May 3, 2024   1:59:15 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 11/08/2006 @ 23:08:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

พูดถึงแม่ อาจมีคำตอบมากมายจากลูกหลายคนที่จะเลือกตอบ ในคำถามที่เกี่ยวกับแม่
แต่ในแง่ความรู้สึก ต่อให้เราค้นหาไกลจนสุดโลก ก็จะพบว่า...
มี ?ผู้หญิง? เพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึก ?ปวดร้าวยิ่งกว่า? ความเจ็บปวดของคนทั้งโลก เมื่อลูกของตัวเจ็บ[/color:fd2d804464">[/size:fd2d804464">

ไม่ต้องมีเทศกาลใดๆ มาบอกเรา...
คนทุกคนย่อมรู้อยู่ในใจว่า แม่ คือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเราในทุกๆ วัน [/color:fd2d804464">[/size:fd2d804464">

เมื่อมีคนได้รับรางวัล มีชื่อเสียงเกียรติยศในสังคม
บ่อยครั้งที่ผู้คนลืมคิดถึงผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น
บ่อยครั้งที่เบ้าหลอมหรือผู้ผลักดันคือแม่..ถูกลืม ทั้งๆที่แม่เป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตลูก
บางเวลาการให้ความใส่ใจ พินิจบทบาทของแม่ในบางเสี้ยวชีวิตของลูก
จึงมีความหมายมากกว่าการพูดว่า รัก หลายเท่า.. ในหลายๆ ประสบการณ์ที่แตกต่างของแม่[/color:fd2d804464">[/size:fd2d804464">

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 11/08/2006 @ 23:22:47 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
** 1. ปี 2548 วันอาทิตย์แสนเศร้า ...
วันที่ วาสนา ยิ้มเจริญ ผู้จัดการโรงงาน ไทยยูเนียนซีฟู้ด จังหวัดสงขลา จะต้องจดจำไปจนวันตาย คือ...
เธอนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ปลายทางสนามบินหาดใหญ่
เครื่องจะต้องลงตอนสองทุ่มครึ่ง มีสามีและลูกชายมารอรับ
แต่ทว่าในระหว่างทางนั้นเธอทราบจากกัปตันว่าผู้โดยสารจะไม่สามารถเข้าไปที่สนามบินได้ เพราะมีเหตุฉุกเฉิน
เธอผ่านเวลาแห่งความกระวนกระวายนานหลายนาที
จนเมื่อนั่งรถตู้ออกมาด้านหน้าของสนามบินแล้วนั่นแหละ จึงรู้ความจริงว่า
สามีและลูกชายรวมอยู่ในกลุ่มผู้เคราะห์ร้ายผู้ถูกสะเก็ดระเบิดที่เกิดขึ้นในสนามบินหาดใหญ่วันนั้น [/color:b3908b4799">[/size:b3908b4799">

เธอย้อนความรู้สึกในเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า..
?พอเห็นร่างสามี รู้สึกเหมือน อกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เป็นความเจ็บปวดเกินบรรยาย
เคยอ่านวรรณคดีที่เขียนถึงความเสียใจจน.. อกแตกตาย
ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกเดียวกันไหมเหมือนจะหยุดหายใจ? [/color:b3908b4799">[/size:b3908b4799">

แต่คนที่หยุดหายใจไปไปจริงๆ แล้วคือสามีของเธอ..
แน่นอนว่าในเหตุการณ์นั้นมีคนอื่นอีกหลายคนที่ได้รับความเจ็บปวด
แต่วาสนากลับกลายเป็นคนเข้มแข็งที่สุดท่ามกลางความพยายามยื้อชีวิตลูกชาย
โดยมือคณะแพทย์ทุกคนที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทว่าลึกๆ แล้ว ไม่มีใครทุกข์ทรมานมากไปกว่าเธอ [/color:b3908b4799">[/size:b3908b4799">

ถึงโรงพยาบาล น้องแทนอยู่ในห้องผ่าตัด หมอบอกว่าอาการหนัก แรงระเบิดถูกตาขวา หน้าท้องเปิด
มีแผลไหม้ทั่วตัว เลือดคั่งในสมองเล็กน้อย
น่าจะดูอาการใกล้ชิดนาทีต่อนาที คาดว่าจะอยู่ไอซียู สองถึงสามเดือน [/size:b3908b4799">

