May 3, 2024   11:59:40 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง
 

punfrees
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 13
วันที่: 13/08/2006 @ 16:57:17
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

> ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง
> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วกินใจมาก
>ลองอ่านและซึมซาบความรู้สึกอย่างช้า ๆ ? เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากชั้นไป....
>เธอควรเป็นคนที่จูงมือชั้นออกไป ?
>
> ในวันแต่งงานของผม ผมจูงมือภรรยาของผมในอ้อมแขน
>รถแต่งงานจอดหน้าที่พักของเรา เพื่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า
>ผมควรจะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน ดังนั้นผมจึงทำตาม เธอเขินอายในอ้อมแขนผม
>
> ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก...
>นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วสิบปี... ในวันถัดๆ มาทุกอย่างก็เหมือนเดิม
>เรามีลูกด้วยกัน...ผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว...
> เมื่อเราเริ่มมีฐานะที่ดีขึ้น... ความห่างของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน...
>
> ทุก ๆเช้าเราออกจากบ้านไปด้วยกันแล้วก็ถึงบ้านเวลาเดียวกัน
>ลูกเราเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน ดูเหมือนความรักของเราช่างน่าอิจฉายิ่งนัก...
>แต่แล้ว ความสงบสุขก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมิได้คาดหมาย....
>
> เจนเข้ามาในชีวิตของผม .... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน...
>เจนเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง.. หัวใจผมเต้นแรงด้วยความรัก... ที่นี่..
>เป็นอพาร์เมนท์ที่ผมซื้อให้เธอ...เธอบอกว่า คุณเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุก
>คน ถวิลหา... คำพูดของเธอทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม...
>ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ ..เธอบอกว่า วันที่ คุณประสบความสำเร็จ
>ผู้ชายอย่างคุณจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา... ผมเริ่มรู้สึกลังเล...
>ผมรู้ว่าผมกำลัง ทรยศภรรยาผม... แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว....
>ผมปลีกตัวออกจากเจน ? วันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันน๊ะ
>ผมต้องเข้าออฟฟิศ ? ... แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก
>เพราะผมสัญญากับเธอว่าเราจะ ไปด้วยกัน... ในตอนนั้น..
>ความรู้สึกถึงการหย่าร้างเริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม....ทั้งที่จริงๆ
>แล้วผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
>
> แต่ผมก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกกับภรรยาของผม....
>ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด... เธอจะต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน... จริง ๆ
>แล้วเธอเป็นภรรยาที่ดีมาก... ทุก ๆ เย็นเธอจะวุ่นวายกับการ
>ทำอาหาร..ในขณะที่ผมนั่งอยู่หน้าทีวี ทานอาหารเสร็จเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน...
>หรือ... ถ้าผมจะเลือกเป็น...นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์....
>มองเรือนร่างอันงดงามของเจน... ช่างเป็นอะไรที่หน้าฝันถึงเสียจริง
>
>
>วันนึงผมพูดทีเล่นทีจริงกับภรรยาของผมว่าจะเธอจะทำยังงัยถ้าเราหย่ากัน..
> เธอจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร..เธอ
> มั่นใจว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมาก...ผม
>นึกภาพไม่ออกเลยว่าหากเธอรู้ว่าเรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง...
>เธอจะเป็นอย่างไร วันนึงภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ..
>สวนทางกับเจนที่เพิ่งจะออกไปพอดี... พนักงานทุกคนทำหน้าตาเลิกลัก...
>เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่างจากเธอ.... เธอเหมือนจะรับรู้มันได้...
>แต่เธอก็ยิ้มน้อย ๆ กับพนักงานทุกคน...
>แต่ผมก็สังเกตุเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอภายใต้รอยยิ้มนั้น
>
> ในที่สุด...เจนก็บอกกบผมว่า...หย่ากับเธอน๊ะ..แล้วเราอยู่ด้วยกัน.
>ผมพยักหน้า.... ผมจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว...
