หุ้น ไทยหุ้น ตลาดหุ้น สนทนาเรื่องหุ้น สังคมของนักลงทุน

หุ้นนิคมผงาดรับพรก. อานิสงส์เงินทุนไหลเข้า

ทันหุ้น-กลุ่มนิคม เด้งรับพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้าน หนุนความเชื่อมั่นดีดกลับ โบรกส่งสัญญาณธุรกิจฟื้นยาวถึงปีหน้า แนะสอยหุ้นเด่นเทคนิคสวย AMATA ควบหุ้นพื้นฐานเด็ด ROJNA-TICON ด้านกุนซือ AMATA “วิบูลย์ กรมดิษฐ์” ยังหวั่นพ.ร.ก.สะดุด พ่วงการเมืองป่วน ฉุดนักลงทุนหนี ขณะที่ NNCL ใจชื้นคาดกลุ่มนิคมปลายปีนี้สดใส พร้อมตุนยอดขายที่ดินQ2 แล้ว 7 ไร่ ฟุ้งเสน่ห์แรงต่างชาติเล็งซื้อที่ดินกว่า 125 ไร่


นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) NNCL กล่าวว่า ในช่วงนี้ภาพโดยรวมของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะได้แรงหนุนจากพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท และหากผ่านจะสะท้อนถึงความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับเข้ามาสนใจลงทุนในไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม อารแปรรูป สำเร็จรูป กลุ่มเวชภัณฑ์ อาหารเสริม และกลุ่มเครื่องมือทางการเกษตร

“ตอนนี้ทุกอย่างดูดีหมด กลุ่มนิคมก็ดูกว่า 3 ไตรมาสก่อนหน้า เพราะหลังจากช่วงสงกรานต์ ลูกค้าทั้ง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ก็กลับเข้ามาดูที่ดินอีกครั้ง ซึ่งหากหลังจากนี้มีสีแดงป่วนอีก ก็คิดว่ากลุ่มนิคม ทั้งAMATA, ROJNA, HEMRAJ และเราจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปลายปีนี้” นายนิพิฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทยังคงไม่ตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายที่ดินไว้ โดยขอรอความชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/2552 ก่อน แม้ว่าแนวโน้มในไตรมาส 2/2552 จะเริ่มฟื้นตัวชัดเจนจากไตรมาสแรกที่มีรายได้รวม 128.76 ล้านบาท กำไรสุทธิ 0.49 ล้านบาท

“ไตรมาส 2 เราจะมียอดขายที่ดินค่อนข้างแน่นอนแล้ว 7 ไร่ มูลค่า 35 ล้านบาท โดยเราจะเซ็นสัญญาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว” นายนิพิฐ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ ที่ต้องการที่ดินจำนวน 100-125 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปชัดเจนในช่วงไตรมาส 3/2552 และบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาประมาณ 400-500 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทการเจรจาขายที่ดินอีกจำนวน 2-3 ราย จากประเทศไต้หวัน สิงคโปร์ ที่ต้องการพื้นที่รายละ 10-20 ไร่

ส่วนการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย ในนิคมอุตสาหกรรม นวนคร ปทุมธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบเครื่องในเวลา 3 เดือน ซึ่งจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือน สิงหาคมนี้

จับตาพรก.เข้าสภา 15 มิ.ย.
     นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) AMATA เปิดเผยว่าทิศทางความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทยเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากช่วงเดือนเมษายน เนื่องจากได้ปัจจัยบวกจากพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงสัปดาห์ก่อน

โดยยังคงต้องติดตามผลการพิจารณาของรัฐสภาระหว่างวันที่ 15-23 มิถุนายนนี้ก่อน ซึ่งหากผ่านการเห็นชอบและสามารถเบิกจ่ายได้จริง คาดว่าจะมีการลงทุนเข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ตามหากพ.ร.ก.ดังกล่าวสะดุด สถานการณ์จะกลับไปในทางเลวร้ายมากขึ้น
“ตอนนี้ยังห่วงเรื่องการเมืองกับ เศรษฐกิจโลกมากกว่า พ.ร.ก.4 แสนล้านก็เป็นดาบสองคม ถ้ามีปัญหา ก็จะแย่ ขณะที่เศรษฐกิจโลกเองถ้าไม่ฟื้นเข้าก็ไม่เงินกลับเข้ามาไทย เราก็ต้องรอดูให้แน่ใจก่อน” นายวิบูลย์กล่าว

สอยหุ้นนิคมเข้าพอร์ต
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ามีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมากขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมเริ่มกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ามากขึ้น และสามารถปรับตัวเป็นบวกได้เป็นเดือนแรก นอกจากนี้ยังคงได้รับปัจจัยบวกเชิงจิตวิทยาจากพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้หากประเมินราคาหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมได้เริ่มมีปรับขึ้นตามแนวโน้มสัญญาตลาด และตอบรับข่าว ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้วปรับขึ้นได้อีกระยะ จึงแนะนำ “ซื้อ” ในหุ้น AMATA ที่ราคาหุ้นมีโอกาสสูงจะทะลุ แนวต้านแรก 6.00 บาท ได้ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 7.40 บาท และมีแนวรับที่ 5.35-5.20 บาท

ส่วนหุ้นเด่นทางพื้นฐาน แนะนำ “ซื้อ” ROJNA โดยได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายในปีนี้เป็น 8.00 บาท และ 10.20 บาท สำหรับปี 2553 เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะชนะการประมูลขายที่ดิน 250 ไร่ให้กับโรงงานยาสูบ ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลช่วงปลายไตรมาส 2/2552 หรือต้นไตรมาส 3/2552
นอกจากนี้ ยังมีหุ้น TICON ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท โดยคาดว่าธุรกิจจัดเช่าโรงงานจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก คาด TICON จะมีอัตราการจ่ายปันผลในปีนี้ 12.6% และ 8.7% ในปี 2553

เข้าชม: 1,589