จากชั่วโมงนั้น ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป ...
หมอทำแผลให้น้องแทนวันละสองครั้ง เรารู้ว่าเจ็บมากอยากหาทางช่วยลูก
มีคนแนะนำว่าให้นำแผ่นหยกมาวางไว้ใกล้ตัวคนป่วยจะช่วยลดความร้อนและความเจ็บปวด..
ในระหว่างนั้นกลางวันเฝ้าลูก...ตอนค่ำไปงานศพสามีที่วัด[/color:b3908b4799">[/size:b3908b4799">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 11/08/2006 @ 23:25:54 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
ระหว่างทำแผล ดิฉันบอกให้ลูกเข้มแข็ง อดทน อีกไม่นานก็หาย แล้วอาการทั้งหมดจะผ่านจากลูกมาที่แม่?
พูดเหมือนพล่าม แต่รู้ว่าลูกฟังอยู่ ไม่ได้พูดเปล่า ยังกอดเขาตลอด
คิดว่าความอบอุ่นจากแม่สู่ลูก น่าจะมีส่วนทำให้เขามีพลังต่อสู้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

วันที่หมอดึงสายยางออกจากปาก น้องแทนเรียกแม่ได้ แต่ออกเสียงไม่ชัด

เขาอยากกลับบ้านและอยากเจอพ่อ ดิฉันบอกว่าพ่อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
พ่อบาดเจ็บมากกว่าเขา เขาเลยถามว่าเป็นเพราะพ่อบังตัวเขาไว้ใช่ไหม..

หลังจากพาลูกกลับบ้านได้ เธอไม่อยากมีสังคม
เพราะความทรงจำเก่าๆ ทำให้เธอเจ็บปวด ..แต่วันเหล่านั้นผ่านไปแล้ว
วันนี้ ตัวอย่างชีวิตของวาสนาและลูกได้กลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง[/color:9f1489222a">[/size:9f1489222a">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 11/08/2006 @ 23:29:05 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
**2. ความรู้สึกที่ต้องดูแลคนที่เรารักในเวลาเดียวกันในหลายๆ ทาง
เป็นอีกประสบการณ์ที่ ยุพา เพ็ชรฤทธิ์ รัตนจันทร์
สาวนักข่าวพิธีกรและงานสื่อมวลชนเต็มมือ ผู้ไม่เคยหวั่นงานหนัก
เพราะฟูมฟักตัวเองด้วยรอบพิกัด เดินทางไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
สามารถถ่ายทอดให้ฟังได้อย่างน่าเห็นใจกับการเลี้ยงลูกสาว 3 คน

เธอเคยเผชิญกับความทุกข์แสนสาหัส คือตอนที่ลูกสาวคนเล็กเพิ่งคลอด
พ่อของเธอป่วยเป็นมะเร็ง อาการห่วงหน้าพะวงหลังของผู้หญิงลูกสาม

เมื่อลูกคนที่ยังเล็กอยู่มากก็ป่วย ลูกคนกลางตอนเล็กเป็นลมชักบ่อยๆ หาหมอแทบทุกอาทิตย์
ลูกสาวคนโตก็เป็นภูมิแพ้ บางวันลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้น
ส่วนคนเล็กคลอดใหม่ๆ ท้องป่องมาก เพราะไม่ยอมถ่ายขี้เทา เกือบจะต้องโดนผ่าตัด
ต้องสอดท่อดูดน้ำออกจากท้อง เห็นภาพลูกแทบหมดแรง
หมอบอกต้องผ่าตัด แล้วเด็กเล็กผ่าตัดต้องยกตับไตไส้พุงออกหมด คิดแล้วก็ร้องไห้

ยุพาโชคดีกว่าวาสนา เพราะสามีเธอยังอยู่ ..
แรงใจที่สำคัญส่วนหนึ่งได้มาจากสามีที่ดี เป็นเพื่อนชีวิตที่ดี
และทำให้เธอรู้สึกว่าครอบครัวของเธอมีความสุข แม้จะไม่มีลูกชายเพื่อสืบสกุลพ่อ[/color:604823e0e5">[/size:604823e0e5">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#4 วันที่: 11/08/2006 @ 23:32:38 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
**3. นับว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของ อัฐพรพิมพ์ สมบัติเจริญ ที่ชาตินี้ไม่มีวันลืม
ความรู้สึกเศร้าเสียใจของแม่ เมื่อ ลูกสาวคนเดียว น้องพีซ ศศิตา สมบัติเจริญ
นักศึกษาปี 3 คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กินยาลดความอ้วนจนชีวิตเกือบเสียศูนย์

