EWC-ปิคนิคนำโด่งทรุดกว่า1,000% เตือนแมลงเม่าคิดจะเสี่ยงต้องมีวินัย

สำรวจผลประกอบการ 10 หุ้นหวือหวา พบขาดทุนครึ่งปีแรกเกือบ 3 พันล้าน ลดฮวบ 2,769.46% EWC-ปิคนิคนำโด่ง โบรกฯแนะรายย่อยเลี่ยงลงทุน อยากเสี่ยงต้องมีวินัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการรวบรวมผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก ปี 2549 ของหุ้นเก็งกำไร 10 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ APURE บริษัท หลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER บริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) หรือ POWER บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS บริษัท บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BNT บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI และบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ติดในบัญชีหุ้นที่มีการซื้อขายหมุนเวียนสูง หรือ Turnover List ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่ามีผลขาดทุนสุทธิรวม 2,727.1 ล้านบาท ลดลง 2,769.46 % เมื่อเทียบกับงวดครึ่งปีแรกปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 42.36 ล้านบาท หรือลดลง 6,537.91% โดยหุ้นที่มีผลประกอบการลดลงมากที่สุดคือ EWC มีผลขาดทุนสุทธิ 475.91 ล้านบาท ลดลง 1,063.97% และปิคนิคฯขาดทุนสุทธิ 982.51 ล้านบาท ลดลง 1,063.72%

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2549 พบว่าทั้ง 10 บริษัท มีผลขาดทุนสุทธิรวม 1,709.76 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิรวม 46.35 ล้านบาท หรือลดลง 3,588.8% โดยบริษัทที่ขาดทุนเพิ่มขึ้นสูงสุดคือ IEC มีผลขาดทุนสุทธิ 192.84 ล้านบาท ลดลง 1,968.60% รองลงมาคือ EWC ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 516.31 ล้านบาท ลดลง 1,902.13%

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าลงในหุ้นที่มีการเก็งกำไรอยู่แล้ว เพราะไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ทั้งผลการดำเนินงานและอาจจะมีความเสี่ยงจากการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ จากตลาดหลักทรัพย์ด้วย ขณะที่ในตลาดหุ้นยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่มีพื้นฐานดี จากผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง มีการจ่ายปันผลที่ดี

เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มนี้อยู่แล้ว แต่หากนักลงทุนที่สนใจเข้าไปลงทุนจะต้องยอมรับความเสี่ยง และมีวินัย เพราะหากทางเทคนิคราคาหุ้นปรับขึ้นได้ ในระดับหนึ่งก็ต้องขายทำกำไรออกมา อย่าไปยึดติดว่าราคาเคยขึ้นไปสูงเท่าไหร่ และจะถือหุ้นนั้นรอ เพราะโอกาสที่ราคาจะกลับมาที่เดิมก็มีสูง ขณะที่รายใหญ่สามารถเข้ามาเล่นหุ้นเก็งกำไรได้ เพราะเป็นคนกำหนดทิศทางจะรู้แนวรับแนวต้านของราคาหุ้น จะรู้ว่าจะเข้าจะออกเมื่อใด ซึ่งต่างจากรายย่อย นายโกสินทร์กล่าว



ที่มา:
มติชน