Market Sentiment ของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (2/11/47) ยังคงเป็น Neutral ทั้งนี้แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับลดลงต่ำกว่าระดับ US$50/BBL ในระหว่างการซื้อขาย แต่ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งในสหรัฐฯทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยังคงซบเซา นักลงทุนจะรอคอยอยู่นอกตลาดฯมากกว่าการกลับเข้ามาลงทุนในทันที เนื่องจากประเมินว่า คะแนนของผู้สมัครทั้ง 2 ราย อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน สำหรับปัจจัยในประเทศสถานการณ์ความ รุนแรงในภาคใต้เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปรกติ และคาดว่าจะไม่กระทบต่อการลงทุนมากเท่ากับ สัปดาห์ที่ผ่านมา แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศเริ่มปรับลดลง ขณะที่กองทุนในประเทศกลับ เข้ามาเป็นผู้ซื้อเพิ่มขึ้น CNS ประเมินว่าทิศทางการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ใน ระดับจำกัด เศรษฐกิจโลกที่ยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจะทำให้แนวโน้มภาวะการลงทุนในระยะ ยาวยังคงอยู่ในระดับดี CNS แนะนำให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ หุ้นกลุ่ม Commodity ที่ราคาปรับลดลงมากในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา (อาทิ ATC TOC VNT NPC SCC BANPU TTA PSL RCL SSI)ทิศทางตลาดเงินและตลาดทุน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dowjones และ Nasdaq ปรับตัวสูงเพิ่มขึ้น 26.92 จุด (+0.27%) และ 4.88 จุด (+0.25%) ปิดที่ 10,054.39 จุด และ 1,979.87 จุด ตามลำดับ ดัชนี ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับสูงขึ้นได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงถึงระดับ US$8/BBL แต่ ความวิตกกังวลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้การลงทุนอยู่ในภาวะซบเซา ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ดัชนีตลาดหุ้นต่างๆในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ และผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง อัตราแลกเปลี่ยนเงิน US$ ค่าเงิน US$ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก โดยได้ รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบ แรงขายทำกำไรส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าเดือนธันวาคม ปรับตัวต่ำกว่าระดับ US$50/BBL แต่สามารถกลับขึ้นยืนที่ระดับ US$50.13/BBL จากแรงซื้อ คืนในช่วงท้ายตลาดฯ ราคาสินค้าพื้นฐาน Baltic dry index ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 4,912 เป็น 4,922 ส่วน ราคาสินค้าอื่นๆคงที่ ตลาดหุ้นไทยดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ปิดที่ 626.96 จุด ปรับตัว ลดลง 1.20 จุดมูลค่าการซื้อขายรวม 9,110.20 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 159.03 ล้านบาท อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับ US$ ทรงตัว ปิดที่ 41.04 บาท/US$ปัจจัยในประเทศที่คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อการลงทุนวันนี้ สถาบันวิจัยหลักทรัพย์บางแห่งประเมินสถานการณ์ภาคใต้ลุกลามจุด GDP ปี 2548 ขยายตัวเพียง 3% ขณะที่เสถียรภาพด้านการเมืองของรัฐบาลอ่อนแอลง โดยที่ดัชนีตลาดฯจะปรับ ตัวต่ำกว่า 550 จุด(-) กระทรวงพาณิชย์เสนอซื้อไก่สดแช่งแข็งจากภาคเอกชนมูลค่า 6.2 พันล้าน เพื่อเพิ่ม สภาพคล่องให้กับภาคเอกชน ขณะที่การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกยังคงกระจายออกไปทั่ว ประเทศและคาดว่าในช่วงฤดูหนาวการแพร่ระบาดจะรุนแรงมากขึ้น (-) กรณี TPI ศาลล้มละลายกลางเลื่อนนัดฟังพิจารณาแผนปรับโครงสร้างหนี้ TPI ออกไป เป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน หลังลูกหนี้ยื่นคัดค้านแผนฯ และขอให้กระทรวงการคลังพ้นจาการเป็นผู้ บริการแผน (-) ธปท.รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคมปรับตัวสูงขึ้น 3.5% yoy ทั้งนี้เป็นผลจากการ ปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบ สำหรับอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10 เดือนแรกของปี 2547 อยู่ที่ 2.6% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ณ.สิ้นปี 2547 (-) กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าหมายการส่งออกปี 2547 ขึ้นอีก โดยคาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำ กว่า 22% (+) นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้นออกมาเพิ่มขึ้น (-)
| | เข้าชม: 1,156 |
|
