P_aud สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 531 | วันที่: 22/07/2006 @ 12:43:13 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้บริหารของ บริษัท เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน)หรือCIRKIT ทั้ง 5ได้แก่ (1) นายศิวะ งานทวี ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร (2)นางวจนา ภูคาสวรรค์ รองประธานกรรมการ
(3) นายสุกิจ งานทวี กรรมการ (4) Mr. Lee Wolff กรรมการผู้จัดการ และ(5) นายสมบูรณ์ กริชชาญชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีการเงินและนำเข้าส่งออกรวมทั้งผู้สนับสนุนอีก 1 ราย ในกรณีที่เข้าข่ายการกระทำหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังทรัพย์สินของบริษัทเป็นของตนเอง เพื่อบุคคลอื่นหรือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบนั้น
การถูกตั้งข้อหาดังกล่าว ถูกโยงไปถึง บริษัท ทักษิณคอนกรีต จำกัด(มหาชน)หรือSCPและ บริษัท ไทยไวร์โพรดัคท์ จำกัด (มหาชน)หรือTWP ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มตระกูลงานทวี ต้องออกมาชี้แจงว่า ผู้บริหารกลุ่มดังกล่าว กลุ่มผู้บริหารดังกล่าวไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวโทษ และอยู่ระหว่างพิสูจน์ความบริสุทธิ์ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปใดๆในขณะนี้
การตอบกลับของกลุ่มตระกูลงานทวีครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิเสธเพื่อปกป้องตนเอง ตามกฎหมาย ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วคงต้องรอความถูกต้องจากคำตัดสินของศาล หลังจากที่ก.ล.ต.ได้ส่งเรื่องดังกล่าว ให้กับDSI เพื่อขอให้พิจารณาสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนคำถามตามมาที่ผู้บริหารของCIRKIT จะต้องตอบ คือ ผลการดำเนินงานจะกลับมาพลิกฟื้นมีกำไรได้เมื่อไร ???
-ที่มาของข้อกล่าวหา
ปัญหางบการเงินที่เรื้อรังของ บมจ. เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์ หรือ CIRKITที่ผู้ตรวจสอบบัญชีไม่สามารถรับรองความมีมาตรฐานทางบัญชี มีมาตั้งแต่ปี 2546 -2548โดยปัญหาความโปร่งใส ถูกค้นพบโดยผู้สอบบัญชีของบริษัท นางสาวทิพย์สุดา ชำนาญวนิชกุลผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3377 บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ลงความเห็นประกอบงบการเงินสิ้นงวดปี 2547 เอาไว้ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2548 เอาไว้ชัดเจน
โดยเฉพาะในเรื่องของลูกหนี้จำบังรายใหญ่ในต่างประเทศ ที่มียอดวงเงินสูงถึง 3103.1 ล้านบาท รวมทั้ง มีชื่อไม่ตรงกับลูกค้าที่บันทึกในระบบบัญชีของบริษัท ซึ่งข้อมูลที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ทำให้เกิดกระแสข่าวลือให้แวดวงการเงินว่า เป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงการผ่องถ่ายเงิน ที่ขัดกับหลักการเรื่องธรรมาภิบาล แต่เรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป
จนต่อมาในปี 2548 ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1. ลูกหนี้การค้าและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้งสัยจะสูญ โดยผู้สอบบัญชีอธิบายว่า ไม่สามารถส่งหนังสือยืนยันยอดคงเหลือสำหรับลูกหนี้การค้ารายใหญ่ของบริษัทฯ เนื่องจากลูกค้าได้ย้ายที่อยู่และไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนแล้วในปี พ.ศ. 2548 ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ในระหว่างรอคำสั่งจากศาลล้มละลายกลางให้ทำการฟื้นฟูกิจการตามแผนฯ ที่ได้ยื่นไว้ โดยบริษัทฯ จะประสานงานกับเจ้าพนักงานฯ ให้ดำเนินการติดตามการชำระหนี้หรือดำเนินการทางกฎหมายโดยเร็วที่สุด
2. การตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับเครื่องจักรรอการติดตั้งเกิน 1 ปี กล่าวคือบริษัทฯ ไม่ได้พิจารณาตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับเครื่องจักรรอการติดตั้งนานเกินกว่า 1 ปีเนื่องจากบริษัทฯ มั่นใจว่า เครื่องจักรดังกล่าว ยังสามารถนำไปใช้งานได้จึงมิได้มีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับเครื่องจักรดังกล่าว
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ ก.ล.ต. พิจารณาเห็นว่า อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังทรัพย์สินของบริษัทเป็นของตนเองหรือบุคคลอื่น หรือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ทำให้ CIRKIT ได้รับความเสียหาย อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 307 มาตรา308 มาตรา 311 และมาตรา 313 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้ถูกส่งต่อให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
-งานทวีปฏิเสธข้อกล่าวหา
ภายหลังจากที่สำนักงานก.ล.ต.เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ทำให้วันต่อมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขายชั่วคราว(H ) บริษัทไทยไวร์โพรดัคท์ จำกัด (มหาชน)หรือTWP เนื่องจากมีผู้บริหารกลุ่มที่ถูกกล่าวโทษนั่งเป็นผู้บริหารของTWP
จนทำให้ ฉัตรชัย ศิริวัฒนา ผู้บริหารของTWP ต้องออกมาชี้แจงข้อมูลว่า ผู้บริหารดังกล่าวได้ยืนยันกับบริษัทฯว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวโทษและอยู่ระหว่างพิสูจน์ความบริสุทธิ์ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปใดๆในขณะนี้
ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทดำเนินกิจการภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการซึ่งผลสำเร็จของแผนต้องอาศัยการบริหารงานของกรรมการดังกล่าว ประกอบกับเหตุการณ์ที่กล่าวโทษดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัทฯ บริษัทฯจึงไม่สามารถให้กรรมการทั้งสามท่านลาออกการกล่าวโทษดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯในอนาคตแต่อย่างใด
การชี้แจงข้อมูลในเชิงปฏิเสธของกลุ่มผู้บริหาร CIRKIT ที่ถูกกล่าวโทษ(ทั้ง 5 คน)จากสำนักงานก.ล.ต. ผ่านทางTWP นั้น แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้บริหารดังกล่าวมีความมั่นใจว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นกลุ่มตนไม่มีความเกี่ยวข้อง ซึ่งคำกล่าวโทษของก.ล.ต. กับ คำปฏิเสธของกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา คงต้องรอคำตัดสินจากศาลต่อไป
แต่สิ่งที่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในการล้างภาพความไม่โปร่งใส ของกลุ่มผู้บริหารCIRKIT คงไม่เห็นหนทางอื่นนอกจากการพลิกฟื้นผลการดำเนินงานบริษัทให้มีกำไรได้ต่อไปในอนาคตประวัติ ศิวะ งานทวี
หนึ่งในผู้บริหารที่ถูกกล่าวโทษ จากสำนักงานก.ล.ต. ที่น่าจับตาที่สุด คงหนีไม่พ้นศิวะ งานทวี ซึ่งเป็นหนึ่งในทายาทรุ่นที่สองของตระกูลงานทวี ซึ่งมีดำเนินธุรกิจยางพาราเหมืองแร่และปาล์มน้ำมันที่มีชื่อเสียง และเป็นที่เชื่อถือมากที่สุดในภูเก็ต และภาคใต้
ศิวะ จบการศึกษาบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยแคนซัส เริ่มชีวิตการทำงานที่บริษัทของครอบครัวในภูเก็ต ด้านกิจการเหมืองแร่ดีบุก หลังจากกลับมาจากแคนซัส เมื่อปี 2513 ต่อมาอีก 3 ปี ก็อาศัยทุนส่วนหนึ่งประมาณ 4 ล้านบาทจากเครดิตของบิดา (จ่ายตี่) ซึ่งเวลานั้นเป็นประธานกลุ่มบริษัท งานทวีพี่น้องมาลงทุน ทำการผลิตเสาเข็มคอนกรีต ในนามบมจ.ทักษิณคอนกรีตหรือSCP ด้วยเหตุผล 2 ข้อ
