May 3, 2024   6:51:58 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น 22-08-06
 

jagkrub
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 43
วันที่: 22/08/2006 @ 10:05:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[b:b2716003f1">สัญญาณหุ้น[/b:b2716003f1">
Source - ข่าวหุ้น
Tuesday, 22 August 2006 04:08

บล.เกียรตินาคินแนะนำหลีกเลี่ยงITVราคาเป้าหมาย 3.64 บาทประเด็นเรื่องค่าปรับกรณีการปรับผังรายการของบริษัท (หากศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้เพิกถอนคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ) ซึ่งสามารถตีความได้ 2 กรณี 1) บริษัทคำนวณได้208 ลบ. 2) สปน. คำนวณได้ 75,980 ลบ. ซึ่งทาง สปน. อยู่ระหว่างการส่งไปให้ทางอัยการสูงสุดพิจารณาว่าแท้จริงแล้ว ควรตีความเช่นไร และหากไม่สามารถตกลงกันได้คาดว่าอาจจะต้องมีการจัดตั้งคณะอนุญาโตตุลาการเพื่อวินิจฉัยข้อพิพาทดังกล่าวต่อไป โดยในเบื้องต้นเราประเมินมูลค่าพื้นฐานกรณีบริษัทชนะคดี (หมายถึงบริษัทจะยังคงจ่ายค่าสัมปทานที่ 230 ลบ./ปี และในช่วง Prime Time (19.00- 21.30 น.) ยังคงไม่มีข้อกำหนดว่าจะต้องออกอากาศเฉพาะรายการสาระประโยชน์เท่านั้น) เท่ากับ 8.14 บาท(DCF โดยใช้ WACC ที่ 7.33% และวิธี PER โดยใช้ P/E ที่ 16X) และในกรณีหากบริษัทแพ้คดี (หมายถึงบริษัทจะต้องกลับไปจ่ายค่าสัมปทานที่ 1,000 ลบ./ปี รวมถึงจ่ายย้อนหลังของในปี 47 และ 48 ที่บริษัทจ่ายเพียง 230 ลบ. และต้องปรับผังรายการในช่วง PrimeTime ให้ออกอากาศเฉพาะรายการสาระประโยชน์เท่านั้น (ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการออกอากาศละครในช่วงเวลาดังกล่าวจำนวน 1 ชั่วโมง) แต่เรายังไม่รวมค่าปรับกรณีบริษัทมีการปรับผังรายการ ที่ยังคงมีการโต้แย้งว่าบริษัทควรจะต้องจ่ายหรือไม่เพราะบริษัทปฏิบัติตามคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ และหากต้องเสียควรจะต้องเสียเท่าไรเนื่องจากทางบริษัทคำนวณค่าปรับได้เท่ากับ 208 ลบ. ส่วน สปน. คำนวณได้ที่กว่า 7.6 หมื่นล้านบาท)ประเมินมูลค่าพื้นฐานเท่ากับ 3.56 บาท (วิธี DCF ใช้ WACC ที่ 7.33%) จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 49 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 276 ลบ. ลดลง 32% yoyและคิดเป็น 50% ของประมาณการปี 49 ของเรา แม้ว่าบริษัทจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดี (ใกล้เคียงกับปี 48)
บล.เอเชียพลัสแนะนำซื้อ ATCราคาเป้าหมาย 37.00 บาทราคา Px ขณะนี้ยังทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.54 พันเหรียญฯ/ตัน โดยราคา Pxเฉลี่ยใน 3Q49 (ถึงปัจจุบัน) เท่ากับ 1.37 พันเหรียญฯ/ตัน เพิ่มขึ้นถึง 26% qoqเนื่องจาก Supply ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของ Dewitt-NPRA49 และ PCI ณ สิ้น พ.ค.49 ระบุว่า Supply ของ Px ทั่วโลกในปี 2549 จะเพิ่มขึ้น 1.84 ล้านตัน (แบ่งเป็นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ 49% อินเดีย 27% ส่วนที่เหลือมาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) เทียบกับ Demand ของ Px ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น 2.33ล้านตัน (Demand จากผู้ประกอบการผลิตสาร PTA ในจีนและส่วนอื่นๆ ของโลก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นกลาง เพื่อนำไปผลิตต่อเป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์ หรือเม็ดพลาสติก PET) ส่วนในปี 2550 สถานการณ์ยังเป็นไปในลักษณะเดียวกัน