April 28, 2024   4:23:01 PM ICT
แบงก์รับอานิสงส์เงินไหลเข้า KBANK-SCB-BBLเด่นสุด
ทันหุ้น-กลุ่มแบงก์เฮรับเงินไหลเข้า ฟินันซ่าให้น้ำหนักมากกว่าตลาด ชู KBANK SCB BBL เด่นสุดในกลุ่ม แถมยังมีปัจจัยบวก รัฐบาลจ่อกู้ในประเทศหลังพรก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทผ่านสภา เชื่อปีนี้แบงก์ทั้งระบบกำไรโต 5% 


     บริษัทหลักทรัพย์ฟินันซ่า จำกัด(มหาชน) แนะนำ Overweight กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเน้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)หรือ KBANK ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)หรือ SCB และธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BBL เนื่องจากได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจและเม็ดเงินไหลเข้า 
     อีกทั้งยังมีประเด็นแผนการกู้เงิน 4 แสนล้านบาท ขั้นแรกคาดจะกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ 4 หมื่นล้านบาท


โดยรัฐบาลจะนำพรก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาสภาฯสัปดาห์หน้า โดยเม็ดเงินจากการกู้เงินตามพรก. ดังกล่าว จำนวน 2 แสนลบ.จะนำเข้าเป็นเงินคงคลัง และอีก 2 แสนลบ.จะใช้เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ในระยะแรกรัฐบาลคาดว่าจะทำการกู้เงินเพื่อสมทบเงินคงคลังก่อนโดยผ่านการออกพันธบัตร 80% ที่เหลือกู้โดยตรงจากธนาคารพาณิชย์ 20% คาดว่าขั้นตอนจะอยู่ในช่วง ส.ค.


     โดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการกู้เงินจากภาครัฐ ซึ่งเพิ่มเติมจากโครงการสินเชื่อสำหรับรัฐวิสาหกิจจำนวน 2 แสนลบ.ในช่วงต้นปี รายได้ดอกเบี้ยรับจากการให้กู้ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจอาจไม่สูงเท่ากับการปล่อยกู้ให้กับภาคเอกชน โดยอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อแก่ภาคเอกชนเฉลี่ยประมาณ MLR แต่อัตราเงินให้สินเชื่อภาครัฐคิดอิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก หรือราว 2-3% แต่ในยามสภาพคล่องส่วนเกินในระบบธนาคารพาณิชย์ที่มีมากขึ้น  ซึ่งสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากล่าสุดอยู่ที่ราว 85% จากปีก่อนที่ 90% และความเสี่ยงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL)จากสินเชื่อภาครัฐแทบไม่มี ทำให้การให้สินเชื่อแก่ภาครัฐถือเป็นทางออกที่ดีในการเพิ่มรายได้ดอกเบี้ยรับ


     อีกทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีปัจจัยพื้นฐานโดยรวมมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องเงินกองทุนที่อยู่ที่ราว 15%ของสินทรัพย์เสี่ยง และมีการควบคุม NPL ได้ในระดับที่ดีแม้ในช่วงวิกฤตสุดของเศรษฐกิจในรอบที่ผ่านมา เรายังคงประเมินกำไรสุทธิกลุ่มธนาคารปี 2552 จะเติบโตเฉลี่ยราว 5% จากปี 2551 แต่คาดว่าทุกธนาคารจะมีผลกำไร ถึงแม้ว่าความเสี่ยงที่ยังต้องพึงระวังในปี 2552 คือเรื่องNPL แต่ทุกธนาคารมีนโยบายตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯในระดับสูงต่อเนื่องในระยะเวลาที่เหลือในปีนี้และมากกว่าปีก่อนโดยได้รับแรงสนับสนุนจากเงินกองทุนที่มากพอขณะที่ยังคงสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้  


     นอกจากนี้ยังได้ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยปรับลดส่วนเกินความเสี่ยง (Risk Premium) ลงจากเดิม 12% เป็น 11% เนื่องจากความกลัวความเสี่ยงของนักลงทุนที่ลดลง
เข้าชม: 1,460

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com