May 3, 2024   5:10:18 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สังคมหุ้น : 18/08
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 18/08/2006 @ 09:29:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลาดหุ้นไทยยังฝากไว้กับกลุ่มพลังงานเป็นหลัก ยามหุ้นวิ่งดัชนีก็พุ่งพรวดตามไปด้วย
เมื่อยามขาลงดัชนีก็ผันผวนตาม ทำให้ขาดความสมดุล..
เพราะต่อให้หุ้นกลุ่มอื่นดีแค่ไหน ถ้าหุ้นพลังงานไม่ขึ้นด้วยงานนี้ก็จบเห่ ลิเกไทย*

หุ้น TPI ยังครองใจนักลงทุนอยู่เสมอ
เห็นได้ชัดจากมูลค่าการซื้อขายโดดเด่นอยู่ทุกวัน แต่ราคาก็ยังไปได้ไม่ไกล
ปัญหาอยู่ที่ความเป็นตัวตนของทีพีไอ ภายใต้ผู้ถือหุ้นใหญ่ปตท.
ยังเป็นเรื่องที่นักลงทุนคาดเดาไม่ถูก*

ล่าสุดเฮียเสริฐประเสริฐ บุญสัมพันธ์
บิ๊กบอสปตท.ประกาศเร่งเครื่องสางปัญหาหนี้ เพื่อให้ TPI เบาตัวมากขึ้น
และก้าวต่อไป คือการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เหลือไว้เพียงปิโตรเคมีและโรงกลั่น
ส่วนธุรกิจอื่นๆ คงต้องทยอยตัดขายต่อไป*

นับว่าเป็นทุกขลาภสำหรับ STEC ก็ว่าได้
เมื่อโครงการแอร์พอร์ต เรลลิ้ง พ่นพิษปีนี้ขาดทุนกว่า 1,500 ล้านบาท
นี่ยังไม่รวมค่าปรับอีกกว่า 4,000 ล้านบาท*

เฮ้อน่าเห็นใจวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียรจริงๆ
คงต้องฝากให้อนุทิน ชาญวีรกุล ช่วยกระตุ้นรฟท.ให้ช่วยลดความเค็มลงบ้าง
เผื่อเอกชนเค้าจะได้ลืมหูลืมตาบ้าง
ขนาดค่าเวนคืนที่ดินแถวชุมชนมักกะสัน STEC ยังต้องควักทุนจ่ายล่วงหน้าให้ก่อนเลย*

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 18/08/2006 @ 09:33:29 : re: สังคมหุ้น : 18/08
เห็นงบ HANA น่าฟันธงได้ว่าปีนี้ยังเปล่งปลั่ง หยดย้อย..เหมือนเดิม
และราคาหุ้นในกระดานตอนนี้ก็น่าลงทุนไม่น้อยทีเดียว*

เห็นตัวเลขจากทีพีไอเรื่องความเสียหาย ที่เกิดกับบริษัทลูก 6 แห่ง หลังบริษัทพ้นแผนฟื้นฟูกิจการ
มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท น่าตกใจไม่น้อยทีเดียว
และเชื่อมโยงถึงประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ในฐานะผู้ได้สิทธิบริษัทแบบเบ็ดเสร็จ

งานนี้เฮียซวงจึงต้องตอบคำถามกับนักลงทุนให้เคลียร์ มิเช่นนั้นเรื่องนี้เข้าตัวเองแน่*

งบงวดครึ่งปีบริษัทจดทะเบียนตลาด mai ส่วนใหญ่ถือออกมาดีทีเดียว
และหุ้น IRCP-TRC ถือเป็นหุ้นเล็กพลิกขึ้นหนูครึ่งปีกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 500%
นี่ถ้าอยู่ใน SET ละก้อราคาหุ้นคงวิ่งกระฉูดเลยทีเดียว*

มีข่าวฝากจากชายนิด โง้วศิริมณีแห่งพร๊อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค
กระซิบมาว่าปีนี้หุ้น PF ตัวเบาหวิวขึ้นอีกไม่น้อยหลังเร่งเคลียร์กว่า 1,000 ล้านบาท
ทำให้ D/E ลดเหลือต่ำกว่า 1.2 เท่า

