Source - ข่าวหุ้น
Wednesday, 16 August 2006 04:08

ตลาดหุ้นไทยยังคงเริงร่าเพราะต่างชาติเข้ามาแรงและต่อเนื่อง โอกาสที่แมงเม่าจะซื้อเข้าพอร์ตมาถึงแล้ว* ขอย้ำ โอกาสยังมี เพราะจากที่สอบถามตลาดดูแล้วเกียรติก้อง มั่นใจว่า เข้ามาคราวนี้ กองทุนต่างชาติจะอยู่นานพอสมควร เรียกว่า อย่างน้อยต้องถึงสิ้นปีทีเดียว* ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า เศรษฐกิจอเมริกาทำให้กองทุนทั้งหลายหมดความเชื่อมั่นดอลลาร์ไหลออกต่อเนื่องชนิดไม่มีหยุด ทำเอาค่าดอลลาร์ปวกเปียกเป็นมะเขือเผาไปแล้ว* ที่สำคัญ อย่างที่ทราบ จีนและธนาคารกลางเอเชีย พากันเคลื่อนย้ายทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศไปซื้อเงิน หรือตราสารหนี้สกุลเงินยูโรกันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงหลังจากช่วยพยุงค่าดอลลาร์มายาวนานกว่า 2 ปี แต่ไม่ดีขึ้น* เกมการเงินระหว่างประเทศนี้ ทำให้อเมริกา จำต้องปล่อยให้ค่าดอลลาร์อ่อนเพื่อลดการขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และหาทางลดขาดดุลงบประมาณ เจอรายการ สามเด้ง อย่างนี้ ค่าดอลลาร์ก็รูดต่อเนื่อง* วันก่อน เกียรติก้องอ่านวิเคราะห์ของนักเล่นตลาดเงินระหว่างประเทศ หลายสำนักตกใจไม่น้อยว่า ทุกเสียงมองเป็นทางเดียวคือ ดอลลาร์จะตกอย่างน้อยหลายเดือนเลยซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เงินทุกสกุลในโลกแข็งเทียบกับดอลลาร์* มองจากมุมของการแข่งขันทางการค้า ค่าเงินดอลลาร์ก็เหมือนกับปัญหาราคาน้ำมันนั่นแหละ คือ เป็นปัญหาที่ทุกชาติเผชิญคล้ายกัน ประเด็นหลักอยู่ที่ใครจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันเหนือกว่ากัน* เศรษฐกิจไทยยามนี้ ถือว่า มีบุญเก่ามาหนุนช่วย แถมการท่องเที่ยว และการส่งออกยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง การไหลเข้าของเงินทุน ก็ช่วยให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศไม่พุ่งแรงจนน่าเป็นห่วง* นั่นหมายความว่า ในครึ่งหลังของปี โอกาสที่บริษัทจดทะเบียนจะกลับมาทำกำไรแข็งแกร่ง ยังเป็นไปได้* ถามเกียรติก้องว่า ดัชนีรอบใหม่นี้จะอยู่ที่ไหน คำตอบทันทีทีนึกได้ก็คือ รอบแรกนี้จะต้องท้าทาย 750 จุด แล้วพักฐาน ก่อนที่จะขึ้นไปทดสอบ 780 จุด และ 800 จุดในราวปลายเดือนพฤศจิกายน* ดูสัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นมาก หากสัปดาห์นี้ ดัชนี้รวม SET ทะลุ 712 จุด ไปได้และ SET50 ทะลุ 500 จุด ได้ด้วย ขอย้ำ...ย้ำชัดๆ...ว่างานนี้ แนวต้านจิตวิทยาพังแน่นอน เพราะแนวต้านจะกลายเป็นแนวรับทันที...แน่ยิ่งกว่าจ้างผีโม่แป้ง* เพื่อนพ้องกระซิบบอกจากตลาดตราสารอนุพันธ์ว่า ที่เคยซื้อทำ long position กับSET50 ในสิ้นเดือนกันยายน ที่ 493 จุด ตอนนี้ กระดิกเท้ารอกำไรอย่างเดียว จะมากหรือน้อยขึ้นกับดัชนีสิ้นเดือนกันยายน...