ใครหนอหาเรื่องดัน DE ปล่อยข่าวทุกอย่าง ใช้ชื่อ พายัพ และสุมิท เป็นตัวล่อ ขณะที่ผู้บริหาร IEC ปฏิเสธลั่นไม่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้บริหารยังสงวนท่าที คุยไร้หนี้ทำให้ใครๆ ก็อยากร่วมทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 ส.ค.) ราคาหุ้นบมจ.ดี อี แคปปิตอล หรือ DEปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง มีวอลุ่มหนาแน่น โดยราคาปิดที่ระดับสูงสุด 0.89 บาท ต่ำสูงสุด0.71 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท เปลี่ยนแปลง 27.14% มูลค่าซื้อขาย 204.36 ล้านบาทหลังจากมีข่าวลือตามห้องค้าว่า มีนักลงทุนจำนวน 2 รายแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในบริษัทดังกล่าว โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด และคาดว่าจะมีการเจรจาตกลงกันในรายละเอียดในเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้นักลงทุนมีข่าวว่าที่จะเข้ามาลงทุนใน DE ปรากฎว่ามีชื่อนายพายัพ ชินวัตร และนายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริงหรือ IEC ที่สนใจซื้อหุ้น อย่างไรก็ตามล่าสุดนายสุมิท ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่าไม่ได้สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในบริษัทดังกล่าว

ขณะที่นายวิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ประธานกรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัท ดี.อี.แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ DE กล่าวยืนยันว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าวมาจากไหน และยังไม่มีข้อมูลที่จะต้องรายงานให้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) รับทราบเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาขอข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อบริษัทให้ข้อมูลไปแล้วนักลงทุนเหล่านั้นจะพูดอะไรเกี่ยวกับความสนใจในตัวบริษัทก็ถือเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้

นักลงทุนสนใจอยากเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับเรา เพราะเห็นว่าบริษัทไม่มีภาระหนี้สิน จึงเข้ามาขอข้อมูลเพื่อนำไปศึกษา ส่วนจะคิดอย่างไรนั้นเดาใจไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2549 ขยายตัว 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 984 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากเครื่องใช้ไฟฟ้าประมาณ 80% และอีก20% เป็นรายได้อื่นๆ นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น แท๊กซี่ให้เช่าเพื่อซัพพอร์ตรายได้หลักที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้า

สำหรับรายได้จากธุรกิจรถแท๊กซี่ให้เช่านั้น คาดว่าปีนี้จะมีรายได้
ประมาณ 14 ล้านบาทต่อเดือน จากจำนวนรถให้เช่าทั้งหมดประมาณ 20-30 คันต่อเดือน โดยเชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวจะช่วยเสริมรายได้รวมให้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตามการแข่งขันของธุรกิจเช่าซื้อในปัจจุบันค่อนข้างที่จะรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายเร่งสร้างรายได้กันมากขึ้น

แม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น แต่เรามั่นใจในทีมงานที่มีคุณภาพ และมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มานาน และจากจุดแข็งดังกล่าวถือเป็นข้อได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่นๆ แต่ยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง ทำให้ทวงหนี้ได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงเน้นดูคุณภาพของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงมีการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียด ว่าสามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสียตามมา

นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ามากขึ้น เพื่อลดอัตราหนี้สินต่อทุน (ดี/อี) ไม่เกิน 0.42 เท่า พร้อมทั้งจะชะลอแผนการขยายสาขาตัวแทนจำหน่ายสินค้าไว้ก่อน เพราะปัจจุบันมีมากแล้วที่ 197 สาขา และภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยอาจทำให้เกิดปัญหาการจำหน่ายสินค้าได้ยากขึ้น

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า จากราคาหุ้น DE ที่ปรับตัวขึ้นมาเป็นเพียงการเก็งกำไรของนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น โดยการปล่อยข่าวลือตามห้องค้าออกมา เพื่อสร้างสตอรี่ใหม่หวังดึงนักลงทุนรายย่อยเข้าไปไล่ตาม ดังนั้นจึงอยากเตือนนักลงทุนที่จะเข้าไปไล่ตามต้องระมัดระวังอย่างมาก

ที่มา ข่าวหุ้นธุรกิจ[/color:610a159eb0">

nikei ปายน๋ายยยยยยยยยยย