ถ้าให้เดาใจ เฮียชายนิด ... กำลังส่งซิกว่าหุ้น PF กำลังจะเริ่มติดปีกอีกครั้ง*
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 18/08/2006 @ 09:46:39 : re: สังคมหุ้น : 18/08
เสียงจากกระจอกข่าวสายไอที
ที่บ่นอุบว่าไม่รู้ว่าหน่วยงานใหญ่อย่างกทช.มีแผนกพีอาร์อยู่หรือเปล่าเนี่ย ...
เพราะไม่ว่าจะติดต่อไปทางใด ล้วนเงียบจ้อยไปหมด(ทำงานกันหรือเปล่า)

น่าเศร้าใจจริงๆองค์กรที่ว่าด้วยเรื่องการสื่อสารแท้ๆ แต่พีอาร์ยังอึดอาดอยู่แบบนี้
คงมีคำตอบเดียวยุบแผนกนี้ไปเลยดีกว่า และหันไปจ้างมืออาชีพซะเลย
ดีไหมครับท่านเลขาฯสุรนันท์ วงศ์วิริยกำจร*

ชักเป็นเรื่องที่ไม่เข้าเข้าทางเอาเสียเลย
กรณีกลุ่มสมาพันธ์คนอีสาน ที่ยื่นฟ้องคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง.
เรื่องเข้าตรวจสอบกรณีหุ้น SHIN เพราะถือว่าเป็นการขัดขวางขบวนการธรรมภิบาลอย่างชัดเจน
ถ้าว่ากันตรงๆหากดีลชินคอร์ปไม่มีลับลมคมในกันจริงๆ
ไม่เห็นต้องไปกลัวอะไรขืนยึกยักยื้อกันแบบนี้ ยิ่งทำให้เห็นดีลนี้มีเงื่อนงำอย่างแน่นอน..****
 กลับขึ้นบน
jagkrub
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 43
#3 วันที่: 18/08/2006 @ 10:30:14 : re: สังคมหุ้น : 18/08
*บทสรุปเรื่องเงินทุนไหลเข้าประเทศเป็นจำนวนมหาศาลมาจาก 2 เรื่องด้วยกัน คือเงินของเทมาเซคที่เข้ามาเพื่อชำระหนี้สถาบันการเงิน และเงินของจีอีที่เข้ามาควบรวมกับธ.กรุงศรี ก็เลยเป็นเหตุให้ค่าเงินบาทแข็งโป๊ก โดยเม็ดเงินดังกล่าวไหลเข้ามาพักไว้ที่ตลาดหุ้นไงหล่ะอิอิอิ
*ผลดังกล่าวทำให้ยอดซื้อสะสมสุทธิของนักลงทุนต่างชาตินับตั้งแต่ต้นเดือนปาเข้าไปกว่า 10,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงระดับ 15,000 ล้านบาท หากเม็ดเงินของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เดี๊ยนถึงไม่รู้สึกหวั่นใจที่วานนี้ดัชนีรูดลงไปปิดในแดนลบ
*เนื่องจากผู้สันทัดกรณีทางด้านตลาดหุ้นออกมาบอกว่า ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปยืนแถว 750-760 จุด ขณะที่ผู้จัดการกองทุนก็ยืนยันว่า หากมีเงินเย็นจริงๆ สักก้อน ก็ควรช้อนซื้อหุ้นเก็บไว้บ้าง เพราะปัจจัยหลายอย่างเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หากไม่รีบซื้อหุ้นไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจต้องเสียเงินซื้อหุ้นราคาแพงโดยไม่มีความจำเป็น
*ยิ่งวานนี้คุณพี่ สุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแถลงข่าวว่า งบการเงินงวด 6 เดือน ปี 2549 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯมียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 2,698,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม 272,596 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ดัชนีทะยานขึ้นไปยังบริเวณ 750 จุดได้ไม่ยากเย็น
*โดยบริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ยังเป็นเจ้าตลาดอย่าง PTT SCCPTTEP TOP และ ADVANC ซึ่งรายแรกมีกำไรสุทธิรวม 55,381 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ล้วนเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการมีกำไรจากการขายหุ้นใน บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง RRCแบบนี้...ไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อได้ไง
*สำหรับหุ้นพลังงานที่ปรับตัวขึ้นมาอย่าง AI คงไม่ต้องหาคำตอบให้ยาก เพราะหลังจากที่ผู้บริหารออกมาประเมินว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 100 % โดยมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งทำให้มีการไล่ราคาขึ้นมา ซึ่งจะเป็นไปได้อย่างที่พูดหรือไม่นั้นคงจะตอบไม่ได้ แต่ที่เห็นได้ชัดคือราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นไปรับข่าวเรียบร้อยแล้วคะ ราคาหุ้นปิดที่ 8.90 บาท บวกไป 1.10 บาท