โดยคาดว่า Supply ของ Px ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.05 ล้านตัน ส่วน Demand คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3.35 ล้านตัน (เกือบ 77% มาจากจีน) ทั้งนี้ การที่ Supply ใหม่ๆ ของ Px ทั่วโลกเพิ่มขึ้นในระดับต่ำกว่าคาดมากในปี 2549-50 สืบเนื่องจากการเลื่อนกำหนดการขึ้นโรงงานPx ในประเทศอิหร่านและคูเวตจำนวน 2 โรง ได้แก่ Borzoyeh Petrochemical (NPC No.4) ในอิหร่านกำลังการผลิต 7.5 แสนตัน/ปี ซึ่งเดิมมีกำหนดจะเริ่มผลิตในปลายปี 2549 เลื่อนไปเป็นกลางปี 2550ส่วนโรงงาน PIC ในคูเวต กำลังการผลิต 7.8 แสนตัน/ปี ซึ่งเดิมมีกำหนดจะเริ่มผลิตในปลายปี 2550 เลื่อนไปเป็นต้นปี 2552 ส่งผลให้ Operating rate ในปี 2549-50 นั้นสูงถึง 92% และ 90% ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับที่สูงมาก และส่งผลดีมากต่อราคา Px ในช่วงเวลาดังกล่าว ราคา Bz เฉลี่ยใน 3Q49 (ถึงปัจจุบัน) อยู่ที่ 975 เหรียญฯ/ตันเพิ่มขึ้น 12.1% qoq จากการคาดการณ์ของ CMAI และ Dewitt-NPRA 49 พบว่าSupply ใหม่ๆ ของ Bz ในปี 2549-50 เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดและต่ำกว่า Demand เช่นกันเนื่องจากการเลื่อนการผลิตของโรงงานในอิหร่าน ได้แก่ Borzoyeh Petrochemical(NPC No.4) กำลังการผลิต 4.3 แสนตัน/ปี ซึ่งเดิมมีกำหนดจะเริ่มผลิตในปลายปี 2549
บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อลงทุน TRCราคาเป้าหมาย2.22 บาทTRC มีผลประกอบการไตรมาส 2/49 ที่น่าประทับใจ เท่ากับ 11 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดถึง 3.4 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานไตรมาสนี้ ยังต่ำกว่าไตรมาสที่ผ่านมา 27% เนื่องจากการรับรู้รายได้ที่ลดต่ำลง โดยรายได้ในไตรมาส 2/49 เพิ่มขึ้น 13% เทียบกับปีก่อน เป็น 139 ล้านบาท แต่ลดลง 23%เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการของงานก่อสร้างอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 19.2% จาก 14.6% ในไตรมาสก่อน เนื่องจากสัดส่วนรายได้ที่มาจากงานวางท่อก๊าซสูงขึ้น ซึ่งงานลักษณะนี้อัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่างานก่อสร้างโรงงานปิโตรเคมี อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงของ TRC มาจากการที่ธุรกิจนี้มีคู่แข่งน้อย ประกอบกับผลกระทบจากต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้นมีไม่มากนักเพราะงานส่วนใหญ่มีระยะเวลาทำงานที่สั้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 46% เทียบกับปีก่อนและ 6% เทียบกับไตรมาสก่อนเป็น 14 ล้านบาท จากจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของบริษัทแนวโน้มของผลประกอบการในครึ่งปีหลังยังคงแข็งแกร่ง โดยเราคาดว่า TRC จะส่งมอบงานก่อสร้างอีก 393 ล้านบาทตามกำหนดระยะเวลางานก่อสร้าง เราจึงคงการประเมินการรายได้ของปี 2549 อยู่ที่ 712 ล้านบาทและกำไรสุทธิที่ 42 ล้านบาท หรือ 0.28 บาทต่อหุ้น โดยเติบโต 36% จากปี 2548ด้วยนโยบายจ่ายเงินปันผลที่ 40% ของกำไร เราคาดว่า TRC จะประกาศจ่ายปันผลสำหรับปี 2549 ที่ 0.11 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราเงินปันผลที่สูงถึง 6.7% นับแต่ต้นปีที่ผ่านมา TRCได้งานใหม่หลายโครงการมูลค่างานรวม 449 ล้านบาท หลังหักยอดรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/49 บริษัทมีงานในมือเป็นมูลค่ารวม 619 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 87% ของประมาณการรายได้ปี 2549 แนวโน้มการเติบโตของงานในมือยังคงแข็งแกร่ง โดย TRC วางแผนที่จะเข้าร่วมประมูลงานอีกจำนวนมากเป็นมูลค่ารวม 5.4 พันล้านบาทในครึ่งปีหลัง การใช้เงินลงทุนเพื่อการขยายตัวของบริษัท ทำให้ยอดการกู้ยืมเงินของ TRC เพิ่มขึ้นจาก 42 ล้านบาท ไตรมาสก่อนเป็น 46 ล้านบาท และอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสูงขึ้นเป็น 0.21 เท่าจาก0.18 เท่าไตรมาสที่ผ่านมา
