ค่อนข้างพอใจกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นวานนี้เป็นอย่างมาก
เพราะแรงเทขายที่มีออกมาไม่ได้ทำให้ดัชนีเปลี่ยนทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลงแต่อย่างใด
รวมทั้งมูลค่าการซื้อขายที่ยังหนาแน่นเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ว่า
นักลงทุนจำนวนมากไม่ได้ทิ้งตลาดหุ้นเหมือนอย่างที่วิตกกังวลนะค่ะ

*ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
จนทำให้นักลงทุนต่างชาติหวนกลับเข้ามาซื้อหุ้นติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์แบบนี้
โมนิก้า ถึงมั่นอกมั่นใจว่าในไม่ช้าดัชนีจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 700 จุดอย่างแน่นอน

*เพียงแต่ตอนนี้ต้องผ่านแนวต้าน 692-695 จุดไปให้ได้เสียก่อน
ถึงจะมีแรงส่งดัชนีขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมอย่างถาวร
จังหวะนี้คุณๆ ท่านๆ ถึงต้องช่วยกันซื้อซื้อ ซื้อ เพื่อทำให้ดัชนีอยู่ในทิศทางขาขึ้นอย่างบูรณาการเจ้าค่ะ

*ส่วนนักลงทุนที่ยังหวาดระแวงว่า การขึ้นรอบนี้จะเป็นการหลอกไปเชือดเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ก็สบายใจได้เลยว่าเหตุการณ์เช่นนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก
เพราะตัวแปรหลายอย่างสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาไล่ซื้อหุ้นมากกว่าทุบหุ้นเอาของนะซี

*ช็อคซีนีม่า!...เมื่อเฮียไฝมหากาฬ
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประกาศว่าดีลควบรวมระหว่าง ATC กับ RRC
ต้องพิจารณาเรื่องรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมาเป็นลำดับแรกแบบนี้

โมนิก้า สุดแสนจะร้าวรานใจเป็นที่สุด
เพราะหากดีลดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดสิทธิประโยชน์ทางภาษี ก็จะล้มดีลใช่ไหมเจ้าค่ะ...
มิน่าผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านถึงแนะนำเดี๊ยนและนักลงทุนว่า
คบคนจะดูที่หน้าอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูไฝด้วยนะค่ะ...อิ อิ อิ

*นักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้น RRC ก็ควรสำเหนียกว่า ราคาหุ้นตอนนี้แพงเกินพื้นฐานความเป็นจริง
ถ้าหากเห็นว่าแพงเกินไปก็ควรหาจังหวะปล่อยหุ้นออกไปก่อน
หรือถ้าเห็นว่าดีลดังกล่าวไม่มีทางล้ม แล้วเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมก็ได้...

ส่วนตัวอีฉันเองไม่มีคอมเม้นท์เพราะคนสมัยนี้ รู้หน้าไม่รู้ใจ แถมชอบพูดอย่างทำอย่างอีกต่างหาไงหล่ะ...
ล่าสุดวานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 21.20 บาท บวกไป 0.70 บาท

*เดี๊ยนสงสารก็แต่ ATC แม่ยอดขมองอิ่มของ โมนิก้า
เพราะสุดท้ายอาจแห้งเหี่ยวเฉาตายเหมือนในอดีต
หลังเฮียไฝมหากาฬบอกเป็นนัยๆ ว่าดีลดังกล่าวอาจไม่เป็นไปตามที่หลายคนคาดคิด
ส่งผลให้ เพิ่มศักดิ์ชีวาวัฒนานนท์ ต้องทำงานหนักขึ้นเป็นกองเพียงเพราะความละโมบโลภมากของ...