*ด้านหุ้น LH ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คงไม่ต้องสงสัยคะว่าต้องมีสาเหตุมาจากการขายของเก่ากิน โดยนำพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทลูกเข้าสมทบในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของQHซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาอสังหาฯกองดังกล่าวขายไม่ออก จึงทำให้มีจับมาล้างน้ำใหม่ และใส่สินทรัพย์เพิ่มเข้า
*นอกจากนี้ยังมีข่าวดีเรื่องการจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.17 บาท ประกอบกับราคาหุ้นช่วงที่ผ่านลงปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง จึงถือเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุน แต่เมื่อ โมนิก้าดูสัญญาณทางเทคนิค ก็พบว่า ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบัน ถือว่าราคาสูงแล้วคะ ราคาหุ้นปิดที่ 7.70 บาท บวกไป 0.45 บาท
*ส่วนหุ้น D1 ที่ทำให้ โมนิก้าสงสัยแต่ติดใจในเรื่องของเม็ดเงินลงทุนใน A-HOSTที่ จเรรัฐ ปิงคลาศัย ผู้บริหารบอกว่าใช้เงิน 270 ล้านบาท เพื่อให้เข้าให้ถือหุ้น 75 %นั้น จะถือว่าเป็นโยกเงินจากกระเป๋าซ้าย เข้าสู่กระเป๋าขวาหรือไม่
*สิ่งที่ โมนิก้า กำลังชี้ให้เห็นคือ ความเหมาะสมของเม็ดเงินในการซื้อ A-HOSTและดูเหมือนว่าจะเป็นการซื้อที่คิดราคาแพงเกินไปจริงๆ เพราะลำพังบริษัทที่มี ตัวเลขกำไรปีล่าสุด 20 ล้านบาทนั้น ไม่น่าจะต้องใช้เม็ดเงินที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับบริษัทที่อยู่ในตลาดmai หลายบริษัท ยังมีมูลค่า(มาร์เก็ตแคป) ไม่สูงเท่านี้เลย
*เมื่อมองธุรกิจหลักของ A-HOST ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลย เนื่องจากเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายระบบคอมพิวเตอร์ให้กับ ค่ายออราเคิล ซึ่งธุรกิจดังกล่าวก็มีคู่แข่งที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรายอื่นอีกหลายราย ซึ่งเมื่อมองให้ลึกลงไปถึงแหล่งผู้ถือหุ้นของ A-HOST ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเข้าไปใหญ่
*โดยเฉพาะเมื่อโยงใยสายสัมพันธ์ของ A-HOST ที่มีบริษัทย่อยของกลุ่ม IEC เข้าไปถือหุ้นใหญ่ ยิ่งทำให้ภาพดังกล่าวเห็นชัดยิ่งขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ จเรรัฐ ผู้บริหารของ D1 นั้น มีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้บริหารของ IEC อย่างสนิทชิดเชื้อมานานแล้ว
*เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะช่วงที่ผ่านมา จเรรัฐ เองก็เคยนั่งเป็นผู้บริหารใน IEC มาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้เห็นว่าความสนิทสนมดังกล่าวยังมีเยื่อใยอยู่แน่นเฟ้นนั้น คงจะเป็นเรื่องการโอนหุ้น D1 ออกไปให้ สุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้บริหารIEC จำนวน 6 ล้านหุ้น ที่ราคา 0.41บาท ประกอบกับเมื่อครั้งงานแถลงข่าว D1 สัณห์จุฑา วิชชาวุธ ผู้บริหารของ IEC ก็ได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับ จเรรัฐ ก่อนที่จะรีบขอตัวกลับไปอย่างรวดเร็ว
*เห็นอย่างนี้ใครที่คิดจะกล้าเสี่ยงเข้าไปร่วมวงไพบูลย์ก็คงต้องคิดดูให้ดีก่อนนะคะเพราะลักษณะท่าทาง หรือโหวงเฮ้ง มันเริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่าอนาคตของบริษัทจะเป็นเช่นไรซึ่งตอนแรกๆ คงจะดูไม่ออก แต่เมื่อเวลาผ่านไปคงจะเห็นอะไรได้ดีกว่านี้ ประสบการณ์ของ PICNIก็มีให้เห็นแล้วนะคะ ราคาหุ้นปิดที่ 2.64 บาท ลบไป 0.04 บาท
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com