บล.บัวหลวงแนะนำกลุ่มสื่อสารเพิ่มน้ำหนักการลงทุนผ่านไปหกเดือน ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ออกมาให้ความเห็นแก่ทางกทช อย่างเป็นทางการ โดยเราได้ข้อมูลจากทางเว็บไซต์ของทางคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีข้อสรุปดังนี้ 1) กทช สามารถที่จะจัดทำแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม และแผนความถี่วิทยุได้หากเป็นไปโดยสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และเป็นไปตามข้อบังคับวิทยุสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และเมื่อ กทช จัดทำแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมและแผนความถี่วิทยุแล้ว ก็สามารถนำมาเป็นหลักการในการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมได้ต่อไป 2)ตารางกำหนดความถี่วิทยุแห่งชาติเดิมไม่สามารถใช้บังคับได้ต่อไปเนื่องจาก ไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ระหว่างยังไม่มีตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ในการปฏิบัติก็อาจใช้ตารางกำหนดความถี่วิทยุแห่งข้อบังคับของ ITU มาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติงานเบื้องต้นไปพลางก่อนได้ 3) เมื่อได้วินิฉัยในประเด็นที่หนึ่งแล้วจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในประเด็นนี้อีก จากรายละเอียดด้านบนจะเห็นว่าทางกรรมการกฤษฎีกา ได้อนุญาตให้ทาง กทช สามารถออกใบอนุญาตจัดสรรความถี่ใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านทาง กสช ทั้งนี้ ทาง กทช เองได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงด้านเทคนิค ในการให้บริการเทคโนโลยี 3 จี 2.4GHzWiMAX, RFID ฯลฯ จากการเช้าร่วมประชุมกับทาง กทช ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่า การให้บริการ 3 จี จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ รวมถึงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่างๆ น่าจะประกาศภายในปีนี้ ตามหมายกำหนดการที่ทาง กทช วางไว้ หาก กทช สามารถทำตามหมายกำหนดการที่วางไว้ได้จริง คลื่นความถี่ 3 จี และใบอนุญาตในการให้บริการดังกล่าวน่าจะเริ่มมีการประมูลในครึ่งแรกของปี 2550 ดังนั้นการเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์น่าจะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังปี 2550 คาดว่าทาง กทช ตั้งใจที่จะไม่ให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดมือถือของไทยอีก ดังนั้น กทช จะจัดสรรคลื่นความถี่ 3 จีและใบอนุญาตดังกล่าว ให้กับผู้ประกอบการระบบ GSM เดิมเท่านั้น ซึ่งได้แก่ ADVANC TAC และ TRUE MOVE เรามองว่าข่าวดีจะส่งผลดีต่อราคาหุ้น ADVANC ด้วยงบการเงินที่แข็งแกร่งและสถานะเงินสดที่เพียงพอ จะทำให้ ADVANC สามารถลงทุน 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ต่อเนื่องไปอีก 5 ปีข้างหน้าได้ เพื่อใช้ในการสร้างเครือข่าย 3 จี

[b:b2716003f1">เทคนิคหุ้นเด่น[/b:b2716003f1">
Source - ข่าวหุ้น
Tuesday, 22 August 2006 04:11

UCOM