>ผมตัดสินใจบอกภรรยาผมในอาหารค่ำ..ผมมีอะไรจะบอกคุณ... เธอนั่งทานอาหารอย่าง
> เงียบ ๆ...ผมสังเกตุเห็นแววตาอันเจ็บปวดของเธอ..
>มันทำให้ผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดไม่ออก...แต่ท้ายที่สุดผมก็พูดออกไป..
>ผมต้องการหย่า...เธอดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย...ผมย้ำกับ
>เธออีกครั้ง...เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง...แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า.
>คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...เราไม่ได้คุยกันอีกเลยคืนนั้น... เธอร้องไห้
> อย่างหนัก... ผมรู้ว่าเธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงาน
> ของเรา...แต่ผมเองไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้..
>เป็นเพราะใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้วงั้นเหรอ...ผมคงไม่สามารถบอกเธออย่างนั้นได้.
>มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก...
>
> ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น...ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน...ทุก ๆ
>อย่างในบ้าน ทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให้เธอหมด....
>เธอเหลือบมองกระดาษที่
> ผมร่างขึ้น...แล้วฉีกมันทิ้ง...มันทำให้ผมรู้สึก
>เจ็บปวดมากขึ้น.
>.ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมาเป็นระยะเวลาสิบปีกลายเป็นคนแปลกหน้ากันภายในหนึ่งวัน..
>ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้...เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด..
>สำหรับผมแล้ว...การ
>ร้องไห้ของเธอเหมือนเป็นการปลดปล่ยยความสับสนของตัวผมเอง..
>หลังจากที่ผมกลุ้มใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม..ในที่สุด..
>มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริง ๆ เสียทีคืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อน
> ข้างดึก...เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ.
>ผมหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลีย...ผมตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วพบว่า..
>เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่าเธอไม่ต้องการสิ่งใดจากผม..
>แต่เธอต้องการให้ผมให้ เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อตั้งตัวสำหรับการหย่า..
>และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ..
>ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องการให้ลูกจบการศึกษาซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน.
>เธอไม่อยากให้
>ลูกต้องเห็นความล้มเหลวในการแต่งงานของพ่อแม่ก่อนเวลานั้นจะ มาถึง..
>รัชต์..คุณจำได้มั๊ย...วันที่เราแต่งงานกัน..
>คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดในวันที่เราเข้าเรือนหอ..ผมพยักหน้า..นั่นเป็นความทรง
> จำที่ดีที่สุดของชั้น...ชั้นมีเรื่องขอร้อง..
>ชั้นอยากให้คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดจากห้องนอนไปถึงด้านล่างทุกวันนับจากวันนี้
>ปจนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน ผม ยอมรับด้วยความเต็มใจ...ผมรู้ดีว่า
> เธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น..
>และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานเธอจบลงด้วยความทรงจำที่ดี
>
> ผมบอกเจนถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้นในการหย่าร้าง..
>เธอหัวเราะถึงความไร้สาระของเงือนไข....ภรรยาผมบอกกับผมว่า
>ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...
>เธอจะต้องยอมรับผลของการหย่าร้างให้ได้...
> คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง....
>
> เราไม่ได้ถูกต้องตัวกันเลยนับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า..
>ความจริงเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันด้วยซ้ำไป..
>พอถึงวันที่ผมประคองเธอลงจากห้องวันแรก...มันจึงทำให้ผมทำตัวไม่ถูก..
>ลูกชายเราตบมือ แล้วพูดด้วยความดีใจว่า ว้าว...
>วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย....มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น.....
>เธอบอกว่าอย่าบอกลูกเราถึงเรื่องของเรา...ผมพยักหน้า..
>ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม...ผมขับรถ ไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์.
>แล้วเลยไปออฟฟิศ
>
> วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขินเริ่มน้อยลงไป...เธอซบบนอกผม..
>เราใกล้ชิดกันมากจนผมได้กลิ่นน้ำหอมของเธอ...ผมถึงได้ตระหนักว่า...
>เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว...เธอเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้ามากขึ้น
>
> ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่าสวนกำลังรื้ออยู่ให้เดินระวังด้วย..
