที่ 3303 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ 10240
อย่างไรก็ตาม การมีมติดังกล่าวของคณะกรรมการ BNT ออกมาวานนี้ ได้มีนักวิเคราะห์หลายรายออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่าการออกมาลดขาดทุนสะสมด้วยวิธีการลดมูลค่าหุ้นดังกล่าว น่าจะเป็นเพราะ BNT น่าจะอยู่ในสถานการณ์วิกฤต เนื่องจากวิธีการดังกล่าวจะกระทบต่อผู้ถือหุ้นโดยตรง แต่ก็ยังเลือกใช้แทนการใช้วิธีอื่นๆ

- ซีมิโก้เชื่อขาดทุนสะสม BNT เข้าขั้นวิกฤต
นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ กล่าวว่าการประกาศลดมูลค่าหุ้นแบบกระทันหันดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงฐานะของบริษัทฯที่เริ่มไม่มั่นคง เนื่องจากตามปกติของธุรกิจหากต้องการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ อาจไม่จำเป็นต้องลดมูลค่าหุ้นเช่นนี้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายอื่น แต่อาจจะดำเนินการลดพาร์แทน
BNT มีการลดมูลค่าหุ้นจาก 1 หุ้นเดิมเหลือ 0.1008725 หุ้น คิดเป็นจำนวนหุ้นที่หายไปถึง 1 ใน 10 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากทีเดียว ซึ่งต้องบอกว่าถ้าไม่จำเป็นบริษัทฯคงไม่ทำ ฉะนั้นต้องจับตาดูต่อไปว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติแผนดังกล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้หรือไม่ นายสิทธิเดชกล่าว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าผู้ถือหุ้นไม่น่าจะอนุมัติ เนื่องจากการลดมูลค่าหุ้นมีผลให้จำนวนหุ้นลดน้อยลงและผู้ถือหุ้นได้รับผลกระทบด้วย ดังนั้น หากผู้ถือหุ้น BNT ไม่อนุมัติให้เพิ่มทุนและลดทุนครั้งนี้ เชื่อว่า BNT จะได้รับผลกระทบแน่ ซึ่งก็คงต้องดูต่อไปว่านโยบายบริหารของบริษัทฯจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้
อย่างไรก็ดี มองว่าราคาหุ้น BNT จากนี้จนถึงการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 กันยายนจะเคลื่อนไหวลักษณะผันผวน โดยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงเนื่องจากเชื่อว่าจะมีแรงดันให้ราคาหุ้นขยับเพิ่มขึ้น และจะมีแรงเทขายตามออกมา ฉะนั้นนักลงทุนก็ให้ระมัดระวังการลงทุนให้มาก
เขากล่าวอีกว่า หากดูหุ้นบนกระดานหลังที่บอร์ด BNT มีมติออกมาดังกล่าว พบว่าราคาลดลงมากและ มีแรงขายหนาแน่นตั้งแต่เปิดการซื้อขาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนไม่ต้องการถือ เพื่อลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้น แต่จากจำนวนหุ้นที่กระจายในตลาดฯตอนนี้ประมาณ 2,200 ล้านหุ้น อาจทำให้ไม่สามารถเทขายออกมาครั้งเดียวได้หมด ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอาจเกิดการไล่ราคาจนดันให้หุ้นวิ่งขึ้นไป และอาจมีการเทขายสวนกลับก็เป็นได้

- พัฒนสินเชื่อผู้ถือหุ้นกระทบหนัก
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัย บล.พัฒนสิน กล่าวว่า การที่ BNT ประกาศลดทุนโดยลดมูลค่าหุ้นอัตรา 1 หุ้นเดิมเหลือ 0.1008725 หุ้น เพื่อล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้น 760 ล้านบาท และลดขาดทุนสะสม 1.28 พันล้านบาท ว่าการลดทุนดังกล่าว ทำให้จำนวนหุ้นบนกระดานลดน้อยลง ซึ่งผู้ถือหุ้นก็จะมีหุ้นในมือในสัดส่วนที่ลดลงเช่นกัน โดยมองว่าราคาหุ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XR(ผู้ซื้อไม่มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน) จะเคลื่อนไหวลักษณะผันผวนในทิศทางที่ลดลงซึ่งนักลงทุนคงต้องประเมินว่าราคาหุ้นหลังลดทุนแล้วจะเป็นเช่นใดและคุ้มทุนหรือไม่

