May 3, 2024   2:44:20 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ภาวะตลาด
 

lop
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 47
วันที่: 18/08/2006 @ 01:25:01
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« เมื่อ: 17/08/06 09:11:10 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

Impact Inside
แรงซื้อหนุนดัชนีสร้าง New High ที่ 715 จุด
ตลาดยืนบวกได้ตลอดการซื้อขายในวานนี้ และสร้างจุดสูงใหม่ในรอบ 2 เดือนที่ 715 จุด
พร้อมมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน และ ธ.พ.
เช่น PTT, TPI, KTB, SCIB ส่วนหุ้นขนาดเล็กยังมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นในหุ้นรายตัว เช่น
HEMRAJ, LPN, ACL

ประเด็นร้อนวันนี้
ตลาดตอบรับด้านบวก หลังเงินเฟ้อสหรัฐเป็นไปตามคาด
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือน ก.ค. ของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 0.2%mom ดีกว่าตลาด
คาดการณ์เล็กน้อย ลดความกังวลต่อเงินเฟ้อ จึงมีความเป็นไปได้ ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยใน
การประชุมครั้งถัดไปวันที่ 20 ก.ย.นี้ ถือเป็นข่าวบวกต่อตลาดทุนในภูมิภาคเอเชีย เพราะหมายถึง
สร้างแรงจูงใจให้เงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าตลาดเอเซีย บวกกับปัจจัยบวกด้านค่าเงินภูมิภาค
เอเชียที่มีแนวโน้มแข็งค่าตามเงินหยวน

ราคาน้ำมันยังอยู่ในช่วงปรับฐาน หลังปัญหาประเทศผู้ผลิตน้ำมันสงบลงชั่วคราว
มีข่าวในเชิงบวกทำให้ราคาน้ำมันยังคงปรับฐานลงต่อ โดยราคาน้ำมันตลาดล่วงหน้าลง
ไปอยู่ที่ 71 เหรียญฯต่อบาร์เรล ตามที่เราเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า คือ1) อิหร่าน ยอมเจรจา
ระงับโครงการนิวเคลียร์เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับตามข้อเสนอของประเทศ
สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 5 ประเทศ และ 2) กลุ่มโอเปคได้คาดการณ์
ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะลดลงเหลือวันละ 84.5 ล้านบาร์เรล จากเดิมที่คาดไว้ที่ 85.6
ล้านบาร์เรล มาใกล้เคียงกับปริมาณการผลิตที่ 85.2 ล้านบาร์เรล ทั้ง 2 ปัจจัยจึงหักล้างข่าวเชิง
ลบ ที่สหรัฐประมาณปริมาณสำรองน้ำมันลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า (น้ำมันดิบลดลงถึง 1.6 ล้าน
บาร์เรลและเบนซินสำรองลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ค่าเงินบาทแข็งค่า
ภายใต้การแทรกแซงจาก ธปท.ทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวกรอบแคบ ๆ แต่คาดว่ามี
โอกาสจะแข็งค่าขึ้นไปที่ 37.10 บาทต่อเหรียญฯ ตราบที่สหรัฐยังกดดันจีนให้ปรับเปลี่ยนนโยบาย
อัตราแลกเปลี่ยน ถือเป็นปัจจัยบวกในการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อสินทรัพย์ที่มิ
ใช่ดอลลาร์

Investor?s Plus
มองตลาดใน 1 สัปดาห์ หลังดัชนีแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 714 จุดแล้ว คาดจะ
ปรับขึ้นต่อเนื่องเพื่อเข้าหาแนวต้าน 720 จุดต่อไป ทั้งนี้แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติยังเป็นตัวขับ
เคลื่อนที่สำคัญ
แนวโน้มวันนี้ คาดตลาดจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องด้วยแรงซื้อที่เข้าสู่ตลาดเป็นระยะๆ แต่
คาดว่าราคาหุ้นจะไม่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยดัชนีจะค่อยๆ สร้างทำจุดสูงใหม่ วันนี้แนวต้านจะ
อยู่ที่ 720 จุด
กลยุทธ์วันนี้ ยังแนะนำเลือกซื้อหุ้นเมื่อราคาทรงตัว หรือมีแรงซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย
สำคัญ เน้นหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดเล็กหุ้นที่ให้ความสนใจ
SCIB(18/19), BAY(17/17.5), TOP(66/69), RRC(20.8/21.5), TPI(7.5/8), PHATRA
(40/41), BLS(11.8/12.5), AKR(2.84/3), BH(37.25/39), BG(7.25/7.9)



แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #1 เมื่อ: 17/08/06 09:22:29 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.กรุงศรีอยุธยา : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

แนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุน
? ใกล้เป้าหมายที่ 720 จุด....แนะนำเพิ่มความระมัดระวัง ไม่ใช่จังหวะเข้าซื้อหุ้น
แล้ว แม้เราจะเห็นว่า SET จะสามารถปรับขึ้นทดสอบเป้าหมายก่อนการเลือกตั้งที่
720 ได้ อย่างไรก็ตาม SET ปรับขึ้นมาแล้ว 4.2% ตั้งแต่ที่เราแนะนำให้เพิ่มสัดส่วน
หุ้นในพอร์ตเป็น 70% (วันที่ 24 ก.ค.) และเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่เราให้ไว้ก่อนการ
เลือกตั้งที่ 720 จุด ซึ่งเหลือส่วนต่างอีกแค่ 1.12% เท่านั้น ทำให้เราเห็นว่า ณ เวลานี้
ไม่ใช่จังหวะในการเข้าซื้อเพื่อเพิ่มพอร์ตแล้ว (แต่ยังถือต่อได้) โดย SET มี Reward/Risk
ต่ำลง สำหรับปัจจัยหลักที่จะยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดช่วงนี้ยังเป็นปัจจัยเดิมๆ คือ 1. เม็ด
เงินลงทุนจากต่างชาติ 2. ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
ลดลงหลังจากตัวเลข CPI สหรัฐฯปรับขึ้นต่ำกว่าตลาดคาดไว้ ขยายตัวเพียง 0.2%
เป็นไปในทิศทางเดียวกับตัวเลข PPI ที่ประกาศก่อนหน้า นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับ
ลดลงต่อเนื่องอีก US$1.16/บาร์เรล จะเป็นตัวช่วยลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อด้วย.....นัก
ลงทุนระยะกลางเรายังแนะนำให้ถือหุ้นในสัดส่วน 70% ของพอร์ตต่อไป ลุ้นเป้าหมาย
720 จุด (Let Profit Run Strategy) ขณะที่นักลงทุนระยะสั้นแนะนำขายทำกำไรช่วงสั้น
บริเวณ 710-720 จุด (Short against Portfolio Strategy)
? ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกครั้งหลังตัวเลข CPI ต่ำกว่าคาด หลังจากตัวเลข
CPI สหรัฐฯ ประกาศขยายตัวต่ำกว่าตลาดคาดเมื่อคืนนี้ เป็นการย้ำว่าภาวะเงินเฟ้อ
เริ่มผ่อนคลายลดลง และน่าจะทำให้ FED ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25% ในการประชุม
ครั้งหน้าเดือน ก.ย. การอ่อนค่าระยะสั้นของค่าเงินบาทไม่น่าจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้น
มากนักเนื่องจากอาจเป็นการเข้าแทรกแซงของ ธปท. เพื่อทำให้ค่าเงินบาทมี
เสถียรภาพมากขึ้น สำหรับแนวโน้มระยะกลางเรายังเห็นว่าค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็ง
ค่าขึ้นต่อเนื่องด้วยหลายๆ ปัจจัย (รายละเอียดหน้า 2) อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก SET
เข้าใกล้เป้าหมายเราที่ 720 จุดแล้ว นักลงทุนควรให้ความระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น
ช่วงนี้มากขึ้น ทั้งนี้เรายังคงจุด Trialing Stop ที่ 700 จุด ซึ่งถ้า SET ไม่สามารถยืน
เหนือ 700 จุดได้เราแนะนำให้ลดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตเหลือ 40% เท่านั้น
? กำไร 2Q49 ส่วนใหญ่ปรับลดลง มีเพียงกลุ่มพลังงาน โรงพยาบาล โรงแรม
บันเทิง ที่มีกำไรสูงขึ้น จากข้อมูลกำไร 2Q49 ที่ประกาศออกมาจะเห็นว่าส่วนใหญ่
ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะกลุ่ม Real Sector อย่างที่อยู่อาศัย วัสดุก่อสร้าง ยานยนต์
และชิ้นส่วนที่กำไรปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่กลุ่มพลังงานมีอัตราการเติบโตของ
กำไรโดดเด่นสูงถึง 60% YoY หรือมีกำไร 59.7 หมื่นล้านบาท คิดเป็นประมาณ 29%
ของกำไรทั้งตลาด ทั้งนี้ ถ้าพิจารณากำไรของบริษัททั้งตลาดจะเห็นว่ามีกำไร 1.28 แสน
ล้านบาท ขยายตัว 16% จากปีที่แล้ว แต่ถ้าตัดผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงานออกไป
จะเห็นว่ามีผลการดำเนินงานลดลง 6.4% ทั้งนี้ เราเห็นว่ากลุ่มหุ้นที่จะ Outperform ตลาด
ได้จะเป็นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำ เนินงานดีใน 3Q49 อย่างกลุ่มพลังงาน
โรงพยาบาล โรงแรม บันเทิง ปิโตรเคมี และเดินเรือ
? แนะนำซื้อกลุ่มหุ้นได้รับผลดีจากดอกเบี้ยหยุดขึ้น จากแรงกดดันจากภาวะเงิน
เฟ้อ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธนาคาร
ได้รับผลดี โดยผู้บริโภคสามารถตัดสินใจในการวางแผนกู้เงิน และซื้ออสังหาริมทรัพย์
ได้ง่ายขึ้น แนะนำ เก็งกำไร LALIN, ซื้อ SCB, ซื้อ TPI, และ ซื้อ EGCOMP (คาดสรุป
การซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า BLCP ภายในปีนี้)