>ในวันที่สี่...มันช่างเหมือนกับว่าเราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมาก..
>ภาพของเจนเริ่มเลือนลางไป...วันที่ห้าและหก..เธอคอยเตือนผมในเรื่อง
>เล็กๆน้อยๆ เช่นเธอวางเตารีดไว้ที่ไหน..ผมควรจะระวังอะไรบ้างตอนทำอาหาร..
>และอื่นๆ อีกมากมาย...ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที..
>ผมไม่ได้บอกเจนถึงเรื่องนี้เลย...
>
>
>ผมรู้สึกว่าผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวันโดยไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอเล
>...หรือบางทีคงเป็นเพราะผมแข็งแรงขึ้น...แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่
>ใช่อย่างที่ผมคิด...เป็นเพราะว่าเธอผอมลงจนไม่
>สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้
>.นั่นต่างหากที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น
>ผมรู้ดีว่าเธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้... ลูกของเราร้องขึ้นว่า
>พ่อได้เวลาอุ้มแม่แล้วน๊ะ...สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่เป็น
>ภาพที่เขามีความสุขที่สุด....เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น..
>ผมทนมองภาพนั้นไม่ได้จริง ๆ ผมกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย
>
> และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง....ผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด..
>เท้าผมแทบจะก้าวไม่ออก......เธอบอกกับผมว่า...ความจริงแล้ว..
>ชั้นอยากให้คุณอุ้มชั้นไปจนเราแก่เถ้า...ผมกอดเธอแน่น...และผมก็ตระหนักว่า..
> ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน..
>ผมขึ้นรถทันทีเพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่..ผมลังเลเล็กน้อย..แต่ในที่สุดแล้ว.
>ผมก็มาพบเจนจนได้....เธอเปิดประตูออก...ผมบอกเธอว่า เจน..ผมขอโทษ...
>ผมจะไม่หย่า....เธอมองหน้าผม แตะหน้าผากผม.. คุณสบายดีหรือเปล่า
> เจน...ผมขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ... ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม..
>ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็นเพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็
>น้อย...ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ....มันไม่ ได้
>หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน....ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว...
>ว่าตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน...เธอมีลูกให้ผม...ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่.
>. เจนตบหน้าผมอย่างแรงและกระแทกประตูใส่ผม....ระหว่างทาง
>กลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้.... พนักงานขาย ดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร...
>ผมให้เธอเขียนว่า...ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่

 กลับขึ้นบน
innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729
#1 วันที่: 13/08/2006 @ 19:00:09 : re: ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง
[b:167aef184d">.0005 ..ฉลาดจัง.. . .0005 [/color:167aef184d">[/b:167aef184d">[/size:167aef184d">
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 15/08/2006 @ 12:53:33 : re: ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง
ดีใจ ที่จบด้วยความรัก ที่คิดได้ ไม่สายเกินไป ไม่ผิดซ้ำผิดซาก ในการกระทำที่เห็นแก่ตัวตนของตนเอง เพื่อความสุขนอกบ้านเล็กๆ น้อยๆ (ถึงว่า คำพูดที่ให้สัจจะไว้ สำคัญยิ่ง ชีพ ถ้าไม่แน่ใจก็อย่า ให้สัจจะกับใครเด็ดขาดนะ )
 กลับขึ้นบน
nokko
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 22
#3 วันที่: 15/08/2006 @ 17:31:33 : re: ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง
อ่านแล้วซื้ง จริง ๆ ค่ะ เยี่ยมเลย .0002
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#4 วันที่: 16/08/2006 @ 19:26:39 : re: ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง
ดีนะที่กลับใจได้ กำลังจะสาปส่งอยู่พอดี ผู้ชายส่วนใหญ่ก็อย่างนี้พอเมียแก่ก็มองเห็นแต่สิ่งไม่สวยงาม แต่กลับไม่มองตนเองว่าน่าเกลียดพอๆกับเมียตัวเอง แถมมองไม่เห็นความดีที่ช่วยกันมาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตคู่ อนิจจัง
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com