หลังจาก ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ต้องหลุดออกจากเก้าอี้อำนาจที่ ทีพีไอ...ไม่นานนักเขาก็ประกาศความพร้อมกระโจนลงสู่สนาม การเมือง ด้วยการรับหน้าเสื่อเป็น นายทุน ให้กับพรรคประชาราช ในตำแหน่ง เลขาธิการพรรค ใครๆ ก็รู้ว่า ประชัย ต้องการเปิดเกมรุกกลับ..อำนาจมืดที่ตามเล่นงานเขาอยู่เบื้องหลัง และคนๆ นั้น ก็คือ ศัตรูทางการเมือง คนๆ เดียวกับของ เจ้าพ่อวังน้ำเย็น


แต่บุคคลที่จะมานั่งในตำแหน่งนี้ได้ เงินหน้าตัก ต้องแน่นพอ!!!

ประชัย กล่าวอย่างคับแค้นใจว่า กรณีทีพีไอ ถือเป็นบทเรียนตัวอย่างของผม เพราระบอบทักษิณคือการทำลายระบบทุน (ฝ่ายตรงข้าม) ทิ้งหมด เพื่อให้คงเหลือแต่กลุ่มทุนของเขาเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น

เพราะฉะนั้น ชีวิตของผมนับจากนี้ คงต้องเล่นการเมืองตลอดไป และคงจะไม่ได้กลับไปบริหารธุรกิจอีก เพราะช่วงที่เป็นนักธุรกิจพูดอะไรก็ไม่มีคนฟัง แต่เป็นนักการเมืองมีคนฟังเรา เพราะเราสามารถที่จะดำเนินนโยบายในด้านต่างๆ ได้

ก่อนเข้าสู่สนามการเมืองได้ไม่นาน ประชัย ก็กำลังเดินเกมรับ ด้วยหันกลับมาตั้งหลักกับฐานที่มั่นสุดท้ายที่ ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) พร้อมออกแผนจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 (ราคา 10 บาท) พร้อมออกขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ให้กับคนในตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ อีกเป็นจำนวน 857.7 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10.15 บาท

คิดรวมเงินเพิ่มทุนทั้งสองส่วนแล้ว เท่ากับว่ากลุ่มของ ประชัย จะต้องหาเงินมาซื้อหุ้นเพิ่มทุน TPIPL ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท

ขณะที่เขาก็ยังกล้าออกปากรับคำว่า หากขายหุ้นเพิ่มทุน TPIPL ไม่หมด จะรับซื้อหุ้นส่วนนี้ไว้เอง

แสดงถึงว่า เงินสดในมือของ ประชัย ยังมีอีกอย่าง เหลือเฟือ และพร้อมจะโอบหุ้นเพิ่มทุนเอาไว้แทบทั้งหมด

จนเริ่มเกิดการตั้งข้อสังเกตออกไปในวงกว้างว่า ประชัย นำเงินก้อนมหาศาลนี้มาจากไหน ?

กรณีแผนเพิ่มทุน TPIPL เราพร้อมอยู่แล้ว...เรื่องเงิน(หมื่นล้าน)ไม่มีปัญหา และอย่ามาสงสัยเลยว่าผมไปเอาเงินมาจากไหน ถึงยังมีเหลือมาเล่นการเมือง ไม่ต้องยุ่งกับเงินผมหรอก เรื่องเงินมันเป็นเรื่องเล็กสำหรับคนอย่างผม ประชัยตอบเชิงปัดรำคาญ พร้อมกล่าวต่อไปว่า

อายุผมขนาดนี้ เงินที่มีอยู่สามารถอยู่สบายๆ ได้ตลอดชีวิต ซึ่งตัวผมไม่จำเป็นต้องมาเล่นการเมือง ...แต่มันมีเหตุจำเป็นที่เราจะต้องยอมเหนื่อยอีกครั้ง

และแท้จริงแล้วการเมืองภายใต้ กกต. ชุดใหม่ พรรคการเมืองคงไม่ต้องใช้ทุนมากมายนัก...ถ้าจะใช้ก็เล็กน้อย และเงินที่ใช้มันก็เป็นสมบัติของเรา ที่ได้มาอย่างความขาวสะอาด

มองย้อนไปในวันเปิดตัว พรรคประชาราช อารมณ์ของ ประชัย ค่อนข้างจะแสดงถึงความมั่นใจกับ เงินทุน ที่เขาถมเข้าไป