1. ต้องการป้อนเสาเข็มคอนกรีตให้กับโครงการธุรกิจก่อสร้างอาคารพาณิชย์จัดสรรขนาดใหญ่ในตัวเมืองภูเก็ตของครอบครัวทดแทนการซื้อจากแหล่งผลิตอื่น 2. ต้องการขยายฐานธุรกิจของครอบครัวออกไปจากความเสี่ยงที่เคยจำกัดวงอยู่ในธุรกิจแร่ ยางพาราที่แต่ละปีมีความผันผวนด้านการตลาดและราคาอย่างมาก
การเกิดของSCP มีความหมายทั้งด้านเชิงพัฒนาการ และเหนี่ยวรั้งความเติบโตของธุรกิจเครือข่ายกลุ่มงานทวีที่อยู่ภายใต้การดูแลของศิวะ กล่าวในเชิงพัฒนาการ ทักษิณคอนกรีตเป็นฐานที่สำคัญที่ส่งให้งานทวีเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่รัฐบาลขยายไฟฟ้าเข้าสู่พื้นที่ชนบทภาคใต้ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 5 ทำให้มีความต้องการเสาไฟฟ้าหลายแสนต้น
โดยที่ ศิวะลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากวันละ 5 คิว เป็น 50 คิว มีการออกไปตั้งโรงงานผลิตเสาไฟฟ้าเพื่อป้อนให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหาดใหญ่ เพื่อส่งไปที่เคียนซา นราธิวาส บ้านส้องและเวียงสระ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่กันดาร และเคลื่อนไหวของกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทยในภาคใต้ด้วยความเชื่อที่ว่าธุรกิจของทักษิณคอนกรีต จุดแข็งไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีการผลิตแต่อยู่ที่ต้นทุนขนส่งจากแหล่งผลิตไปยังปลายทางผู้ใช้
มันเป็นการขยายการลงทุนที่มีเหตุผลรองรับได้ดีมาก การผลิตเพิ่มขึ้นนับ 10 เท่าตัวขณะเดียวกันเงินทุนก็เพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านเป็น 16 ล้าน เป็นเครื่องวัดที่บ่งบอกว่าทักษิณคอนกรีตเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็เหมือนกับพระเจ้าได้กลั่นแกล้งเขา ขณะที่ทักษิณคอนกรีตกำลังไปได้ดีอยู่นั้น คลื่นการตกต่ำทางเศรษฐกิจก็โถมเข้าหารัฐบาลพลเอกเปรม ในขณะนั้นอย่างรุนแรง ปลายปี 2526
รัฐบาลตัดสินใจใช้นโยบายรัดเข็มขัดงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาฐานะเงินคงคลัง การตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีมีอัตราการเพิ่มเท่ากับศูนย์ การเพิ่มอัตราข้างราชการถูกระงับ โครงการลงทุนก่อสร้างของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่ยังไม่ได้ทำสัญญากับเอกชนให้เลื่อนไปก่อน
นอกจากนี้ทางกระทรวงการคลังยุคสมหมาย ฮุนตระกูล เป็นเจ้ากระทรวงยังได้ออกมาตรการเข้มงวดกับสถาบันการเงินจำกัดการขยายตัวของสินเชื่อไว้ไม่เกิน 18% และตามมาด้วยมาตรการลดค่าเงินบาทจากอัตราค่าเสมอภาคเงินบาทต่อดอลลาร์ที่ 23 บาทเป็น 27บาท
ความผันผวนของกระแสเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อไทยและการปรับตัวที่รวดเร็วอย่างอนุรักษ์นิยมในมาตรการทางการคลังและการเงินของรัฐบาล ส่งผลให้ธุรกิจน้อยใหญ่ที่ลงทุนขนาดใหญ่ก่อนหน้านี้มีอันต้องบาดเจ็บหรือล้มตายไปตาม ๆ กัน
SCP ของศิวะก็เสี่ยงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะงานป้อนเสาเข็มที่ประมูลได้มาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไม่เพียงจะประสบปัญหาราคาต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเหล็กเส้นที่นำเข้ามาใช้ในการผลิตมีราคาแพงขึ้นจากผลลดค่าเงินบาทเท่านั้น แต่ยังประสบปัญหาการหยุดจ่ายหนี้ประมาณ 170 ล้านบาทของการไฟฟ้าฯ ด้วย
ทักษิณคอนกรีต มีทุนจดทะเบียนเวลานั้น 16 ล้านบาท แต่มีหนี้สิน 200 ล้านบาท ขณะที่ลูกหนี้การค้าหยุดการชำระหนี้ทำให้การหมุนเวียนของกระแสเงินสดมีรายจ่ายเฉพาะค่าดอกเบี้ยอย่างเดียวมากกว่ารายรับมาก เขาต้องตั้งรายจ่ายถึง 30 ล้านบาท เพื่อตัดบัญชีลูกหนี้ค้างชำระเป็นหนี้สูญ จนเขาคิดมากถึงกับล้มป่วย
นี่คือประวัติเพียงบางส่วนของศิวะ งานทวี ผู้ที่ถูกสำนักงานก.ล.ต. กล่าวโทษ
ที่มา:
ข่าวหุ้น [/color:1396c87d53">
|