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #2 เมื่อ: 17/08/06 09:39:28 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

ตลาดมีแนวโน้มดีขึ้น เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
แรงซื้อหุ้นมาร์เก็ตแค็ปใหญ่ในกลุ่มน้ำมัน ธนาคาร และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นวันวานปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ (+0.62%) สอดคล้องกับทิศทางของตลาด
หุ้นในภูมิภาคซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น โดยมีปริมาณซื้อขายรวมหนาแน่นขึ้นพอสมควร ในขณะที่
นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 แล้ว
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงปรับตัวลดลง เนื่องจากความขัดแย้งของประเทศ
ในภูมิภาคตะวันออกกลางคลี่คลายลง แม้สหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลงตามที่ตลาดคาดไว้
ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือน ก.ค.2549 ลดลง 2.5% ติดต่อกัน 5 ครั้ง
ในระยะเวลา 6 เดือน บ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ และเป็นปัจจัย
สนับสนุนอีกปัจจัยหนึ่ง ต่อการคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป

กลยุทธ์
ราคาหุ้นในกลุ่มน้ำมันอาจได้รับแรงกดดันมากขึ้น จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
ค่อนข้างมาก แต่ทิศทางตลาดโดยรวมอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากแรงซื้อของ
นักลงทุนต่างชาติน่าจะยังช่วยประคองหุ้นกลุ่มหลัก และทิศทางตลาดให้ทรงตัวไปได้ต่อเนื่อง
แนวต้านวันนี้คือ 716-719 จุด ส่วนแนวรับวันนี้อยู่ที่ 708-710 จุด นักลงทุนระยะสั้น ? รอซื้อ
เก็งกำไรในหุ้นกลุ่มนำตลาด ในช่วงราคาอ่อนตัวลง นักลงทุนระยะยาว ? ถือต่อ และทยอย
ซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มธนาคาร เมื่อราคาอ่อนตัวลง



แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #3 เมื่อ: 17/08/06 09:39:54 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
เราคาดว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ โดยมีแรงสนับสนุนจากการปรับตัว
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้น wall street ตามการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ซึ่งประกาศเมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบกับกระแสเงินไหลเข้าต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ โดย
เช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคล้วนเปิดกระดานมาเป็นบวกหมด หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค
ของสหรัฐฯนั้นแสดงถึงอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคที่ทรงตัว ซึ่งช่วยย้ำถึงการคาดการณ์
ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะไม่กลับมาปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจาก
การที่ตัวเลขผลผลิตด้านอุตสาหกรรมและตัวเลขบ้านสร้างใหม่ของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่า
คาดการณ์
ตลาดจะได้ปรับปัจจัยเสริมอีกปัจจัยคือราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาด NYMEX ปรับตัวลดลง 1.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เป็น 71.89
เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หลังจากรายงานของทางการสหรัฐฯพบว่าปริมาณการสำรองน้ำมันดิบ
ของสหรัฐฯรายสัปดาห์ลดลงตามคาดการณ์ ขณะนี้ราคาน้ำมันได้ร่วงลงมาสู่จุดต่ำสุดในช่วงเวลา
เกือบหนึ่งเดือน และปรับตัวลดลง 3 วันทำการติดต่อกันจากการสงบศึกชั่วคราวระหว่างอิสราเอล
และกลุ่มฮีสบอเลาะห์ในเลบานอน
ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงจะจำกัดการปรับตัวขึ้นในระยะสั้นของหุ้นกลุ่มพลังงานขนาด
ใหญ่ เช่น PTT, TOP และ RRC แต่เป็นข่าวดีสำหรับ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มหลักทรัพย์, กลุ่ม
อสังหาริมทรัพย์, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มรับเหมา ส่วนหุ้นขนาดเล็กและ
ขนาดกลางที่เราชอบคือ HANA, HMPRO, CPN, MINT, และ CENTEL
โดยปัจจัยลบปัจจัยเดียวในขณะนี้ซึ่งอาจจะกระทบความเชื่อมั่นการลงทุน โดยเฉพาะ
นักลงทุนภายในประเทศก็คือปัจจัยทางการเมือง เนื่องจากทางสว.นั้นต้องการเวลา 20 วันเพื่อ
ที่จะคัดเลือกคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ ซึ่งทำให้เพิ่มความกังวลว่าจะต้องเลื่อนวันเลือก
ตั้งออกไปจากเดิมคือวันที่ 15 ตุลาคม 2549 โดยผู้สังเกตุการณ์ทางการเมืองกล่าวว่าการเลื่อน
วันเลือกตั้งออกไปนั้นจะส่งผลด้านลบต่อพรรคไทยรักไทยเนื่องจากเป็นแรงกดดันให้นายกฯต้อง
แถลงถึงแผนงานทางการเมือง และช่วยเพิ่มเวลาให้กับฝ่ายตรงข้ามในการที่จะเสริมเขี้ยวเล็บ
ทางการเมือง

หุ้นน่าจับตา
HANA : เป็นหุ้นที่น่าจับตาในวันนี้ ดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ และ
HANA มีกำไรไตรมาส 2/49 ที่เติบโตถึง 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ธุรกิจที่
ขยายตัวนั้นมากกว่าชดเชยการแข็งค่าของเงินบาท นอกจากนี้บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง
มากและปลอดหนี้ ประกอบกับราคาหุ้นปัจจุบันมีส่วนต่างจากราคาเหมาะสมของเราราว 20%
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ของเรายังคงแนะนำ ถือ เพื่อรอความชัดเจนด้านแนวโน้มครึ่งปีหลังจาก
การประชุมนักวิเคราะห์บ่ายวันนี้

