ทันหุ้น-KBANK-BAY เนื้อหอมติด เครดิต สวิส พุ่งเป้าเชียร์เป็นหุ้นน่าลงทุน โบรกเชื่อ ทั้งราคาหุ้นทั้ง 2 แบงก์ได้อานิสงส์เต็มๆ เชื่อนักลงทุนมอง BAY ดีขึ้น หลังจากก่อนนี้ยังหวั่นจีอีอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่สหรัฐ ส่วน KBANK โบรกไทยเชียร์อีกแรง ชี้เป็นหุ้นใหญ่พื้นฐานดีน่าลงทุนอยู่แล้ว
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนในตลาดหุ้นไทยจาก “underweight” ขึ้นสู่ระดับ “overweight” โดยแนะนำเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มการเงิน ซึ่งให้น้ำหนักที่หุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK และหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY นั้น ย่อมส่งผลต่อเรื่องราคาหุ้นแน่นอน เพราะจะทำให้นักลงทุนในประเทศและต่างประเทศกล้าที่จะเข้าลงทุนในหุ้น BAY มากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ของ GE ที่เป็นบริษัทแม่ของ BAY ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้แรงซื้อในหุ้น BAY หายไปมากพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ฟินันซ่าได้คาดการณ์มาตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า BAY เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจสำหรับการเข้าลงทุนมาก ซึ่งหากมองในระยะสั้น BAY อาจมีความน่าสนใจสู้ธนาคารขนาดใหญ่ อย่าง BBL KBANK SCB และ KTB ไม่ได้ แต่ในระยะยาวแล้ว หากภาวะเศรษฐกิจในปี 2553 ฟื้นตัวได้ BAY จะเป็นหุ้นที่ดีมากตัวหนึ่งในกลุ่ม ทั้งจากการควบรวมกับ GE ซึ่งมีระบบบริหารงานที่ดี รวมไปถึงการเข้าซื้อ เอไอจี เพื่อรายย่อย ที่ทำให้ขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมาก และที่ผ่านมาราคาหุ้นของ BAY ก็ปรับเพิ่มขึ้นจนเกินราคาที่ควรจะเป็นแล้ว จากการคาดการณ์ในตอนแรกมองว่าราคาหุ้น BAY จะอยู่ที่ 11 บาท แต่ปัจจุบันสูงขึ้นไปถึงระดับ 14 บาท
ส่วนปัญหาเอ็นพีแอลของ BAY ก็ไม่น่าเป็นกังวลมากนัก ซึ่งการซื้อ เอไอจี เพื่อรายย่อยเข้ามาไม่ได้ทำให้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น เนื่องจากขนาดสินทรัพย์ที่ซื้อเข้ามามีจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท โดยมีเอ็นพีแอลเพียง 4% และเอไอจี เพื่อรายย่อย ได้ตั้งสำรองเอ็นพีแอลไว้ทั้งหมดแล้ว
นางสาวปาวีณา เดชอิทธิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนในตลาดหุ้นไทยและแนะนำเข้าลงทุนในหุ้น KBANK และBAY นั้น มองว่า KBANK ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจตัวหนึ่ง เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นของ KBANK มีการปรับตัวขึ้นมาโดยตลอด แม้จะเป็นการปรับตัวตามดัชนีกลุ่มก็ตาม
ในส่วนของหุ้น BAY คงต้องดูว่าทางเครดิต สวิส ใช้ข้อมูลอะไรในการวัดความน่าสนใจในการเข้าลงทุน เพราะ BAY ยังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วงอยู่หลายประเด็น ทั้งเรื่อง GE ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่นักลงทุนตั้งข้อสงสัยอยู่ว่าจะเข้ามาถือหุ้น BAY ระยะยาวเพื่อทำธุรกิจ หรือเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไรเหมือนที่บริษัทต่างชาตินิยมทำกัน
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ซึ่งหากเมื่อเทียบกับหุ้นธนาคารอื่นในกลุ่มจะเห็นว่าเอ็นพีแอลของ BAY ยังมีสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก ประกอบกับการเข้าควบรวมกิจการกับธนาคารเอไอจีเพื่อรายย่อยด้วยแล้ว ส่งผลให้รายจ่ายของ BAY เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่รายได้จากการควบรวมกิจการยังเกิดขึ้นไม่เต็มที่ในตอนนี้ ซึ่งการที่เครดิต สวิส แนะนำลงทุนในหุ้น BAY นั้น น่าจะเป็นการแนะนำลงทุนระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรมากกว่า เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้น BAY ปรับขึ้นช้ามากหากเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้จำนวนเงินลงทุนจากต่างชาติยังมีปริมาณมาก และยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารที่ส่วนใหญ่ยังมีฐานะที่ดี ทั้งในเรื่องของผลกำไร และเงินกองทุนก็อยู่ในระดับสูง ซึ่งหากต่างชาติเข้ามาลงทุนน่าจะเป็นการเข้าลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดีมากว่าเข้าลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก
| | เข้าชม: 1,689 |
|