เล่นการเมืองถ้าไม่ได้ร่วมการจัดตั้งรัฐบาล...ก็อย่าเล่นเลยดีกว่า เพราะเห็นกันอยู่ว่าหลายคนหมดเงินไปเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม แหล่งที่มาของเงินทุนนับ หมื่นๆ ล้านบาท ของตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ ก็ยังคงถูกทิ้งปริศนาไว้ ขณะที่ ประชัย ก็พยายามจะไม่เปิดเผยว่า กระสุน บนหน้าตักของเขามีอยู่มากเท่าไร

แต่จากเส้นทางชีวิตบนถนนธุรกิจของประชัย ก็พอวิเคราะห์พฤติกรรม ตุนเงิน ของเขาได้ตั้งแต่ปี 2538 ที่ ทีพีไอ ทำสัญญาเช่าอาคารทีพีไอ ทาวเวอร์ จาก บ.พรชัย วิสาหกิจ ของตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ เป็นระยะเวลานานถึง 90 ปี

...พร้อมจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเป็นจำนวน 956.84 ล้านบาท

นี่คือสิ่งพิสูจน์ความคุ้นเคยกับบ้านหลังเดิม (ทีพีไอ) ของตัวเอง ที่เขานั่งบริหารงานเป็นเวลานานกว่า 28 ปี (ตั้งแต่ปี 2521) จึงไม่ผิดอะไรที่ ประชัย จะล่วงรู้และเชี่ยวชาญกับทางเข้า-ออกของเงินในบริษัทแทบทุกซอกทุกมุม

อีกกรณีคือ การที่บริษัทลูกของ ทีพีไอ ทั้ง 5 แห่งเกิดการ งัดข้อ กับผู้บริหารชุดใหม่ ในประเด็นการส่งงบการเงินให้กับบริษัทแม่ ทั้งๆ ที่ ทีพีไอ ถือหุ้นในบริษัทกลุ่มนี้เต็มทั้ง 100% แต่กลับไม่มีอำนาจควบคุมหรือสั่งการ...แต่กลับยังถูกบงการโดยครอบครัวเลี่ยวไพรัตน์

จึงยิ่งหายแปลกใจกับ ช่องทาง สะสมเสบียงจากแหล่งต่างๆ ซึ่งครอบครัว เลี่ยวไพรัตน์ ล่วงรู้ทางเข้าออกของบ้านหลังเดิมแทบทุกประตู

อีกแหล่งเงินหน้าตักที่ค่อนข้างมองเห็นชัดเจนคือ หุ้น(เดิมทีพีไอ)ที่ครอบครัวเลี่ยวไพรัตน์เคยถือหุ้นอยู่จำนวนมาก แต่ปัจจุบันหุ้นส่วนนี้ถูกทยอยขาย เพื่อแปลงเป็น เงินสด จนเกือบหมดแล้ว

นอกจากนี้ ยังมี ทีพีไอ โพลีน ซึ่งมีรายได้ไหลเข้าสู่บริษัทอีกมากกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท ที่ยังคงอยู่ภายใต้อำนาจของคนเลี่ยวไพรัตน์ ขณะที่ราคาหุ้น TPIPL ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา...ก็ยังยืนเหนือราคา 20 บาทมาตลอด แล้วคล้ายถูก แรงกด ให้ราคาต่ำลงเหลือใกล้ 10 บาท ก่อนจะมีการประกาศแผนเพิ่มทุนในเวลาต่อมา

และอาจจะมี ปลาใหญ่ แอบเข้ามาตุนเงินสดในช่วงที่ราคาหุ้นแพง...ไปก่อนหน้า

ทั้งหมดคือ แหล่งเงิน ที่ทำให้ ประชัย กล้าโยนเงินกว่า หมื่นล้านบาท เข้าสู่ตลาดหุ้น และยังเหลือพอที่ถมให้กับการเมือง

ผมไม่ได้คาดหวังขนาดว่าจะได้ทีพีไอกลับคืนมาหลังจากเล่นการเมือง ...แต่แท้จริงแล้ว สมบัติของใครก็ต้องเป็นของคนนั้น สมบัติของผมก็ต้องเป็นของผม เกมเปิดบัญชีแค้นของ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เริ่มต้นขึ้นแล้ว

****************************************************

.0003 นายประชัย ชอบโกงบริษัทตัวเอง ชอบโกงผู้ถือหุ้น

เขาเรียกคนเลวผสมกะคนเลวรึเปล่า ยังสงสัยว่าจะมีคนไปเลือกไหมถ้าไม่ใช้เงินว่าน สงสัยๆๆๆๆ .0001