เธอสารภาพอย่างเสียใจว่า..
เมื่อเห็นลูกป่วย คงไม่สะเทือนใจเท่าที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่สุด
เมื่อรู้ว่าลูกพยายามลดความอ้วน หลังจากติดยาลดความอ้วนอย่างรุนแรงแล้ว
ก็มีความพยายามจะฆ่าตัวตายถึงสองครั้ง
ครั้งแรกคือ ลูกกระโดดจากหน้าต่างห้องนอนตัวเอง แต่แม่เข้าไปทัน ล็อกตัวไว้
และอีกครั้งเมื่อน้องพีซกรอกยาเข้าปาก เกือบ 50 เม็ด แต่โชคดีที่ขวดยาตกลงตรงที่แม่เดินมาพอดี
แม่จึงรีบลากน้องพีซเข้าห้องน้ำ เอานิ้วล้วงเข้าไปในคออย่างแรง

คิดมาตลอดว่า เป็นความผิดของเรา ทำไมเราไม่เฉลียวใจหรือสงสัยในตัวลูกบ้าง
ทั้งๆ ที่พี่สาวบอกว่าพีซแอบกินยาลดความอ้วน แต่พอเรียกมาถาม เขาก็ปฏิเสธ
ตอนนั้นเชื่อใจลูก เพราะเลี้ยงเขามาแบบเป็นเพื่อน ไม่น่ามีความลับ
แต่จากเหตุการณ์นี้ รู้แล้ว ว่าพ่อแม่ต้องคอยเป็นหูเป็นตาแทนลูก
วันที่เขากรอกยาเข้าปากเพื่อฆ่าตัวตาย เป็นความรู้สึกที่โหดร้ายมาก

จากเด็กเล็กๆ ขี้อ้อน กลายเป็นคนป่วยที่ควบคุมสติตนเองไม่อยู่
วันนั้นแม่ตีเขาอย่างแรง ตีทั้งน้ำตา อยากให้เขารู้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก
ใจกังวลมาก ไม่รู้ว่าเขาจะหายไหม เราจะมีชีวิตอยู่ดูแลเขาได้นานสักแค่ไหน
แทบทุกคืนจะอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าอยากตื่นขึ้นมาเห็นลูกเป็นปกติโดยเร็ว
ตลอดเก้าเดือนที่ดูแลพีซ แม่ไม่เคยนอนหลับได้เต็มตา
ซึ่งเป็นความทรมานส่วนหนึ่งที่เกิดมาจากเราเองที่ชะล่าใจ

นั่นคือถ้อยคำจากดวงใจ ของภรรยานักร้องลูกทุ่ง สุรชัย สมบัติเจริญ [/color:cb39706422">[/size:cb39706422">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#5 วันที่: 11/08/2006 @ 23:39:41 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
**4. แม้เหตุการณ์ที่พลิกชีวิตทุกคนในครอบครัวผ่านมานานหลายปีแล้ว
แต่เมื่อทวนความหลัง สุ้มเสียงเครือของ สุนีย์ ละไล..
หญิงวัย 61 ปี ผู้เป็นมารดาพิธีกรคนดัง กฤษณะ ไชยรัตน์ ก็ยังทำให้คนฟังสะเทือนใจได้

อ๋อยเป็นลูกชายคนเดียว และเขาเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่สาวสามคน
ตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนร่าเริง ชอบสะสมพระ พอทำงานเป็นนักข่าว ก็ยิ่งเดินทางบ่อย
ไม่ค่อยได้อยู่พบหน้ากัน แม่กับพ่อแยกทางกันอยู่ แต่อ๋อยพบพ่อบ่อย พ่อกับลูกชอบคุยกับเรื่องพระ

กฤษณะ ไชยรัตน์ ดังขึ้นมาจากการเป็นพิธีกรรายการข่าวทีวี สังกัดค่ายเนชั่น
ก่อนหน้านั้นเขาเป็นนักข่าวสายการเมืองมือดี
มีส่วนร่วมกับทีมข่าวเนชั่นในการทำรายการข่าวสถานีไอทีวียุคบุกเบิก

วันที่เคราะห์ร้ายมาเยือน คือประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ
ระหว่างการเดินทางไปทำข่าวในจังหวัดหนึ่ง ของภาคตะวันออก

