April 28, 2024   8:57:44 PM ICT
รับเหมาลุ้นพ.ร.ก.4แสนฉลุย ‘SEAFCO-SYNTEC’ตีปีก
ทันหุ้น-กลุ่มรับเหมา ลุ้นระทึกพ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทผ่านฉลุย ผู้บริหาร SEAFCO “ณรงค์ ทัศนนิพันธ์” วาดฝันงานใหม่ทะลัก พร้อมซุ่มโกยงานเล็ก 2-3 โครงการ ด้าน SYNTEC ไม่น้อยหน้ารุกประมูลงานใหม่รอแจ้งข่าวดีเร็วๆนี้ โบรกมองรอบการลงทุนกลุ่มรับเหมาวันนี้พึ่งภาวะตลาดเป็นหลักหากดัชนียืนแดนบวกหาจังหวะสอยหุ้นเด่น ITD-STEC-CK- SEAFCO เข้าพอร์ต


 นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) SEAFCO เปิดเผยว่า ในวันนี้ (3 มิ.ย.52) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาตัดสิน พ.ร.ก. เงินกู้ 4 แสนล้านบาทของรัฐบาล ว่าจะขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าศาลจะพิพากษาให้รัฐบาลสามารถดำเนินการตามพ.ร.ก.นี้ได้ เนื่องจากจะหมายถึงว่าภาครัฐบาลจะมีแหล่งเงินทุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะมีผลดีเกี่ยวเนื่องต่อธุรกิจรับเหมากาอสร้างด้วย


 “ เราก็ไม่รู้ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร และไม่กล้าวิจารณ์ศาลได้ แต่ก็อยากจะเห็นข่าวดี เพราะจะหมายถึงว่างานของผู้รับเหมาใหญ่จะมีมากขึ้น และเราซึ่งเป็นฐานล่างจะได้รับประโยชน์ไปด้วย” นายณรงค์กล่าว


 อย่างไรก็ตามในปีนี้ บริษัทไม่กังวลในเรื่องการประมูลงานใหม่มากนัก เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทยังมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าปีนี้จะมีงานใหม่สูงถึง 1,500 ล้านบาทแน่นอน และส่งผลให้มั่นใจว่า บริษัทจะมีมูลค่างานในมือ (Backlog) เพียงพอต่อการเติบโตในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 1,600 ล้านบาทได้
 ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกสูงถึง 2,000 ล้านบาทแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการสรุปข้อมูลการได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2-3 งาน มูลค่าโครงการรวมอยู่ในหลักหลายสิบล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถแจ้งตลาดได้ภายในกลางเดือนนี้


 นายสมชาย ศิริเลิศพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) SYNTEC กล่าวว่า หากพ.ร.ก.การเงินกู้ 4 แสนล้านบาทไม่ขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูณ ก็จะเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ดี ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ จำนวนหลายโครงการ และเชื่อว่าในเร็วๆนี้บริษัทจะได้รับข่าวดี แต่ตอนนี้ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด


 ทั้งนี้หากประเมินงบเฉพาะบริษัท ในปีนี้คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้เติบโตประมาณ 5% จากปีก่อนที่มี 5,400 ล้านบาท มาอยู่ที่ 5,600-5,700 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีในมือ (Backlog) อยู่ในระดับสูง โดยสิ้นไตรมาสแรก อยู่ที่ 5,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายใน 12-18 เดือน 


 ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาประมาณ 5,000-5,200 ล้านบาท โดยยังคงเน้นรับงานเอกชน ลักษณะงานตึกสูง และตั้งแต่ต้นปี บริษัทได้รับงานใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ไว้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 5-10% 


 สำหรับงานภาครัฐ บริษัทยังคงเดินหน้าต่อโดยเฉพาะงานก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทเตรียมพร้อมหาผู้ร่วมทุนลักษณะกิจการร่วมค้าเข้าร่วมประมูล ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ ส่วนแหล่งเงินทุนบริษัทมีกระแสเงินสดในมือค่อนข้างสูง 400 ล้านบาท และมีวงเงินกู้จากธนาคารนครหลวงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยปัจจุบันบริษัทมีเงินกู้สถาบันจำนวน 170 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1.05 เท่า


 นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยคาดว่าศาลรัฐธรรมนูปจะประกาศคำตัดสิน ว่าพ.ร.ก.การกู้เงิน 4 แสนล้านบาทจะไม่ขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญ โดยประเมินจากความจำเป็นในการใช้เงินทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
เข้าชม: 1,493

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com