BLS : เป็นหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ระดับต้นๆของเรา เนื่องจากการพัฒนาด้านส่วนแบ่งการ
ตลาด และโครงสร้างกลุ่มผู้ถือหุ้นหลักที่แข็งแกร่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
สำหรับ BLS ด้วยราคาเหมาะสมที่ 13 บาท/หุ้น

สรุปข่าว
ทนง ลั่นไม่คิดขวางดีล จีอี-BAY อ้างเหตุแบงก์ชาติส่งเรื่องล่าช้า (กระแสหุ้น 17/08/49)
ทนง ชี้ ดีลร่วมทุน จีอี แคปปิตอล และ แบงก์กรุงศรีฯ ล่าช้า ไม่ใช่เพราะกระทรวงการ
คลัง แต่การตีความของมาตรา 5 ทวิ และ 5 เบญจ ยังขัดแย้งไม่สอดคล้องกันอยู่ จนไม่แน่ชัดว่า
จะให้ รมว.คลังเป็นผู้ชี้ขาด หรือต้องเสนอเข้าที่ประชุม ค.ร.ม. แต่ยืนยันเอาใจช่วยเต็มที่

STEEL มั่นใจปีนี้เติบโต 15% ตามเป้า (กระแสหุ้น 17/08/49)
ประสิทธิ์ เชื่อสิ้นปีนี้ STEEL มีอัตราการเติบโต 15% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
หลังไตรมาส2/49 โชว์ผลงานเยี่ยมกำไรพุ่ง 298.07% พร้อมเปิดแผนงานครึ่งปีหลัง เตรียม
เจาะฐานลูกค้าใหม่ๆ พร้อมทั้งเร่งดำเนินการในสินค้าใหม่ที่จะดันรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงปลาย
ปีนี้

PYLON มั่นใจครึ่งปีหลังสดใส ยืนยันโกยรายได้ตามเป้า 600 ล. (กระแสหุ้น 17/08/49)
ผู้บริหาร บมจ.ไพลอน ยังมั่นใจครึ่งปีหลังกวาดรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 500-600
ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวในไตรมาส 3 และ 4 จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เริ่ม
คลี่คลายและมีความชัดเจนมากขึ้น จากปัจจัยการเมือง อัตราดอกเบี้ย และราคาน้ำมัน เป็นต้น
ล่าสุดได้รับงานใหม่เติมเพิ่มอีก 4โครงการ ขณะเดียวกันยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา
มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท

LPN กำไร Q2 พุ่งเตรียมปันผล 8 ก.ย. (กระแสหุ้น 17/08/49)
LPN เผยผลการดำเนินงาน Q2 โตเกินเป้า มีกำไรสุทธิ 322 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน
160 % กวาดรายได้รวมเกือบ 2 พันล้านบาท พร้อมเตรียมจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.08 บาท ใน
ในวันที่ 8 กันยายน พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ย่านปิ่นเกล้า ต้นเดือนกันยายนนี้

ทริส คงเครดิต ITDที่ A-Stable สะท้อนผู้นำเบอร์1งานก่อสร้าง (กระแสหุ้น 17/08/49)
ทริสเรทติ้ง ทบทวนอันดับเครดิต อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ คงเดิมที่ระดับ
A-/Stable สะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่งของบริษัทในการเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง
รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตลอดจนการมีมูลค่าของงานในมือที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog)
จำนวนมาก

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #4 เมื่อ: 17/08/06 09:40:14 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.ฟิลลิป :รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

แนวโน้มตลาดวันนี้ : ขึ้นต่อได้ในกรอบจำกัด
บรรยากาศการลงทุนยังอยู่ในเชิงบวก หากแต่การปรับขึ้นในช่วงนี้ยังไม่แข็งแรงนัก
ท่ามกลางข่าวด้านการเมืองที่ยังต้องจับตาดูว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้จริงในวันที่ 15 ต.ค. นี้
หรือไม่ ขณะที่ภาพในเชิงเทคนิคยังไม่ยืนยันการปรับขึ้นจนกว่าจะยืนปิดเหนือระดับ 713 ได้ ซึ่ง
แม้ว่าดัชนีจะวิ่งผ่านไปแล้วเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังยืนปิดเหนือระดับดังกล่าวไม่สำเร็จ อีกทั้งวอลุ่มเทรด
ยังไม่มากพอ ดังนั้นปัจจัยบวกเดียวในช่วงนี้ที่ยังประคับประคองตลาดอยู่ได้ คือการทยอยสะสมหุ้น
ของนักลงทุนต่างชาติ ความผันผวนของตลาดยังมีสูง ดังนั้นหุ้นที่มองปลอดภัยก็ยังคงเป็นหุ้นปัน
ผล และเรายังคงคำแนะนำเดิมให้ trading หุ้นตามภาวะตลาด หรือ ขึ้นขาย - ลงลึกซื้อ Sector
เด่นในช่วงนี้ เราให้เป็นกลุ่มเดินเรือ , หลักทรัพย์ และบันเทิง
แนวต้าน 713-715 แนวรับ 708-705

ปัจจัยเด่นวันนี้
+ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องไปอีก 1.2 พันล้านบาท
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทะยานขึ้น โดยดัชนี S&P 500 แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ขณะที่นักลงทุนตีความดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น
+ ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่เท
รดเดอร์พากันขายทำกำไรออกมาหลังข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐแสดงว่าสต๊อกน้ำมันดิบลดลงตามที่
คาดไว้
- อธิการบดีธรรมศาสตร์ เชื่อจะไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค. เพราะขั้นตอนทาง
กฏหมายได้ กกต. ชุดใหม่ คาดเลือกตั้งอย่างเร็วในเดือนธ.ค. นี้
- แพทย์จุฬาฯเผยผลวิจัยพันธุกรรมไข้หวัดนกในรอบที่ 4 พบที่นครพนม เป็นเชื้อที่ไม่
เคยพบในประเทศมาก่อน ระบุเป็นเชื้อกลุ่มเดียวกับที่บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของจีน แต่ยืนยัน
ยังไม่พบการกลายพันธุ์ติดเชื้อจากคนสู่คนได้

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #5 เมื่อ: 17/08/06 09:40:35 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.นครหลวงไทย : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

แนวโน้มตลาดวันนี้
SCIBS มีความเห็นเป็น Positive ต่อบรรยากาศการลงทุนวันนี้ คาดว่า ดัชนีฯจะปรับ
ตัวเพิ่มขึ้น หลังจากนักลงทุนมีความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อลดลง ช่วยลดแรงกดดันในเรื่องอัตรา
ดอกเบี้ย เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน คาดว่ากองทุนประกัน
ความเสี่ยง (Hedge fund) จะย้ายเงินลงทุนบางส่วนออกจากการเก็งกำไรในตลาดน้ำมันเข้าสู่
ตลาดหุ้นเกิดใหม่ หลังจากตลาดน้ำมันขาดปัจจัยหนุนในระยะสั้น สำหรับนักลงทุนไทยคาดว่าจะ
กลับมาซื้อเก็งกำไรหุ้น TPI มากขึ้นโดยเปลี่ยนจาก RRC

ปัจจัยสนับสนุน :
? ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานของสหรัฐเพิ่ม
ขึ้น0.2% ในเดือน ก.ค. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เป็นวันที่สอง โดยดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นมากที่
สุดในรอบ 3 ปี
? ราคาน้ำมันดิบลดลงปิดที่ US$71.89/BBL หลังรายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันสำรอง
ลดลงคาดว่านักเก็งกำไรจะย้ายเงินลงทุนจากตลาดน้ำมันไปลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่แทนหลัง
จากขาดปัจจัยบวกในระยะสั้น
? ดร.สมคิด ? พินิจ ตัดสินใจเว้นวรรคทางการเมือง คาดว่าจะมีผลกระทบให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงในพรรคไทยรักไทย แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อภาพรวมของการเมืองซึ่งยังคงรอ
ความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้งวันที่ 15 ต.ค. 2549
? นักกฎหมายชี้ผลสอบนอมินี้ ?กุหลาบแก้ว? เป็นความผิดส่งผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่ม
SHIN ได้แก่ ADVANC ITV SATTEL และ CSL
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เปลี่ยนตัวเล่น (SWITCH) จาก RRC มาเป็น TPI และ ?ซื้อ?
กลุ่มพลังงาน ธนาคาร และ หุ้นที่ประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปี (Dividend Effect)

