[b:01d2f71d8f">Source - ข่าวหุ้น [/b:01d2f71d8f">
Thursday, 17 August 2006 04:09

GMMM
เมื่อพิจารณาโครงสร้างรายสัปดาห์ยังเป็นลงอย่างชัดเจน ส่วนทิศทางการปรับตัวของหุ้นตลอดระยะเวลากว่า 5 สัปดาห์ ทำให้ราคาหุ้นรายวันปรับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้านทุกเส้น แต่ในขณะเดียวกันราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับราคาหุ้นเริ่มเข้าสู่ภาวะการซื้อมากเกินไป ทำให้สัญญาณ RSI และ Slow Stochastic มีทิสทางที่เริ่มบ่งบอกว่า เวลานี้หุ้นเข้าสู่ภาวะการซื้อมากเกินไป ทำให้สัญญาณดังกล่าวเริ่มปรับตัวเป็นขาย ดังนั้นหากราคาหุ้นไม่สามารถผ่านแนวต้าน 9.75 บาทได้ คาดว่าหุ้นน่าจะได้เวลาพักฐาน หลังวอลุ่มเริ่มเบาบางอย่างมีนัยสำคัญคำแนะนำ หาจังหวะขาย
SAMART
เมื่อพิจารณาโครงสร้างแท่งเทียนรายสัปดาห์ รายสัปดาห์พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อสังเกตราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาพบว่า หุ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญอย่างระดับ 10.00 บาทไปได้ ทำให้ราคาหุ้นรายวันเริ่มอ่อนตัวลงมา 2 วันติด ที่ระดับ 9.65 บาทขณะเดียวกกันสัญญาณสนับสนุนการซื้อขายอย่าง RSI และ Slow Stochastic ได้ปรับตัวเป็นขายชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นคาดว่าแนวโน้มของราคาหุ้นน่าจะปรับตัวลงอีก และโอกาสที่จะอ่นตัวลงมาหาแนวรับที่ระดับ 9.40 เป็นสำคัญบาท เป็นแนวรับแรกคำแนะนำ หาจังหวะขาย
AP
ราคาหุ้นรายสัปดาห์ได้ปรับตัวขึ้นมาจากฐานที่ระดับ 2.40 บาท อย่างมั่นคง ขระเดียวกันราคาหุ้นรายวันหลังจากที่ประคองตัวตามเส้นค่าเฉลี่ย 10,25,75 วัน มานานขณะนี้สามารถทะลุแนวต้านทั้ง 3 ขึ้นมาได้อย่างชัดเจนที่ระดับ 3.22 บาท เนื่องจากวอลุ่มที่เข้ามาหนาแน่นอย่างมาก ส่วนสัญญาณ RSI และ Slow Stochastic ก็ยังปรับตัวสนับสนุนการซื้ออย่างชัดเจน ดังนั้นโอกาสที่หุ้นจะปรับตัวขึ้นอีกน่าจะเป็นไปได้ และคาดว่าราคาหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 3.50 บาท เป็นเป้าหมายสำคัญคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร

[b:50bf3e5ae4">Source - ทันหุ้น [/b:50bf3e5ae4">
Thursday, 17 August 2006 10:12
โดย ภูวดล. เอเชีย พลัส
TPI
@ ซื้อเพราะราคาหุ้นเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น เมื่อราคาผ่านแนวต้านระยะกลางได้เมื่อวานนี้
@ ระยะสั้นดี เนื่องจากราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 และ 25 วัน มีปริมาณซื้อขายเข้ามาสนับสนุน
@ ระยะกลางรอการเปลี่ยนแนวโน้มรอบใหม่
@ ระยะกลางดี เครื่องมือ MACD ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งที่ 2 และข้าม Zero Line จะทำให้ภาพระยะกลางดี
แนวรับ : 7.50 บาท
แนวต้าน : 7.90 บาท
หากราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.20 ขายออกทันที
JAS
@ ราคาหุ้นสร้างฐานราคาไว้ที่ 0.46-0.48 บาท
@ ระยะสั้นดี เนื่องจากราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 และ 25 วัน
@ ระยะกลางรอการเปลี่ยนแนวโน้มรอบใหม่ กำลังทดสอบแนวต้านระยะกลางที่ 0.50 บาท
@ ระยะกลางดี เครื่องมือ MACD ปรับตัวขึ้นแล้วและข้าม Zero Line จะทำให้ภาพระยะกลางดี
แนวรับ : 0.49 บาท
แนวต้าน : 0.55 บาท
หากราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.46 ขายออกทันที
SYRUS
@ ราคาหุ้นสร้างฐานราคาไว้ที่ 3.00-3.28 บาท
@ ระยะสั้นดี เนื่องจากราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 และ 25 วัน
@ ระยะกลางรอการเปลี่ยนแนวโน้มรอบใหม่
@ ระยะกลางดี เครื่องมือ MACD ปรับตัวขึ้นแล้วและข้าม Zero Line จะทำให้ภาพระยะกลางดี
แนวรับ : 3.40 บาท
แนวต้าน : 4.00 บาท
หากราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.24 ขายออกทันที
HANA
บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด(มหาชน) หรือ HANA เป็นบริษัทที่ประกอบและจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิคส์ครบวงจร (Electronics ManufacturingServices) ที่มีบริษัทชั้นนำของโลกหลายบริษัทถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมมากถึง 19บริษัท รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2549 บริษัทมีผลกำไรจำนวน 573.361 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไรเท่ากับ 442.427 ล้านบาท มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจำนวนร้อยละ 29 ทำให้กำไรจากการดำเนินงาน โดยเฉพาะโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 69 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงกระแสเซมิคอนดักเตอร์ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1/49 ทำให้ยอดรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ บริษัท แอดแวนซ์ อินเตอร์คอนเนค เทคโนโลยี่ จำกัด ถือเป็นบริษัทร่วมทุนที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจประกอบและทดสอบ ICในโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์อิเล็ทรอนิคส์ขนาดเล็กขยายตัวอย่างรวดเร็ว
@ ราคาหุ้นสร้างฐานราคาไว้ที่ 24.00-24.40 บาท
@ ระยะสั้นราคาหุ้นดีดตัวขึ้นพร้องปริมาณซื้อขายที่เข้ามาสนับสนุน
@ ดีดตัวขายเพื่อรอรับใหม่ได้อีกครั้ง เนื่องจาก
@ เครื่องมือ MACD ปรับตัวขึ้นแต่ยังอยู่ใต้ Zero Line ให้เก็งกำไรระยะสั้น ซื้อเมื่ออ่อนตัว
แนวรับ : 24.50 บาท
แนวต้าน : 26.00 บาท
หากราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 24.00 ขายออกทันที
ภูวดล ลาภอุดมสุข ยุทธศาสตร์ตลาดทุน บมจ.หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส 0-2680-1410, 0-9129-3734 email : powadol@ asiaplus.co.th นักลงทุนสนใจ Fundamental Update อ่านได้ที่ www.asiaplus.co.th

[b:fa2e53b50c">คอลัมน์ : กระซิบหน้าจอ [/b:fa2e53b50c">
Source - ทันหุ้น
SET Index วันพุธที่ 16 ส.ค. ปิดที่ 712.07จุด +4.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,675 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,207.64 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 122.83 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่ 1,084.81 ล้านบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ยืนแดนบวกตลอดการซื้อขายทั้งวันทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้นจากตัวเลข PPI ออกมาต่ำกว่าคาดทำให้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะไม่ปรับขึ้น แรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่จากกลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงค์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หนุน Index ให้ยืนบวกได้ตลอดวัน SET Index ทำ High ที่ดัชนี 715.30 จุด +7.62 จุด และ Low ที่ดัชนี 710.07 จุด +2.39 จุด วานนี้มีแรงซื้อขายเข้ามามากในหุ้น TPI หลังมีกระแสข่าวออกมาว่า นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า อีก 1-2 วัน จะสามารถประกาศวันปลดเครื่องหมาย C จากหุ้น TPI ได้ รวมถึงสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับรองงบการเงินของ TPI ฉบับรวมบริษัทย่อยบางส่วนและให้นำส่งฉบับสมบูรณ์ต่อไปได้ ซึ่งปรากฎกำไรสุทธิในQ2/49 เท่ากับ 3.99 พันล้านบาท จากที่ 139 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน และหุ้นร้อนแรงเจ้าเก่า IEC หลังประกาศงบออกมาพลิกกำไรเป็นขาดทุน ก็ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นลงค่อนข้างรุนแรง ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้จับตาดูหุ้นตัวเล็ก ๆ ประเภทพิมพ์นิยมคงมี Gap ให้ทำกำไรได้
BLS ราคาเปิด - ปิด 12 บาท มูลค่าการซื้อขาย 8.14 ล้านบาท ประกาศผลการดำเนินงาน Q2/49 ออกมามีกำไรสุทธิ 38.69 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.21 บาท เพิ่มขึ้น 48.92% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 25.98 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจำนวน 18.77 ล้านบาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 6.14 ล้านบาท และเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราที่ลดลงจากการเข้าจดทะเบียนในตลท. มีรายได้ค่านายหน้าซื้อขายเพิ่มขึ้น 6.78 ล้านบาทเพราะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่มีรายได้จากวาณิชธนกิจอยู่ที่ 26.82 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 20.49 ล้านบาทเนื่องจากมีผลงานเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทคอน รวมถึงสาเหตุหลักที่นำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นจากมูลค่าการซื้อขายโดยรวมของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในกลุ่มของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีBBL เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 11.60 บาท แนวต้าน 12.30 บาท