*ในที่สุด เฮียสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย แห่ง TRAF ก็ถอดใจและยอมขายหุ้นทิ้งจนได้
ทั้งที่ก่อนหน้าทนทู่ซี้ขาดทุนมาหลายไตรมาส
แถมเหตุผลที่บอกแก่กระจอกข่าวนั้นตรงกับที่เดี๊ยนฟันธงไว้ทุกประการ

แบบนี้ โมนิก้า ถึงรู้สึกเป็นห่วงนักลงทุนที่เข้ามาเล่นหุ้นตัวนี้อย่างมาก
เพราะราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นแรงจนมาปิดที่ 0.94 บาท บวกไป 0.29 บาท
หรือขึ้นไป 44.60% ในคราวนี้ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐาน
หลังมูลค่าทางบัญชีของบริษัทอยู่แค่ 11สตางค์

*สำหรับหุ้นปั่นยอดนิยม IEC ยังคงแผลงฤทธิ์ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน
จนแฟนๆ ของโมนิก้าถามถึงเจ๊ภัทรียา เบญจพลชัย มั่วงมโข่งอะไรอยู่
ถึงไม่ออกมาจัดการกับหุ้นตัวนี้เสียที ทั้งที่มีข้อมูลผู้เกี่ยวข้อง 33 รายอยู่ในมือ...
ส่งผลให้คนทั่วไปเรียกร้องให้พี่โต้งกลับมาจัดการกับพวกเวรตะไลอีกครั้งอย่างนี้...
ท่านประธานวิจิตร สุพินิจเห็นด้วยไหมเอ่ย
เพราะวานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดถึงที่ 4 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไปกว่า 5% อีกแล้วนะค่ะ

*ยังไม่ได้เข้าตลาดหุ้นก็ดันมีเรื่องซะแล้วค่ะ สำหรับ หุ้นผ้าอ้อมอย่าง DGST
เพราะมีกระแสข่าวลือออกมาหนาหูเหลือเกินว่าหุ้นไอพีโอขายไม่ออก เลยกระจายให้ลูกค้าคนละพันหุ้น
อันนี้เรื่องจริงเป็นยังไงเดี๊ยนไม่ทราบ เค้าแค่เมาซ์กันให้ Z
แต่อย่างว่าข่าวห้องค้ามีทั้งจริงและปลอมปะปนกันไปหมด
เลยไม่รู้ว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก แหม! แต่นี่ละค่ะเสน่ห์ที่มัดใจนักเก็งกำไรทั้งหลาย

*SCB เริงร่าปิด 59 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
รับ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรมคว้ารางวัล Best CEO ซึ่งก็เป็นไปตามโผเด๊ะ

โมนิก้าก็ชื่นชมคุณหญิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เพราะบริหารแบงก์และบริษัทในเครือจนได้ ทั้งเงินทั้งกล่องมาหลายเวที
งานนี้ถือเป็นการปิดฉากการทำงานในวงการแบงก์ได้อย่างสวยงามค่ะ

*TPIPL ประกาศผลการดำเนินงานออกมาสวยหรู แต่ราคาไปไหนได้ไม่ไกลค่ะ
สุดท้ายกลับมายืนที่เดิม 10 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะเข้าข่ายข้างนอกสุขใส ข้างในเป็นโพรง
ก็จะไม่ให้พูดอย่างนี้ได้ยังไง ตัวเลขกำไรที่ออกมาไม่ได้มาจากความสามารถในการบริหารงานของบริษัทอย่างแท้จริง

*โมนิก้าว่าจะไม่เขียนถึงคุณพี่สุภัค ค่าย TMBแล้วนะเนี๊ยะ
คนกันเองไม่อยากตอกย้ำให้ช้ำใจไปกว่านี้
แต่เห็นราคาหุ้นแล้วอดใจไม่อยู่ เดี๊ยนขอแนะให้คุณพี่ไปหาหมอดูดวงชะตาแบงก์บ้างนะคะ
ว่าทำมั๊ยถึงได้กินทุนเหลือเกิน เพิ่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ
แถมคราวนี้ไม่มีตระกูลทองคำ พานท้องแท้ แพทองธารเข้ามาช่วยซะด้วยสิ
วายุภักษ์ก็กดราคาหุ้นซะต่ำติดดิน เฮ้อ! กลุ้มแทนคุณพี่จริง จริ๊ง...