หุ้นเด่นประจำวัน
? BAY : ทนงยังไม่เซ็นให้แบงก์กรุงศรีฯควบรวมจีอี ข้องใจเรื่องข้อกฎหมายห้าม
ต่างชาติถือหุ้นเกิน 25% ส่งที่ปรึกษารัฐมนตรีคลังตีความเป็นอำนาจของรัฐมนตรีหรือครม.
? TPIPL : ขายหุ้นเพิ่มทุนกว่า 16,000 ล้านบาทสำเร็จเตรียมขยายกำลังการผลิตโรง
ปูนซีเมนต์แห่ง 4 ช่วยเพิ่มกำไรในอนาคต ประชัยคุยฟุ้งได้เงินเพิ่มทุนแล้ว12,500 ล้านบาท
มั่นใจส่วนที่เหลือขายหมดแน่
? ADVANC : กทช. รอ กระทรวงพาณิชย์ตีความเรื่องเทมาเซกครอบงำกิจการสื่อสาร
ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างมาตรการลงโทษต่างด้าว สิงคโปร์รุกคืบแอดวานซ์ ส่งคนนั่งเก้าอี้ตำแหน่ง
ใหม่เหนือคนไทย หลังตั้งวิเชียร เมฆตระการขึ้นมาแทนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
? MCOT : ผู้จัดบางรายการไม่ส่งรายได้โฆษณา ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะที่
แผนธุรกิจเดินหน้าพลิกโฉมคลื่นเพลงสากลจับปัดฝุ่นเป็น MET 107 จับมือ 4 ค่ายเพลงสากล
ยักษ์คาดโกยไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาทต่อปี


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #6 เมื่อ: 17/08/06 09:40:57 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.เกียรตินาคิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

ตลาดหลักทรัพย์ ฯ วานนี้
ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ ตลาดหุ้นปิดบวกตามแนวโน้มตลาดหุ้นต่างประเทศ
SET วานนี้ ตลาดหุ้นปิดบวกตามแนวโน้มตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนีมา
ปิดตลาดที่ระดับ 712.07 จุด ปรับตัวขึ้น 4.39 จุด หรือ +0.62% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย
15,675 ล้านบาท โดยปรับตัวขึ้นในกลุ่มพลังงาน วัสดุก่อสร้าง และไฟแนนซ์

หุ้นที่ปรับตัวขึ้น 188 บริษัท ปรับตัวลง 167 บริษัท และไม่เปลี่ยนแปลง 87 บริษัท
วานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ จำนวน 1,207.64 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบัน
ขายสุทธิ จำนวน 122.83 ล้านบาท

คาดการณ์แนวโน้มตลาดในระยะสั้น
เราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวในช่วง 708-718 จุด เป็นแนวโน้มแกว่งตัวบวก
โดยดัชนีดาวโจนส์ +96 จุด จากตัวเลขดัชนีผู้บริโภคเพิ่มขึ้นน้อย ลดแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อ และ
ดอกเบี้ยขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นโลก และต่อตลาดหุ้นไทย
ด้านราคาน้ำมันดิบโลก -1.16 ดอลลาร์/บาร์เรล จะส่งผลบวกต่อตลาดโดยรวมด้วย
สำหรับกลยุทธ์โดยภาพรวม เราแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรรายตัว ได้แก่ KEST, ASP
และ MLINK

ประเด็นที่น่าสนใจ
ประเด็นน่าสนใจต่างประเทศ
1) วานนี้ (16 ส.ค.49) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปประจำ
เดือน ก.ค.49 ขยายตัว 0.4% เป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ และ
สูงกว่าเดือน มิ.ย.49 ที่ขยายตัว 0.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ก.ค.49 ขยายตัว
0.2% ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาด และยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเดือน มิ.ย.49 ที่ขยายตัว 0.3%
2)วันนี้ (17 ส.ค.49) สำนักงาน Conference Board จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ
ของสหรัฐประจำเดือน ก.ค.49 ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่าดัชนีชี้นำ
เศรษฐกิจสหรัฐเดือน ก.ค.49 จะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มิ.ย.49 ที่ขยายตัว 0.1%
3) กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ประกาศลดคาดการณ์แนวโน้มความ
ต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 49 ลง 8 หมื่นบาร์เรล/วัน จากเดิม 84.58 ล้านบาร์เรล/วัน เป็น 84.5
ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อาจทำให้การใช้น้ำมันในประเทศขนาดใหญ่
บางประเทศลดลงไปด้วย
เศรษฐกิจไทย
1) รมว.คมนาคม สั่งปรับแนวทางเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง เพื่อให้
สอดคล้องกับความต้องการของธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) ใน
ฐานะผู้ให้กู้หลักของโครงการ ด้วยวิธี...
1. เปลี่ยนจากวิธีขายเอกสาร เป็นเปิดให้ผู้สนใจมารับแบบเอกสารประกวดราคา และหาก
เอกชนสนใจเข้าประมูล ก็กำหนดให้เข้ามาซื้อเอกสารประกวดราคาในเดือน พ.ย.49 ซึ่งจะตรง
กับกำหนดให้ยื่นคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้รับเหมา
2. กำหนดเป็นเงื่อนไขในทีโออาร์ จะไม่เปิดซองด้านการเงินหากโครงการใช้เงินกู้ของเจบิค
แต่หากโครงการไม่ได้ใช้เงินกู้ของเจบิค จะเปิดซองด้านการเงิน เพื่อเปรียบเทียบข้อเสนอที่ดีที่
สุด
อย่างไรก็ตาม เจบิคไม่ได้สัญญาว่าจะอนุมัติเงินกู้เมื่อใด แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะจัดทำประชาพิจารณ์ร่าง
ทีโออาร์ โครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง และโครงการรถไฟฟ้าส่วนที่เหลือให้ครบ 10 เส้นทาง
ด้าน รมว.คลัง คาดว่าจะเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงได้ในอีก 3-5
เดือนข้างหน้า ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเริ่มดำเนิน
การได้เมื่อใด เนื่องจากยังติดปัญหาขั้นตอนการเวนคืนที่ดิน
2) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เผยว่าราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง
ขณะนี้ คาดว่าเป็นผลระยะสั้น เนื่องจากเมื่อดูราคาน้ำมันพื้นฐาน ราคาน้ำมันน่าจะทรงตัวใน
ระดับสูงต่อไป โดยนับจากนี้ถึงสิ้นปี 49 คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินมีโอกาสปรับลง ขณะที่ราคา
น้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับขึ้นถึงทรงตัวตามช่วงฤดูหนาว
ด้านกรมธุรกิจพลังงาน เผยว่าขณะนี้ปริมาณการใช้น้ำมันภายในประเทศลดลง
ส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันดิบ 7 เดือนแรกของปี 49 (ม.ค.-ก.ค.) ลดลง 2.3% YoY หรือ
จากเดิมที่นำเข้าเฉลี่ย 8.53 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 8.34 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่มีมูลค่าการส่ง
ออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปเติบโตถึง 57.6% YoY
ประเด็นน่าสนใจในตลาดหุ้นไทย
1) วานนี้ (16 ส.ค.49) BAY เลื่อนแถลงข่าวเรื่องความร่วมมือระหว่างธนาคารกับ
กลุ่มจีอีฯ อย่างไม่มีกำหนด หลังกลุ่มจีอีฯ จะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 25% และจะซื้อหุ้น BAY
ในราคาหุ้นละ 16 บาท เนื่องจากธนาคารต้องรอให้กระทรวงการคลังอนุมัติก่อน โดยกระทรวง
การคลังจะเรียก ธปท. และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาหารือในเรื่องดังกล่าว