LH ราคาเปิด 6.95 บาท ราคาปิด 7.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 321.391 ล้านบาท คาดการณ์ Gross Profit Margin ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 31% ลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 34-35% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาคอนโดบางทำเลที่ไม่ดี จึงมีการปรับราคาขายลง แต่เชื่อว่ายอดขายบ้านใน 2H06 จะดีกว่า 1H06 จากโครงการใหม่ 8 โครงการ ที่มีการปรับแผนการตลาด ที่เน้นทาวน์เฮ้าส์ราคาต่ำ ทั้งนี้ LH ได้ตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดีเพิ่มเติม เพื่อเตรียมเปิดโครงการในปีหน้าราว 4 พันล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 2 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังได้มีการลงทันในหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมอีกกว่า 700 ล้านบาท K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 7.15 บาท แนวต้าน 7.60 บาท
ITD ราคาเปิดที่ 5.60 บาท ราคาปิดที่ 5.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 115.54 ล้านบาท แม้ว่ายอดรับรู้รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ผลประกอบการไตรมาส 2/49 กลับต่ำลง โดยเท่ากับ 178 ล้านบาท ลดลง 29% เทียบกับปีก่อน ทั้งนี้เนื่องมาจากการที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นมากแต่ ITD ยังสามารถควบคุมให้อัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 6.6% ได้ในไตรมาสนี้ ทั้งนี้เนื่องจาก ITD เริ่มผลิตปูนซีเมนต์ใช้เองในปีนี้ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะดีขึ้นในปีหน้าเป็น 7.8% เนื่องจากโรงงานผลิตปูนซีเมนต์จะดำเนินการผลิตเต็มกำลังการผลิตในปีหน้า นอกจากนั้น ITD ได้งานใหม่เป็นมูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/49 หากรวมงานที่ชนะประมูลแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอีกมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ITD จะมีงานในมือ 8.4 หมื่นล้านบาท ทำให้มั่นใจในกระแสรายได้ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี แนวโน้มธุรกิจดูดีขึ้นหลังจากรัฐบาลอนุมัติรถไฟฟ้า 3 สาย โดยคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือนหน้า นอกจากนี้ งานก่อสร้างมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในปีหน้าหลังจากได้รัฐบาลใหม่และอนุมัติงบประมาณปี 2550 K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ โดยมีแนวรับที่ 5.50 บาท แนวต้านที่ 5.80 บาท
ROJANA เปิด-ปิด ตลาดที่ราคา 12.90บาท Highที่ราคา 13.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10.75 ล้านบาท สำหรับกำไรสุทธิ Q2/49 เป็น 344 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 42% YoY และ 45% QoQตามลำดับ ส่วนกำไรปกติไม่นับรายการอัตราแลกเปลี่ยน เติบโต 16% YoYและ 87% QoQ สาเหตุที่กำไรปกติเติบโตดีเทียบกับ YoY เพราะดีขึ้นในแทบธุรกิจหลัก คือ นิคมคอนโด ไฟฟ้าและบริการ สำหรับ QoQ ที่กำไรปกติเติบโตดีมาก เป็นเพราะรับรู้กำไรตามวิธีส่วนได้เสียจากบริษัทร่วมคือ TICON เป็นจำนวนมาก แม้ว่าธุรกิจไฟฟ้ามีกำไรขั้นต้นที่ลดลง แต่ธุรกิจนิคมและคอนโดทีดีก็ช่วยทดแทน คาดว่า ปี 2549 ROJANA จะจ่ายประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.40 บาท K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน แนวรับที่ราคา 12.70 บาท แนวต้านที่ราคา 13.50 บาท
AH เปิดตลาดHighที่ราคา 13.50 บาท ปิดตลาดที่ราคา 13.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.90 ล้านบาท AH ประกาศกำไรจากการดำเนินงานใน Q2/49 อยู่ที่ 86 ล้านบาท ลดลง 53% YoYและ 28% QoQเนื่องจาก การผลิตของ Aapico Amata มีการสะดุด ISUZU มีการปิดโรงงาน 10 วัน เพื่อเตรียมพร้อมกับการออก model ใหม่ของ Isuzu D-Max ประกอบกับยอดขายรถในประเทศที่ชะลอตัว จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนการขยายกำลังการผลิต และ โครงการใหม่ๆ จะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสสี่ปรับตัวดีขึ้น และ จะเห็นผลชัดเจนขึ้นในปี 2550 ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน มีแนวรับที่ราคา 13.20 บาท แนวต้านที่ราคา 14.10 บาท มูลค่าที่เหมาะสมอยู่ที่ 20 บาท