วันนั้น แม่รับโทรศัพท์จากที่ทำงานของอ๋อย มีเสียงผู้หญิงโทรมาบอกว่าจะบอกข่าวไม่ค่อยดี..
คือ อ๋อยขาหัก กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท...แม่ได้ยินแค่นั้นก็ทิ้งหูโทรศัพท์เลย ทนฟังต่อไม่ได้
ให้พี่สาวเขามาพูดต่อจำไม่ได้ว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไร
รู้แต่ว่าตกใจ เสียใจสุดๆ ไม่เคยคิดไม่เคยนึกว่าจะมาเกิดกับลูกเรา
พี่สาวทุกคนมีภาระมีครอบครัว แต่ก็พยายามช่วยกันผลัดกันรักษาเขา
ที่ทำงานเขาก็ดูแลดี แรกๆ อยู่โรงพยาบาลเอกชน แม่ก็ไปเฝ้าเขาตลอด นานหลายเดือน[/color:cb44c57ebb">[/size:cb44c57ebb">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#6 วันที่: 11/08/2006 @ 23:42:39 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
กฤษณะอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนสองสามแห่ง ซึ่งค่าใช้จ่ายแพงมาก
เขาต้องมีพยาบาลคอยดูแลตลอดเวลา
ต่อมาภายหลังย้ายไปศิริราช เพื่อทำกายภาพบำบัด
ฟื้นอวัยวะอื่นๆ ให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม เว้นแต่ร่างกายจากท่อนเอวลงไป
ทุกวันนี้เขานั่งรถเข็นไปไหนมาไหนและจัดรายการคุยข่าวทางทีวีหลายช่อง

แม่อยู่กับเขาตลอด ที่จริงเขาเป็นลูกชายที่ไม่ค่อยติดแม่หรอก แต่เราสงสารลูก
ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เครียดเลย ตอนที่ยังลุกไม่ได้ วันๆ เขาได้แต่ถาม เวลา กี่โมงแล้วแม่
แม่รู้ว่าเขาเคยทำงานไปโน้นมานี่ พอไปไหนไม่ได้คงอึดอัด เรามีความหวังว่าจะรักษาเขาให้หาย
เวลาไปไหว้พระที่ไหน แม่ก็จะขอพระตลอด ทั้งหลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดโสธร
แต่แม่ก็รู้สึกว่า คงเป็นเวรกรรมที่ทำมาชาติก่อนๆ ..
เป็นแค่นี้แม่ก็ว่าดีกว่าเขาตายจากไป เพราะนี่เขาก็ยังอยู่กับเรา ยังได้เห็นเขาอยู่
เขาทำงานหนัก หาเงินได้เยอะ แต่ก็ใช้เยอะ เพราะชอบพระ เช่าพระแพงๆ ด้วย

ขณะนี้แม่เป็นโรคเบาหวาน ต้องกินยาสม่ำเสมอ
เธอเป็นตัวอย่างแม่ผู้ต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง เพื่อให้กำลังใจลูกชาย

อาจจะยังมีแม่อีกหลายคนที่มีลูกเป็นคนเก่ง มีชื่อเสียง มีการงานที่ดี แต่ต้องพิการตลอดชีวิต[/color:a0db4f64ff">[/size:a0db4f64ff">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#7 วันที่: 11/08/2006 @ 23:47:19 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
**5. ในวงการธุรกิจเครื่องสำอางของคนไทยด้วยกัน คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิภารดี ภูวนาถนรานุบาล

เธอคือ คุณป้อม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นสตรีแสนสวย..
เนี้ยบในเรื่องบุคลิกภาพและความงามตั้งแต่หัวจดเท้า คือภาพที่สังคมรู้จัก
เมื่อกล่าวขานถึงมาตรฐานความเนี้ยบอันอยู่ยงคงกระพันของสตรีวัยเกิน 50 ปี

แต่น้อยคนจะรู้ว่าใบหน้าแสนงามของเธอใช้สายตาได้เพียงข้างเดียว เธอผ่านเหตุการณ์สุดเศร้า
ที่เสียดวงตาข้างหนึ่งเพราะการฉีดสเปรย์ผมพลาดไปเข้าตาขณะแต่งตัวจะไปงานที่ประเทศสิงคโปร์
เรื่องที่เธอสูญเสียดวงตา เกิดหลังเรื่องที่สูญเสียชีวิตแต่งงานครั้งแรก
เพราะนั่นคือผลของนิยายชีวิตเรื่องเศร้ายิ่งกว่าละคร เริ่มขึ้นตอนที่ลูกสาวป่วย