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #7 เมื่อ: 17/08/06 09:43:14 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

แรงเหวี่ยงขาขึ้นยังมีต่อเนื่อง
KGI คาดว่าหุ้นจะปรับขึ้นต่อ และมองแรงซื้อต่างชาติจะเข้ามาในหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยเป็น
สำคัญ เช่นธนาคารพาณิชย์ และที่อยู่อาศัย เมื่อคืนนี้สหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI)
เพิ่ม 0.2% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% และย้ำมุมมองว่าเฟดจะหยุดปรับขึ้น
ดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะผลักดันให้ทุนต่างชาติเข้ามาในตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยต่อไป นอกจากนี้
บรรยากาศการลงทุนได้แรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่ลงต่อ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน
กลยุทธ์: แนะให้เน้นหุ้นขนาดใหญ่ ในกลุ่มธนาคาร (หุ้นเด่น: SCB, KBANK) และพลังงาน (หุ้นเด่น: PTT,
BANPU) รวมทั้งหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยที่รายงานกำไรแข็งแกร่ง เช่น AP, LPN, PS นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่
ปรับลงต่อเนื่องหลายวัน จะสนับสนุนหุ้น THAI ซึ่งยังเทรดอยู่ค่อนข้างถูกมาก นักลงทุนควรหาจังหวะเก็บ
สะสมหุ้น THAI

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #8 เมื่อ: 17/08/06 10:08:14 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

แนวโน้มตลาดวันนี้ : ทดสอบแนวต้าน 715-720 จุด แนะนำ Selective Buy
CNS ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในเดือนสิงหาคม และคาดดัชนีฯ ในเดือน
สิงหาคมจะอยู่ที่ระดับ 730-740 จุด รวมถึง คงมุมมองในเชิงบวกต่อแนวโน้มดัชนีตลาดฯ วันนี้
จากรายงานตัวเลข Core CPI สหรัฐฯ เดือนก.ค. ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ (+0.2%m-m จาก
คาด +0.3%m-m) และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบเดือน (ลดลง $1.16/
บาร์เรล เป็น $71.89/บาร์เรล) ทำให้โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้มี
จำกัด ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย จากการย้ายเงินลงทุนมายังเอเชียทด
แทน เพื่อลดความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของเงินดอลล์สหรัฐฯ (โพลล์ 52% ของผู้จัดการกองทุนทั่ว
โลก เชื่อว่าค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ มีค่าสูงเกินจริง) ส่วนแนวต้านวันนี้ยังคงให้ความสำคัญกับบริเวณ
715 จุด ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และ 720 จุด ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ โดยดัชนีฯ
พร้อมขึ้นแรงไปที่ 730 จุดทันที หากดัชนีฯ ผ่าน 2 แนวต้านดังกล่าวไปได้ ดังนั้น การปรับฐานที่
เกิดจากการทดสอบแนวต้านดังกล่าว จะเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อเพิ่ม โดยเฉพาะหุ้นบลูชิพขนาด
ใหญ่ กลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงก์ กลุ่มสื่อสาร ฯลฯ
หลักทรัพย์ที่แนะนำวันนี้ : แนะนำ ซื้อเล่นสั้น กลุ่มแบงก์ อสังหาฯ หลักทรัพย์ โดยหุ้น
เด่นที่น่าสนใจได้แก่ TPI (ตลาดฯ เตรียมย้ายกลับหมวดปกติสิ้นเดือนนี้) SCIB (คาดบอร์ดมีมติ
จ่ายปันผลระหว่างกาล ไม่เกินสัปดาห์หน้า) KGI-ASP-PHATRA (ขึ้นตามวอลุ่มตลาด) LPN
SPALI (ตัวแทนกลุ่มอสังหาฯ) LH (เทคนิคสวย แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่หนุน) SCIB SCB KTB
KBANK (ตัวแทนกลุ่มแบงก์) ส่วนกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ แนะนำ อ่อนตัวซื้อ
PTT PDI RRC TOP PTTCH ATC และหุ้นเด่นทางเทคนิคได้แก่ TPI LPN SCIB
MLINK AP RAMON-W1 BAY-W1 EVER (ดูบทวิจัยทางเทคนิค)

พอร์ตการลงทุน/กลยุทธ์การลงทุน
ระยะ 1-3 เดือน : ซื้อสะสม โดยเฉพาะบลูชิพขนาดใหญ่กลุ่มที่เชื่อมโยงกับดอกเบี้ย
และคงเป้าหมายสิ้นปีนี้ที่ระดับ 740 จุด
ระยะ 1-7 วัน : ซื้อสะสม โดยมีเป้าหมายสิ้นเดือนนี้เป็น 730-740 จุด เน้นหุ้นอสัง
หาฯ ประเภทบ้าน กลุ่มแบงก์ และหุ้น 17 หลักทรัพย์ขนาดเล็กที่ CNS แนะนำไปเมื่อสัปดาห์ที่
ผ่านมา

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ (ดูรายละเอียดหน้า 2-3)
1) ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับสูงขึ้น (+) DJIA +96.86 จุด Nasdq +34.53 จุด ส่วนเช้านี้
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น +97.02 จุด เกาหลีใต้ +18.62 จุด
2) Fund Flow (+) : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก 1,207.64
ล้านบาท (เดือนก.ค. ซื้อสุทธิ 9.67 พันล้านบาท ส่วนส.ค. YTD ซื้อสุทธิ 10,050.34 ล้านบาท)
3) ราคาน้ำมันต่ำสุดรอบ 1 เดือน (- กลุ่มพลังงาน) : WTI ตลาด Nymex ก.ย. -
$1.16 เป็น $71.89/บาร์เรล หลังโอเปคลดคาดการณ์อุปสงค์ปี 49 จากเดิม 80,000 เป็น
84.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
4) อื่น ๆ : ผลสำรวจผู้จัดการกองทุน 154 รายของ ML พบว่า 52% จากเดิม 47%
คาดว่าค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ มีค่าสูงเกินไป / สมคิด-พินิจ ประกาศเว้นวรรคทางการเมือง / สสค.
คาด GDP ปีนี้เติบโต 4.5% / MSCI รายงานไตรมาส เช้าวันพรุ่งนี้



แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #9 เมื่อ: 17/08/06 10:08:57 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.สินเอเซีย : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

ระยะยาว : เริ่มฟื้น ลุ้นต่อได้เพียงแค่ปิดเดือนนี้ >= 691
การที่ตลาดในช่วง 2 เดือนที่แล้วมีจุดต่ำที่ยกสูงขึ้น และการที่เดือนที่แล้วตลาดปิดเหนือ
680 จุด ทำให้แนวโน้มระยะยาว(หรือ 3-4 เดือนขึ้นไป)เริ่มฟื้นตัวเล็กน้อยซึ่งปรากฏชัดเจนจาก
ตัวชี้วัด RSI(6) และ Stoch ที่เริ่มม้วนตัวกลับจากภาวะขายมากไป ?ขาขึ้นรอบใหญ่? จึงลุ้นต่อ
ได้เพียงแค่เดือนนี้ยืนปิด 691 เป็นอย่างต่ำ พอร์ตระยะยาวจึงเริ่มสะสมได้โดยมีเป้าหมายที่
731-753 และแนวรับที่ 675-665 จุด