เมื่อพิจารณาโครงสร้างรายสัปดาห์พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาตลอดระยะเวลา 2เดือนกว่า ขณะเดียวกันราคาหุ้นรายวันก็ปรับตัวเหนือแนวต้านทุกเส้นที่ระดับ 46.00 บาทพร้อมด้วยวอลุ่มที่เข้ามาอย่างหนาแน่น ทางด้านสัญญาณ RSI และ Slow Stochasticที่ปรับตัวสนับสนุนแรงซื้อขายยังปรับตัวเป็นซื้ออยู่ ดังนั้นคาดว่าหุ้นน่าจะปรับตัววขึ้นอีก เพื่อทดสอบระดับ 46.50 บาท อีกครั้งคำแนะนำ ทยอยซื้อลงทุน
RRC
เมื่อพิจารณาโครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์ พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะอ่อนตัวลงมากว่า 2 สัปดาห์ เราคาดว่าเป็นช่วงที่หุ้นพักฐาน หลังก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นไปมาก ทำให้ราคาหุ้นรายวันยังทรงตัวที่ระดับ 20.60 บาท ไม่ทำจุดต่ำสุดมากไกว่านี้ หากหุ้นไม่หลุดจากแนวรับนี้ คาดว่าหุ้นน่าจะได้เวลาปรับตัวขึ้นได้แล้ว หลังสัญญาณทางเทคนิคระยะนี้ปรับตัวเข้าเขตขายมากเกินไปคำแนะนำ ซื้อลงทุน
KCE
เมื่อสังเกตราคาหุ้นจากแท่งเทียนรายสัปดาห์ พบว่าราคาหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นมาเป็นลำดับส่วนราคาหุ้นรายวันเริ่มผ่านแนวต้านเส้น 10,25 วัน ขึ้นมาที่ระดับ 3.32 บาท อย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับสัญญาณสัญญาณ RSI และ Slow Stochastic ปรับตัวสนับสนุนการซื้ออย่างชัดเจน ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นได้อีก โดยมองว่าเป้าหมายที่หุ้นจะทดสอบน่าจะอยู่ที่ระดับ 3.50 บาท เป็นสำคัญคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
SCB
ราคาหุ้นรายสัปดาห์ปรับตัวขึ้นแรง จนสามารถผ่านแนวต้านทุกเส้นขึ้นมาอย่างชัดเจนขณะเดียวกัน ราคาหุ้นรายวันยืนเหนือแนวต้านทุกเส้นได้เช่นกัน แต่เนื่องการปรับตัวขึ้นแรงและต่อเนื่อง ส่งผลให้สัญญาณ RSI และ Slow Stochatic ปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกินไปสัญญาณจึงเริ่มโค้งตัวเป็นขาย คาดว่าหุ้นน่าจะได้เวลาพักฐานและน่าจะมีแรงขายออกมาในไม่ช้าคำแนะนำ หาจังหวะขาย
TRUBB
เมื่อพิจารณาแท่งเทียนรายสัปดาห์พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวลดลงตลอดระยะเวลา 2สัปดาห์ ส่วนราคาหุ้นรายวันก็อ่อนตัวลงมาเป็นลำดับที่ระดับ 20.60 บาท ทำให้สัญญาณ RSIและ Slow Stochastic ปับตัวเป็นขายชัดเจน แนวโน้มคาดว่าหุ้นน่าจะปรับตัวลงอีก โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 20.00 บาทคำแนะนำ หาจังหวะขาย
AP
เมื่อมองโครงสร้างใหญ่รายสัปดาห์พบว่า ราคาหุ้นยังเป้นขาลงอย่างชัดเจน ขณะที่ราคาหุ้นรายวันหลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 3.68 บาท พบว่าราคาหุ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ ส่งผลให้ราคาหุ้นรายวันอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 3.52 บาท ขณะเดียวกันสัญญาณ RSI และ Slow Stochastic ยังกลับตัวเป็นขายอยู่ ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นน่าจะปรับตัวลงอีกที่แนวรับ 3.22 บาท อีกครั้งคำแนะนำ หาจังหวะขาย

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 22/08/2006 @ 21:05:49 : re: สัญญาณหุ้น 22-08-06
สงสัยมานานแล้วว่า itv ไปประมูลสัมปทานมาทำไม ดูแล้วไม่น่ามีกำไร แถมสปน.ก็มหาโหด คิดได้ไงค่าปรับที่แพงกว่าค่าสัมปทานตลอดอายุสัมปทาน แถมไม่มีการยืดหยุ่นให้ทางไอทีวีปรับแผนผังเพื่อให้กิจการอยู่รอดได้ เจ้าหนี้ยังมีประนอมหนี้แต่นี้จะให้เจ๊งอย่างเดียว .0001
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com