จุดละ 1,000 บาท คิดดูเถอะว่าแต่ละสัญญาจะกำไรแค่ไหน* ส่วนคนที่ทำ short position ไว้ที่ตลาดตราสารอนุพันธ์ งานนี้ มีหวังบักโกรกแน่นอน หากไม่ยอมปิดโพลิชั่นหนีตายเสียก่อน....บอกแล้วว่าให้ซื้อ ดันขายเสียนี่ ก็ต้องรับกรรมเร็วอย่างนี้....* พูดอย่างนี้ จะหาว่าเว่อเกินจริง ก็ขอยืนยันว่า ไม่ได้เพ้อฝันอย่างแน่นอน เพราะดูจากความสามารถทำกำไรของหุ้นพื้นฐาน (ไม่นับหุ้นกลุ่มซอมบี้จำนวนน้อยที่วนเวียนกับปัญหาสร้างราคาโดยไร้พื้นฐาน มีแต่สตอรี่จอมปลอม) ยังคงดีอยู่* ที่สำคัญกว่านั้น เกียรติก้อง ย้อนดูประวัติเก่าในยามเลือกตั้ง ยังไม่เคยมีครั้งใดที่ตลาดหุ้นเป็นขาลงก่อนวันเลือกตั้ง ดังนั้น ถือว่านับแต่นี้จนถึงกลางเดือนตุลาคม...(หากไม่มีอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้นก่อน)...ดัชนีหุ้นจะมีแรงส่ง 2 ต่อ คือ จากเงินไหลเข้าผสมกับการเมืองก่อนเลือกตั้ง ทำให้ดัชนีขึ้นไปท้ายทายแนวต้าน 800 จุดที่ 3 ปีมาแล้วยังผ่านไม่ได้* มองโลกในแง่ดี ยังคงยืนยันได้ต่อไปว่า อย่างไรเสีย ตลาดหุ้นไทยโดยรวมแล้ว ยังเป็นภาพบวกมากกว่าลบ ธรรมาภิบาลของบริษัทพื้นฐาน ยังคงแข็งแกร่ง และเชื่อว่าหากไม่เหลือบ่ากว่าแรง เงินปันผลในต้นปีหน้า จะยังคงดีต่อไป แม้ว่าจะลดลงบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเศรษฐกิจ* เรื่องดีๆเช่นนี้ ไม่นับกรณีของ PICNI เพราะว่าหุ้นพลังงานตัวนี้ ยังคงสร้างปัญหาไม่จบ ล่าสุดนอกจากขาดทุน(อีกแล้ว) 162 ล้านบาท แล้วผู้ตรวจสอบบัญชียังไม่แสดงความเห็นในงบไตรมาส 2 ส่งผลให้เมื่อวานนี้ตอนบ่ายถูกขึ้น SP และ NP ห้ามซื้อขายไปเรียบร้อยแล้ว* นอกจากนั้น BLISS หุ้นที่เพิ่งถูก IEC เข้าไปซื้อหุ้น ขาดทุนไปช่วงไตรมาสสอง 293ล้านบาท สภาพคล่องทางการเงินย่ำแย่ เพราะต้องใช้เงินOD มาค้ำมากมาย ยังคงน่าสนใจว่า จะฝ่าฟันธุรกิจขายเครื่องมือถือช่วงขาลงอย่างไรดี? คนถือหุ้น IEC ต้องลุ้นหนักหน่อยว่าจะออกหัวหรือก้อย* จะมีข้อยกเว้น กรณีของ LH ที่ไม่รู้กรรมเก่าตามทันหรืออย่างไร กำไรลดฮวบฮาบกว่า50% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน เกิดอะไรขึ้นกับ อนันต์ อัศวโภคิน หรือว่า สูญเสียMidas Touchไปเสียแล้ว?* แต่ที่เชียงใหม่ วานนี้ ทักษิณ ชินวัตร ออกมาตรการวัวหายล้อมคอก ดันงบประมาณป้องกันน้ำท่วมเชียงใหม่ เนื่องจากผลพวงการพัฒนาแบบตามใจแม้วและ คิดใหม่ แต่ทำเลวกว่าเก่าที่ตามมาหลอกหลอนให้เชียงใหม่กลายเป็นเวียงกุมกามยุคพ่อขุนเมงรายเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วหน้าตาเฉย* ในขณะที่ วาระประชาชน ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น เกียรติก้องอ่านและพิเคราะห์แล้ว บอกว่า น่าผิดหวัง ที่ดีน้อยกว่าที่ควร เวลาที่ยังเหลืออยู่ ควรที่ผู้บริหารพรรคนี้จะทบทวนเพื่อนำเสนอไม้ตายที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ cosmetic changeจากของพรรคอื่นๆ