ระยะกลาง : ลุ้นต่อได้ถึง 731 วางจุดถอยศุกร์นี้ที่ 689
สัปดาห์ที่แล้วไม่กล้าตีฝ่าด่าน 714 แต่เครื่องมือชี้วัดตัวหลักอย่าง MACD ยังคงขยับตัว
ขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 และจะไม่เปลี่ยนทิศทางเป็นลงจนกว่าปิดสัปดาห์นี้ต่ำกว่า 689 ระยะ
กลางๆจึงยังมีลุ้นต่อได้โดยใน 1-2 สัปดาห์นี้ลุ้นทะลุด่าน 712-714 ไปถึงเป้าใหญ่แถวๆ 731
สัปดาห์นี้จึงอยู่ด้านซื้อต่อไปได้ โดยมีแนวรับที่ 697 แนวต้านที่ 714 และ 722 จุด และจุดถอยที่
689

ระยะสั้น : ขึ้นซื้อ ลงขาย
ตัวชี้วัด 3 ตัว (Stochastic, MACD และ RSI() ปรับตัวขึ้นต่อ ในขณะที่ MACD
Osc (หรือตัวชี้ถึงกำลังของ MACD) ยังคงปรับ ตัวลง (ซึ่งแฝงความหมายว่าขาขึ้นรอบนี้ขาดพละ
กำลัง หรือไม่น่าไว้ใจ) วันนี้ตัวชี้ทุกตัวจะพร้อมใจกันปรับขึ้นถ้าตลาดปิดแถวๆ 715 แต่ทุกตัวจะ
ช่วยกันปรับลงถ้าตลาดปิดแถวๆ 709 วันนี้จึงควรเล่นตามสไตล์เมื่อวาน หรือ ขึ้นซื้อ ลงขาย
แนวต้าน / แนวรับวันนี้: 714-717 และ 710-707 ตามลำดับ จุดถอย 709

ปัจจัยที่มีผลกระทบ
( +/- ) ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.16 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ หลังจากข้อมูล
น้ำมันสำรองของสหรัฐฯบ่งชี้ว่า น้ำมันดิบสำรองในช่วงสัปดาห์ที่แล้วยังอยู่สูงกว่าระดับเฉลี่ยของปี
นี้ และจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ประกาศลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมัน
ทั่วโลก
( + ) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่ตลาดย่านเอเชียเปิดตัวเช้านี้ปรับตัวขึ้นตาม

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #10 เมื่อ: 17/08/06 10:22:38 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

SET วันวาน: ทดสอบ 715 จุดตามคาด
การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดภูมิภาค ส่งให้มีแรงซื้อในหุ้นใหญ่ในกลุ่ม
ต่าง ๆ เข้ามาตั้งแต่เปิดตลาด SET ได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 715 จุด อย่างที่เราได้
คาดไว้ และอ่อนตัวลงมาปิด ที่ระดับ 712.07 จุด จากแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด หุ้นกลุ่ม
พลังงานปรับตัวขึ้นมากที่สุด 1.50% จากการปรับตัวขึ้น 2.42% ของ PTT

SET วันนี้: จะผ่าน 715 จุดหากมูลค่าซื้อขายมากกว่า 20,000 ล้านบาท
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับตัวขึ้นต่ออีก 96.86 จุด โดยนักลงทุนตอบรับในเชิง
บวกต่อตัวเลข CPI เดือนกรกฎาคม ซึ่งเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.4% ตามคาดการณ์ ในขณะที่
Core CPI ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่า ธนาคารกลางของสหรัฐฯ จะคง
อัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะส่งผลบวกทางจิตวิทยาต่อเนื่อง
ต่อตลาดหุ้นไทยในเช้าวันนี้
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นบ้านเราได้ปรับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 715 จุดแล้วไม่ผ่าน
ในวันนี้หากจะผ่านขึ้นไป ทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 720 จุด ต้องยืนยันด้วยมูลค่าซื้อขายใน
ระดับมากกว่าหรือใกล้เคียงกับ 20,000 ล้านบาท หากมูลค่าซื้อขายหดตัวลงเราคาดว่าจะยังไม่
ผ่านแนวต้าน 715 จุดและอาจจะอ่อนตัวลงได้
เรายังคงคำแนะนำเดิม คือ ให้ทยอยขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่และกลุ่ม
น้ำมันต่อไป โดยรอขาย PTT ที่แนวต้าน 258-260 บาท PTTEP 124-125 บาท TOP ที่แนว
ต้าน 67-68 บาท RRC ที่แนวต้าน 21.1-21.4 บาท BBL ที่แนวต้าน 110-111 บาท SCB ที่
แนวต้าน 60.5-62 บาท KBANK ที่แนวต้าน 64-64.5 บาทและ KTB ที่แนวต้าน 11.8-12.0
บาท
เราแนะให้ ซื้อเก็งกำไร กลุ่มธนาคารกลาง-เล็ก ต่อเนื่องจากเมื่อวาน เช่น ACL
(3.78-4.0) SCIB(18-19) BAY(17-17.4) BAY-W1(5.1-5.4) KK(27.5-28.5) TISCO
(21.7-22.1) และกลุ่มหลักทรัพย์ ซึ่งจะฟื้นตัวขึ้นตามมูลค่าซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น PHATRA
(40.0-41.25) BLS(11.9-12.3) KEST(21.1-22.1) ASL(7.35-7.7) UOBKH(5.05-
5.35) ASP(3.54-3.70)


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #11 เมื่อ: 17/08/06 10:45:01 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

ภาวะตลาดวันนี้: ?ตลาดยังได้แรงหนุนจากต่างประเทศและเม็ดเงินไหลเข้า? ค่าเงินบาทที่
ยังคงแข็งค่า และภาวะตลาดปรับเพิ่มขึ้นยังเป็นปัจจัยสนับให้ SET ปรับตัวขึ้นได้ต่อ เงินทุนจาก
ประเทศที่ไหลเข้าทำให้ค่าเงินบาทยังคงค่าต่อเนื่องแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศจะอ่อนแอก็
ตาม โดยค่าเงินบาทวันนี้ 37.4 บาท

ปัจจัยวันนี้:
1. ธปท. ยอมรับแทรกแซงค่าเงินบาท: ธปท.เผยว่าขณะนี้มีเงินลงทุนไหลเข้าไปประเทศ
ไทยเพื่อลงทุนทั้งในตราสารหนี้และตราสารทุน แต่ ธปท. จะพยายามแทรกแซงค่าเงินเพื่อมิให้ต่ำ
กว่า 37.4 บาท เพื่อส่งผลต่อผู้ส่งออก
2. BAY-GE: กระทรวงการคลังเลื่อนการเซ็นอนุมัติการควบรวม BAY ? GE โดยมีการ
เสนอเรื่องต่อไปยังคณะมนตรีเป็นผู้พิจารณา เนื่องจากติดเกณฑ์การถือหุ้นเกินกว่า 25% ที่
ธนาคารต่างชาติยังไม่สามารถทำได้ ทั้ง GE ได้แสดงเจตนาที่จะถือหุ้น BAY ในสัดส่วน 25%
ของทุนจดทะเบียนภายหลังจากรวมการแปลงสภาพ Warrant ที่มีอยู่ที่ 1.2 พันล้านหุ้น (ทุน
ปัจจุบัน 2850 ล้านหุ้น) ทั้งนี้หลังจากตกลงดีลกันได้ BAY จะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้ประมาณ
1.3 พันล้านหุ้น ซึ่งหากนับรวมจากหุ้นปัจจุบันทำให้สัดส่วน GE ใน BAY เกินกว่า 25% ไปชั่ว
ระยะเวลาหนึ่งจนกว่า Warrant จะมีการแปลงสภาพในเดือน ก.ย.2551 ดังนั้นประเด็นดังกล่าว
ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ GE ใน BAY ในระยะแรกจะเป็น 33% และทำให้เกินเกณฑ์ที่
กฎหมายกำหนด ทำให้การตัดสินเชื่อจึงส่งต่อไปยังครม.เพื่อพิจารณา ทั้งนี้ในท้ายที่สุดเชื่อว่าดี
ลของ BAY-GE จะสามารถผ่านความเห็นชอบจากครม.
3. ADVANC: คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (NTC) เผยว่า ?กุหลาบ
แก้ว? ซึ่งเป็นซื้อหุ้น SHIN อาจจะเป็น ?Nominee? ของ Temasek Holding ซึ่งถือเป็นความ
ผิดอาญา ซึ่งกระทบกับธุรกิจของ ADVANC และ ผลที่จะมาตามคือการดำรงอยู่ของธุรกิจของ
ADVANC เป็นอย่างมาก
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้: ?เล่นตามน้ำ? : จากการที่ทิศทางเงินลงทุนไหลเข้าประเทศอย่าง
ต่อเนื่อง และภาวการณ์ปรับเพิ่มขึ้นในต่างประเทศเป็นใจ คาดว่าจะช่วยประคองและขับเคลื่อน
SET ยังไม่เกิดการปรับตัวลงได้แรงๆ หุ้นขนาดใหญ่กลุ่มธนาคาร และพลังงาน คาดว่าจะเป็น
กลุ่มที่ผลักให้ SET ปรับขึ้นได้ ซึ่งการปรับขึ้นในช่วงนี้ต้องเรียกว่า ?ยิ่งสูง .... ยิ่งหนาว? เพราะเชื่อ
ว่าการปรับขึ้นยังไม่ยั่งยืน กลยุทธ์ในระยะนี้ของ focus ไปที่ TPI ที่ภายหลังประกาศผลการ
ดำเนินงานออกมาได้ก็ลดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงการถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ประกอบราคา
หุ้นปรับตัวลงมากก่อนหน้านี้จากความเสี่ยงในเรื่องนี้ ในขณะที่การฟื้นตัวของบริษัทค่อยๆ ดีขึ้น
เป็นลำดับ



แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #12 เมื่อ: 17/08/06 10:45:29 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.ยูไนเต็ด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

SETI ได้อานิสงค์จากเงินเฟ้อชะลอตัว, ดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติและราคาน้ำมันอ่อน
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 2 จากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ และ
ตีความกันว่าเฟดอาจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ รวมทั้ง ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงเป็นอีก
ปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้น
....สำหรับ SETI ในวันนี้ คาดว่าจะเดินหน้าต่อขึ้นทดสอบระดับ 715-720 จุด แต่ในระยะ
สั้น อาจผ่านระดับ 720 จุดได้ค่อนข้างยาก เพราะเป็นแนวต้านสำคัญและเป็นระดับที่นักลงทุน
ค่อนข้างมีความระมัดระวังมาก รวมทั้ง กระแสการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปยังกดดันตลาดอยู่
....กลยุทธ์การลงทุน เน้นกลุ่มธนาคาร, อสังหาริมทรัพย์, รับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับผล
บวกจากการที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติ รวมทั้ง กลุ่มหลักทรัพย์ที่
ปริมาณการซื้อขายคึกคักขึ้นและคาดว่าจะมีหุ้น IPO ทยอยเข้าตลาดมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
.....โดยเรายังประเมินว่าในระยะกลางตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 725
และ 750 จุด ได้ก่อนการเลือกตั้ง 15 ต.ค.นี้
หุ้นเด่นวันนี้: เราแนะนำ KEST (เป้าหมาย 24 บาท) BLS (เป้าหมาย 14 บาท)
ZMICO (เป้าหมาย 4.4 บาท) SCB (เป้าหมาย 65 บาท)

Market Summary :
เมื่อวาน SETI ปิดบวก 4.39 จุด เมื่อวาน SETI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.39 จุด ปิดที่
712.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,675 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,207 ล้านบาท
(ต่างชาติซื้อสุทธิ ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. 10,054 ล้านบาท)
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงต่อ 1.16 ดอลลาร์ สัญญาน้ำมันดิบตลาด
NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปรับตัวลดลง 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
หลังจากข้อมูลน้ำมันสำรองของสหรัฐบ่งชี้ว่า น้ำมันดิบสำรองอยู่สูงกว่าระดับเฉลี่ยของปีนี้ และ
จากการที่กลุ่มโอเปคประกาศลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกลง 8 หมื่นบาร์เรลต่อวันสู่
ระดับ 84.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน.....(ความเห็น: หลังจากสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและเลบานอน
คลี่คลายราคาน้ำมันก็อ่อนตัวลงเป็นลำดับ ในระยะสั้น เราคาดว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวออกด้าน
ข้าง (Sideway) ในช่วง 70-75 ดอลลาร์...นอกจากนี้ ยังต้องจับตากรณีที่ 6 ชาติมหาอำนาจยื่น
ข้อเสนอให้อิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ด้วย ถ้าสถานการณ์ในอิหร่านคลี่คลาย
มีโอกาสที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงได้อีก)
ดาวโจนส์พุ่งขึ้น 96.8 จุดเพราะเงินเฟ้อชะลอตัวและราคาน้ำมันอ่อนตัว ดัชนีดาว
โจนส์ปิดพุ่งขึ้น 96.86 จุด เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค.
ของสหรัฐที่เพิ่มน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับอิทธิพลจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง
ต่ำกว่า 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

Econs & Politics News:
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน เดือน ก.ค.ของสหรัฐขยับขึ้น 0.2% ต่ำกว่าคาด ก.แรงงาน
สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงานใน
เดือน ก.ค.ขยับขึ้น 0.2% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ดัชนี
CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐลดลง 2.5% ติดต่อเป็นเดือนที่ 5 ในรอบ 6 เดือน
ก.พาณิชย์สหรัฐเผยตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ในเดือนก.ค.ลดลง 2.5% สู่ระดับ 1.795 ล้านยูนิต
ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 ครั้งในรอบ 6 เดือน และตัวเลขการสร้างบ้านใหม่เบื้องต้นใน
เดือนส.ค.ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี
ประธานวุฒิสภาคาดกระบวนการสรรหา กกต. 5 คนไม่เกิน 20 วัน ประธานวุฒิสภา
คาดว่ากระบวนการสรรหา กกต.จะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือน ส.ค.นี้ (คือ ใช้เวลาไม่เกิน 20 วันและ
ไม่มีการขยายเวลาเพิ่มเติม) เพื่อไม่ให้กระทบต่อกำหนดวันเลือกตั้ง 15 ต.ค.49.....(ความเห็น:
เราประเมินว่าวุฒิสภาจะพยายามสรรหา กกต.ให้ไม่เกิน 31 ส.ค.นี้ ส่วนการจะเลื่อนวันเลือกตั้ง
ออกไปหรือไม่ คงต้องรอการตัดสินใจของ กกต.ชุดใหม่)

Investment Theme:
SETI ได้อานิสงค์จากเงินเฟ้อชะลอตัว, ดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติและราคาน้ำมันอ่อน
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 2 จากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ และตีความ
กันว่าเฟดอาจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ รวมทั้ง ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงเป็นอีกปัจจัยที่
ช่วยหนุนตลาดหุ้น
....สำหรับ SETI ในวันนี้ คาดว่าจะเดินหน้าต่อขึ้นทดสอบระดับ 715-720 จุด แต่ใน
ระยะสั้น อาจผ่านระดับ 720 จุดได้ค่อนข้างยาก เพราะเป็นแนวต้านสำคัญและเป็นระดับที่นักลง
ทุนค่อนข้างมีความระมัดระวังมาก และนักลงทุนยังกังวลเรื่องการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป
....กลยุทธ์การลงทุน เน้นกลุ่มธนาคาร, อสังหาริมทรัพย์, รับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับผล
บวกจากการที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติ รวมทั้ง กลุ่มหลักทรัพย์ที่
ปริมาณการซื้อขายคึกคักขึ้นและคาดว่าจะมีหุ้น IPO ทยอยเข้าตลาดมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
แนะนำซื้อ KEST, BLS, ZMICO
.....โดยเรายังประเมินว่าในระยะกลางตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 725
และ 750 จุด ได้ก่อนการเลือกตั้ง 15 ต.ค.นี้