- มั่นใจล้างขาดทุนไม่หมด ยังเป็นปัญหาให้สะสางต่อ
นายถนอมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้น 760 ล้านบาท และลดขาดทุนสะสม 1.28 พันล้าน บาท ว่าแม้การลดทุนครั้งนี้จะมีจุดประสงค์เพื่อทำส่วนทุนให้เป็นบวก และล้างขาดทุนสะสม แต่มองว่ายังไม่สามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ให้หมดได้ โดยคาดว่าจะเหลือขาดทุนสะสมอีกประมาณ 500 ล้านบาทต้องดำเนินการสะสาง เพื่อจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ โดยต้องติดตามดูต่อไปว่าบริษัทฯจะมีนโยบายเป็นเช่นใด
ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้ยังขาดทุนอยู่ 306.35 ล้านบาท ซึ่งต้องดูว่าครึ่งปีหลังบริษัทฯจะดำเนินการอย่างไรให้ผลประกอบการดีขึ้น และจะมีแนวทางใดล้างขาดทุนสะสมได้หมด ซึ่งมติของคณะกรรมการที่ออกมาครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายสำหรับการล้างขาดทุนสะสมดังกล่าว

- แนะหนีไปเล่นหุ้นเก็งกำไรตัวอื่นแทน
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่าสัญญาณเทคนิคของ BNT ยังไม่ค่อยดีนัก ขณะที่พื้นฐานการดำเนินงานคงต้องรอความชัดเจนหลังประกาศลดทุนและเพิ่มทุนแล้วเสร็จว่าเป็นเช่นใด
โดยระยะสั้นแนะนำนักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นดังกล่าว และเปลี่ยนไปเล่นหุ้นที่มีกระแสข่าวรองรับซึ่งหุ้นเด่นแนะนำ ได้แก่ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS เนื่องจากสัญญาณเทคนิคดี และมีแรงซื้อเข้ามาในประเด็นที่บริษัทฯเตรียมบริษัทลูกเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยประเมินแนวรับ JAS ไว้ที่ 0.47 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 0.52 บาท และแนวต้านถัดมาที่ 0.55 บาท

- วงการเชื่อ BNT มีนักลงทุน PP รอซื้อเพิ่มทุนอยู่แล้ว
แหล่งข่าวจากวงการค้าหลักทรัพย์ กล่าวถึงการมีมติเพิ่มทุนจำนวน 230,000,000 หุ้น โดยขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในราคาหุ้นละ 1.10 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาหุ้นในกระดาน (โดยวานนี้หุ้น BNT ปิดที่ระดับ 0.33 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท มูลค่าการซื้อขาย 357.84)ว่า เชื่อว่าผู้ถือหุ้นเดิมคงไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเช่นเดียวกับครั้งอื่นๆ ที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการบริษัทมีมติออกมาเช่นนี้ก็ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะมีกลุ่มนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) รอไว้แล้ว เพื่อซื้อหุ้นเพิ่มทุนล็อตดังกล่าวหากผู้ถือหุ้นเดิมไม่ใช้สิทธิ
อย่างไรก็ตาม จุดสำคัญก็คงอยู่ที่ว่าการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 ก.ย.49 ที่จะถึงนี้ ผู้ถือหุ้นจะลงมติเห็นชอบมติของคณะกรรมการหรือไม่ ถ้าไม่อนุมัติแล้วทางออกที่จะตามมาเพื่อลดผลขาดทุนสะสมมูลค่ากว่า 1.2 พันลบ.จะมีทางออกอย่างไร และในทางกลับกันหากผู้ถือหุ้นอนุมัติแล้ว BNT จะใช้วิธีใดกู้วิกฤติเรื่องผลประกอบการที่ยังขาดทุนสุทธิให้ดีขึ้นได้ และจะใช้วิธีการใดสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในอนาคต
เนื่องจากที่ผ่านมา BNT เผยผ่านการเพิ่มทุนและขายเฉพาะเจาะจงให้กับพันธมิตรหลายราย แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาใดให้กับบริษัทได้ จึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่า การขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ BNT จะดึงใครหรือกลุ่มไหนเข้ามาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนหรือผู้ถือหุ้นเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นรายย่อยได้ แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวในที่สุด


efinancethai.com[/color:d47b92cd7d">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com