?พอมีลูกสาว ก็ต้องเผชิญเหตุการณ์ที่เครียดที่สุดในชีวิต
น้องพิณเพิ่งจะเรียกแม่ได้ ก็ต้องผ่าตัดเกือบทุกเดือนเพราะเป็นพังผืดรัดลำไส้
เมื่อผ่าตัดเสร็จ หมอสั่งให้กินนมได้แค่หนึ่งช้อนชา ทุกๆ ชั่วโมง ซึ่งลูกจะหิวและร้องตลอดเวลา
ดิฉันก็ปฏิบัติตามคำสั่งหมอ แต่ด้วยความรักและความสงสารของผู้ใหญ่
เด็กตัวเล็กแค่นี้ทำไมต้องทรมานปานนี้ ท่านก็ป้อนนมให้เป็นขวด วันรุ่งขึ้นต้องอุ้มลูกไปโรงพยาบาล
ดิฉันเห็นภาพลูกถูกเจาะสายน้ำเกลือจนกระทั่งเส้นเลือดบวม
ต้องผ่าตัดสอดสายน้ำเกลือเข้าที่ขา และให้น้ำเกลือที่ศีรษะ
ต้องคอยลุ้นคอยเฝ้า ภายใน 24 ชั่วโมงไม่ให้อาเจียน เพราะลูกอาจจะต้องผ่าตัดใหม่

เมื่อจมอยู่กับลูก และดูแลลูกอย่างใจจดใจจ่อ..
เหตุการณ์ที่ตามมากระหน่ำความทุกข์คือสามีเอาใจออกห่างไปมีอื่น

ทุกวันนี้ แม้ลูกจะโตแล้ว และเธอมีคู่ชีวิตใหม่แล้วอย่างมีความสุข
คุณป้อมก็ไม่เคยลืมเสี้ยวชีวิตที่ทำให้เธอลิ้มรสความเจ็บปวดในความรัก
ทั้งรักที่มีให้ลูกและและรักที่มีต่อพ่อของลูก...[/color:5dcc4dbd2e">[/size:5dcc4dbd2e">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#8 วันที่: 11/08/2006 @ 23:51:00 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
**6. ภายหลังจากที่ครอบครัว ตระกูล พรประภา ยอมยกลูกสาวให้ตระกูล ณรงค์เดช
ทั้งสองฝ่ายจึงมีโอกาสภูมิใจในตัว คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช
ในฐานะมือบริหารที่โดดเด่นของค่ายสยามกลการ

คุณหญิงมีลูกชาย 3 คน เนื่องจากครอบครัวเป็นผู้มีฐานะร่ำรวย
ปัญหาของคุณหญิงจึงไม่ได้อยู่ที่ความยากจนขัดสน
การเลี้ยงลูกในครอบครัวจึงไม่มีปัญหาใดๆ เพราะมีคนแวดล้อมทั้งบริวารและญาติพี่น้องคับคั่ง
เด็กชายทั้ง 3 คนได้รับความรักความอบอุ่นเหลือล้น
พวกเขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวคนจีน ย่อมได้รับแต่สิ่งดีๆ เพื่อฟูมฟักให้เป็นทายาทที่ดี สืบตระกูล
เมื่อเป็นหนุ่ม เขา 3 คนมี 3 บุคลิก คือ กฤษณ์ - นพ - กร ณรงค์เดช

คุณหญิงจำได้ว่าชีวิตไม่เคยทุกข์ร้อนอะไร เธอชอบทำบุญทำกุศลเพื่อคนอื่นตลอดมา
แต่วันที่เครียดที่สุดในชีวิตคุณหญิงคือวันที่ลูกชายคนโต กฤษณ์ป่วยตอนอายุ 10 ขวบ

ไม่มีใครรู้ว่าเป็นอะไรแน่ หมอทั้งหมดช่วยกันวินิจฉัยกันหลายรอบ
เจาะเลือด เจาะไขสันหลังเช็คก็แล้ว เวลานั้นลูกเรียกหาแต่แม่..
แม่.. อย่าปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวนะ แม่อย่าทิ้งลูกนะ ..
ปรากฏว่าคราวนั้น พบว่าลูกมีอาการทั้งหมดเพราะสายตาสั้น ซึ่งเดี๋ยวนี้ทำเลสิคไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ช่วงที่ทรมานมากคือ ไม่รู้ว่าลูกป่วยเป็นอะไร
เราคิดว่า ตั้งแต่เราเกิดมาเป็นตัวเป็นตน ไม่เคยทำกรรมเวรกับใคร
หวังว่าอานิสงส์นี้จะช่วยเราได้ ไม่ให้ลูกต้องเป็นอะไรมาก เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงและจะคุ้มครองเรา[/color:b48871aa5f">[/size:b48871aa5f">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#9 วันที่: 11/08/2006 @ 23:54:11 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
ต่อมา นพ.. ลูกคนที่สอง ซึ่งมีนิสัยเป็นคนไม่ค่อยพูด อึด อดทน

