May 3, 2024   5:05:13 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > EWC" ฟ้อง "SGF" "อาตี๋คนนั้น"...
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 19/08/2006 @ 01:47:18
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่สุด บมจ.อีสเทิร์นไวร์ (EWC) ก็เข้าแจ้งการดำเนินคดีต่อ บมจ.สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง (SGF) เหตุเพราะ นอมินี ของ อาตี๋ถังแก๊ส เบี้ยวหนี้ ไม่ยอมคืนเงินกู้ 500 ล้านบาทบวกดอกเบี้ย



โดมิโน แห่งผลประโยชน์ จึงล้มลงอย่างไม่เป็นท่า ตอกย้ำว่า..ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ อย่างที่ใจคิด และ กรรม นั้น..มีอยู่จริง!!!

ก่อนหน้านี้ EWC หมายมั่นว่าตัวเองจะเป็น เสือนอนกิน (ดอกเบี้ย 6%) จึงทำเหมือน สุนัขเห็นเงา ในนิทานอีสป ปล่อย ชิ้นเนื้อ (เงิน 500 ล้านบาท) ลงไปในน้ำ..เข้าปากเสือ เพราะมองเห็นเงาของชิ้นเนื้อ ที่ใหญ่กว่า

ฝั่งของ SGF ก็หวังแค่ กินค่าหัวคิวดอกเบี้ย (บวกเพิ่มจาก 6%) แล้วเอาเงินก้อนนี้ไป ปล่อยกู้ต่อ ให้กับลูกค้า 7 ราย โดยที่ไม่ยอมเปิดเผยว่า ลูกหนี้กลุ่มนี้เป็นใคร ซึ่งแหล่งข่าววงใน ระบุว่า ลูกหนี้กลุ่มนี้แท้ที่จริงแล้วเกี่ยวข้องกับ อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับพลังงาน

โดยในสัญญาเงินกู้นั้น ฝั่งของ SGF พยายามจะป้องกันตัวเอง จึงมีข้อความระบุเอาไว้ในสัญญาว่า ได้ให้สิทธิแก่ SGF ในการชำระหนี้ให้กับ EWC ได้ใน 2 กรณี...

หนึ่ง..ชำระหนี้เงินกู้คืนโดย เงินสด หรือ สอง..หากไม่สามารถคืนด้วยเงินสดไม่ว่าเพราะเหตุใด SGF จะโอนสิทธิเรียกร้อง ซึ่งมีอยู่เหนือลูกหนี้ทั้ง 7 ราย ให้ EWC ในจำนวนเงินเท่ากับเงินต้น ทั้งนี้ EWC สัญญาว่าจะรับโอนสิทธิเรียกร้องในลูกหนี้ของ SGF โดยไม่คัดค้าน หรือปฏิเสธแต่อย่างใด

สัญญาต่อท้ายนี้ หมายความว่า SGF จะไม่ยอมรับความเสี่ยง หาก ลูกหนี้ (อาตี๋คนนั้น) เบี้ยวหนี้ แสดงว่า SGF ก็รู้อยู่แล้วว่าดีลนี้ เสี่ยง และ EWC ก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ลูกหนี้ เป็นใคร โดยยืมมือ SGF เป็น ทางผ่านของเงิน เพื่อนำไปให้กู้ต่อ

แต่เมื่อครบกำหนดวันชำระหนี้คืน คือ วันที่ 15-16 มิถุนายน 2549 ลูกหนี้กลับ เบี้ยว ดังนั้น SGF จึงเรียกร้องสิทธิแจ้งขอโอนลูกหนี้ ให้แก่ EWC แทนการชำระหนี้ตามสัญญา ซึ่งทาง EWC ไม่เพียงไม่รับโอนสิทธิเรียกร้องในความเป็นเจ้าหนี้แล้ว ยังแจ้งความดำเนินคดีกับ SGF เพื่อเรียกเงิน 500 ล้านบาทคืนโดยเร็ว

ถ้ามาฟอร์มนี้ ก็ตีความได้ว่าฝั่งของ EWC กับฝั่งของ อดีตรัฐมนตรี (คนนั้น) ตัดสิ้นเยื่อ..ไม่เหลือใย หมดสิ้นหนี้บุญคุณกันแล้ว

แต่ปัญหาไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เพราะเหตุว่า ผลแห่งการกระทำครั้งนี้ ก็คือ EWC ต้องบันทึกสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งจำนวน ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2549 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 516.32 ล้านบาท ขณะที่ SGF ก็ต้องตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญทั้งจำนวนเช่นกัน ส่งผลให้ ไตรมาส2/2549 บริษัทก็มีผลขาดทุนสุทธิสูงถึง 587.66 ล้านบาท

..เรียกว่า เจ๊งทั้ง 2 ฝ่าย

ทางฝั่งของ SGF ก็ไม่ยอมตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางโพงพาง และนำทรัพย์ทั้งหมดไปวางต่อ สนง.วางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี เพื่อ ยืนกระต่ายขาเดียว ว่า หนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินระหว่าง SGF กับ EWC ได้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีข้อผูกมัดกับ SGF อีกต่อไป

เท่ากับว่า SGF พยายามเดินเกม โยนให้ EWC ซึ่งเป็น เจ้าของเงิน 500 ล้านบาท เป็นฝ่ายรับความเสียหายไปแต่เพียงผู้เดียว และไปหาทาง ไล่เบี้ย กับลูกหนี้ทั้ง 7 รายเอาเอง

แต่เกมนี้คงไม่จบง่ายๆอย่างนี้เป็นแน่ และ EWC คงไม่ยอมให้ SGF ปัดความรับผิดชอบ เอาตัวรอดด้วยลูกเล่นทางกฎหมายฝ่ายเดียว โดยหวังนำสำรองหนี้สงสัยจะสูญกลับมาบันทึก(กลับ)เป็น รายได้ ของ SGF ได้ง่ายๆ งานนี้คงต้องต่อสู้กันอีกหลายยก

แต่ที่แน่ๆ ไม่มีใครคาดคิดว่า ผลแห่งการกระทำ จะตามมาหลอกหลอน ทั้ง 3 ฝ่าย (SGF-EWC และ อาตี๋ถังแก๊ส) ได้รวดเร็วราวกับ ติดจรวด..นี่แหละ กรรม

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฉบับที่ 114 ประจำวันที่ 18 - 24 สิงหาคม 2549 [/color:d02c006406">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com