กลุ่มที่แนะนำซื้อ (Buy):
ธนาคาร (BBL, KBANK, SCB) ดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติ และการขยายตัวของสินเชื่อครึ่งปี
หลังน่าจะดีขึ้น สื่อสาร (ADVANC, TRUE) คาดว่าไตรมาสที่ 3 สงครามราคาจะเบาลงและใน
ระยะกลางจะได้รับประโยชน์จากการนำ Interconnection Charge มาใช้ อสังหาริมทรัพย์:
( LPN, SPALI, PRIN) ดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติแล้ว รับเหมาก่อสร้าง: ( ITD, CK) การเมืองมี
ความชัดเจนและคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุน และโครงการเมกะโปรเจ็คต์ในปี 50 กลุ่ม
อาหารและเกษตร: (TIPCO, STA, KSL) ราคาสินค้าเกษตรยังมีแนวโน้มดี พาณิชย์ โรง
พยาบาล และโรงแรม: (BIGC,CPN, KH, MINT, ERAWAN) เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมี
กระแสเงินสดที่ดี

กลุ่มที่แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว (Buy on Weakness):
พลังงาน: (PTT, PTTEP, RRC, LANNA) เพราะราคาน้ำมันและค่าการกลั่นอ่อนตัว

กลุ่มที่แนะนำซื้อเก็งกำไร (Trading Buy):
ปิโตรเคมี (ATC, PTTCH, TPI) ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่มีลักษณะการ
เล่นเป็นรอบตามวงจรของปิโตรเคมี
หุ้นเด่นวันนี้ (ประเมินจากมุมมองด้านพื้นฐานและเทคนิค): เราแนะนำ KEST
(เป้าหมาย 24 บาท) BLS (เป้าหมาย 14 บาท) ZMICO (เป้าหมาย 4.4 บาท) SCB (เป้า
หมาย 65 บาท)

Stock News & Views:
รมว.คลังระบุเจบิคตอบรับจัดหาเงินกู้รถไฟฟ้าให้ รมว.คลังระบุตัวแทนธนาคารเพื่อ
ความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) ตอบรับที่จะพิจารณาจัดหาเงินกู้ในโครงการรถไฟ
ฟ้า 3 เส้นทาง วงเงิน 1 แสนกว่าล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.5-0.75% ต่อปี (ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา
3-5 เดือนก็น่าจะเปิดประมูลในเส้นทางที่มีความพร้อมได้ทันที โดยเฉพาะเส้นสีแดงและสี
ม่วง)....(ความเห็น: โครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทางมีความหน้าอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าการเปิด
ประมูลโครงการจะช่วยหนุนให้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างยังมีความน่าสนใจในระยะกลาง....ระยะสั้นซื้อ
เมื่อราคาอ่อนตัวใน CK, ITD)
TPIPL เผยขายหุ้นเพิ่มทุน 807 ล้านหุ้น ได้หมดแล้ว TPIPL เผยว่าขายหุ้นเพิ่มทุน
807.5 ล้านหุ้น ๆละ 10 บาท ได้หมดแล้ว หลังให้ผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อในช่วง 7-11 ส.ค.ที่ผ่าน
มา.....(ความเห็น: TPIPL สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนได้ครบ ช่วยลดความวิตกเรื่องเพิ่มทุนไม่
สำเร็จออกไป และถ้าประเมินจาก BV ของบริษัทจะเห็นว่าราคาปัจจุบันต่ำกว่า BV มาก แนะนำ
ซื้อเก็งกำไร)

Revision & Momentum:
BAFS, BEC, PSL, CSL, ATC ถูกปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1
สัปดาห์ จากการตรวจสอบการปรับราคาเป้าหมายของหุ้นในตลาดผ่านฐานข้อมูลของ Thomson
One Analytics ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าหุ้นที่ถูกปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นมากที่สุด
คือ BAFS ราคาเป้าหมายใหม่ 15 บาท (จากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิในเร็ววันนี้) ตามมา
ด้วย BEC ราคาเป้าหมาย 17.5 บาท (เพราะผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อเนื่อง) PSL (การฟื้นตัว
ของค่าระวางเรือ) CSL เป้าหมาย 4.17 บาท (อัตราการจ่ายเงินปันผลสูง) ATC เป้าหมาย 29.4
บาท (ผลการดำเนินงานฟื้นตัวต่อเนื่อง) ซึ่งหุ้นที่ได้รับการปรับขึ้นข้างต้นล้วนน่าสนใจลงทุน
...ส่วนหุ้นถูกปรับราคาเป้าหมายลง คือ MPT, GRAMMY, GMMM, GFPT, KK ส่วน
หุ้นที่ถูกปรับลดราคาเป้าหมายลงอย่างมีนัยสำคัญ และในระยะสั้นเราแนะนำให้หลีกเลี่ยงออกไป
ก่อน คือ MPT, GRAMMY, GMMM, GFPT, KK

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



admin
Administrator
Hero Member

กระทู้: 7,602


Re: รายงานภาวะตลาด 17 สิงหาคม 2549
« ตอบ #13 เมื่อ: 17/08/06 10:50:02 »

--------------------------------------------------------------------------------
บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17/08/49

แนวโน้มตลาด
วันนี้ SET ยังคงมีประเด็นบวกจากต่างประเทศ เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์เมื่อวานปรับตัว
สูงขึ้น 96.86 จุด ขึ้นมาปิดสูงสุดในรอบ 3 เดือน ภายหลังจากมีการประกาศตัวเลข CPI ในเดือน
ก.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% m-o-m ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ นักลงทุนจึงเริ่มคลาย
ความกังวลในประเด็นเรื่องอัตราเงินเฟ้อ และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า หากอัตราเงินเฟ้อมี
แนวโน้มที่จะลดลงเมื่อใดการดำเนินนโยบายการเงินของ FED ก็จะผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
ส่วนราคาน้ำมันดิบก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดัชนีหุ้นสำคัญต่างๆ ทะยานสูงขึ้น โดยราคาน้ำมัน
ดิบที่ตลาด NYMEX เมื่อคืนนี้มีราคาลดลง 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
หลังจากที่นักลงทุนต่างมีมุมมองว่าอัตราดอกเบี้ยของ FED มีโอกาสที่จะปรับขึ้นน้อยลงนี้
ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ยังคงมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงต่อไป
แต่สำหรับเงินบาทของไทยนั้น ภายหลังจาก ธปท. ได้ออกมายอมรับว่า ได้เข้าแทรกแซงตั้งแต่
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทจึงเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น โดย ธปท. ได้ชี้แจงว่า ราคาหุ้นใน
SET ส่วนใหญ่มีราคาต่ำกว่าราคาทางพื้นฐานและคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนดีกว่า นักลงทุน
จึงกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง
ส่วนภาพทางเทคนิคในวันนี้ Volume ยังเป็นปัจจัยหลักที่จะดันไม่ให้ SET อ่อนตัวลง
เนื่องจากเครื่องมือต่างๆ ในภาพ Day ยังยืนอยู่ในระดับที่แสดงถึงการซื้อมากเกินไป หากว่า
Volume ต่ำลง โอกาสที่ SET จะอ่อนตัวลงเพื่อปรับฐานก็จะมีมากขึ้น วันนี้โอกาสที่จะไปต่อ
ยังคงมีอยู่ แต่เป็นไปในกรอบจำกัดที่แนวต้านที่ 720จุด หากขึ้นไปถึงจึงคาดว่าจะเริ่มมีการปรับฐานก่อนที่จะเดินหน้าได้ต่อไป

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com