ตอนอายุ 3 ขวบ เขาเป็นไข้เลือดออก
ที่น่ากลัวคือ อาการไม่แสดงออกมาข้างนอกเลย อาการหลบในหมด
พาไปหาหมอ เลือดออกเป็นกะละมัง ทีแรกที่เห็นตกใจคิดว่าลูกไปแคะจมูกเลือดกำเดาไหล
น้องนพมีโรคประจำตัวคือเลือดกำเดาออกบ่อย

แม่กลัวมากว่าเขาจะเป็นอะไร พอรู้ว่าเป็นโรคที่ไม่มีใครนึกถึงเลยคือโรคไข้เลือดออกก็ตกใจ
ห่วงลูกมาก บ้านเราก็คงมีตุ่มน้ำ หรือลูกไปได้เชื้อมาจากโรงเรียน
เราป้องกันไม่ได้ ได้แต่รักษา แต่เป็นช่วงที่ประสาทเสียไปเลย

สำหรับคนมีเงินย่อมถึงมือหมอทันการเสมอ
ได้รับการดูแลอย่างดีจากคณะแพทย์ในโรงพยาบาลชั้นหนึ่ง
แต่คุณหญิงก็เฝ้าดูแลลูกตลอดเวลานานเป็นเดือน ไม่ยอมห่างไปไหน
ด้วยความรู้สึกกลัวสารพัดว่า ลูกจะเป็นอะไรไป
ในเวลาเช่นนั้น คุณหญิงยอมจ่ายทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายหายป่วย
เวลาทั้งหมดในชีวิตที่เคยมีกับกิจการงาน เธอต้องจัดใหม่
เวลาที่มีในแต่ละวันลูกมาก่อนเป็นอันดับแรก ทุกอย่างเป็นเช่นนั้นมาจนถึงทุกวันนี้

ทุกปีครอบครัวของคุณหญิงจะหาโอกาสไปเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้า
คุณปู่คุณย่าลูกๆ และหลานๆ ไปในถิ่นที่แปลกๆ เสมอ
รวมทั้งในสัปดาห์วันแม่ปีนี้ คุณหญิงเล่าด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
และอวดแผ่นซีดี ปกรูปคุณหญิงฝีมือลูกชายทั้งสามช่วยกันสร้างสรรค์[/color:09646e0e46">[/size:09646e0e46">


ก่อนถึงวันแม่ปีนี้ ลูกชายทั้งสามคนเขาแอบทำซีดี อัดเพลงที่เขาร้องให้แม่

ครั้นวันเวลาที่น่ากลัวผ่านพ้น คนรอบข้างมักได้ยินคุณหญิงพรทิพย์พูดเสมอว่า
ไม่มีแม่คนไหนมีความสุขเท่าดิฉัน ที่มีลูกชายดีทุกคน และครอบครัวอบอุ่นที่สุด

สำหรับปริมณฑลแห่งรักที่แม่มีต่อลูก แม้จะต่างฐานะต่างชนชั้น
แต่พื้นที่ในความรักของลูกนั้นเสมอเหมือนกันอย่างไม่จำเป็นต้องอาศัยมาตรวัดใดๆ[/color:09646e0e46">[/size:09646e0e46">
 กลับขึ้นบน
innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729
#10 วันที่: 12/08/2006 @ 17:01:16 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
[b:e059e45873">หลากหลายความรู้สึก... .0005

ลูก ๆ อ่านแล้วก็ให้ความรักและห่วงใยกับแม่มาก ๆ นะจ๊ะ... .000A

ขอบคุณค่ะน้องจัน..... [/color:e059e45873">[/b:e059e45873">
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#11 วันที่: 12/08/2006 @ 18:38:53 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
.0005 .0005 .0005 .0005

อ่านแล้วรักแม่มากขึ้นกว่าเดิม

.......................................................................................................

ในทะเลทรายย่อมมีดอกไม้บานเสมอ[/color:abe80c0a44">
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#12 วันที่: 18/08/2006 @ 19:09:06 : re: หัวอกแม่..." ยามเมื่อลูกเจ็บ "
คิดถึงแม่ๆๆๆ .0002 .0002 .0002

ทำไงจะได้อยู่ใกล้ๆ แม่อีก .0002 .0002 .0002
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com