ทันหุ้น-กลุ่มรับเหมาเริงร่า รับข่าวดีดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง ทั้งสายสีม่วง พ่วงสนข.ป้อนงานรถไฟฟ้าเชื่อม 2 สนามบิน มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท โบรกสั่งจับตาสัปดาห์นี้ราคาหุ้นวิ่งพล่าน เด้งรับข่าวศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาพ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท แนะ“เก็งกำไร” รับเหมาใหญ่ CK, STEC พ่วงหาจังหวะสอยหุ้นรับเหมาเล็ก SEAFCO หลัง “ ณรงค์ ทัศนนิพันธ์” กุนซือใหญ่คาดผลงานไตรมาส 2/52 รายได้และกำไรพุ่งพร้อมตุนงานใหม่เสริมความแกร่งอีกเพียบ
นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัยพ์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางราคาหุ้นกลุ่มรับแหมาก่อสร้างในช่วงนี้จะมีข่าวดีเข้ามาต่อเนื่อง โดยนอกเหนือจากโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง ที่เริ่มมีความชัดเจนมากแล้ว ล่าสุดสำนักงานพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร (สนข.) ใกล้จะได้ข้อสรุปสำหรับแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 2 สนามบิน ระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินกรุงเทพ เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารและรองรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ระยะทางจากกรุงเทพกับจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะมีเงินลงทุนสูงถึง 30,000 ล้านบาท
พ.ร.ก.4 แสนล้านดันราคา
ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ เนื่องจากจะมีความคืบหน้าของพ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท โดยศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาความเหมาะสมในวัน 3 มิถุนายนนี้ จึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ทั้งกลุ่ม
“ ข่าวนี้จะเป็นบวกต่อจิตวิทยาหุ้นกลุ่มรับเหมา แต่หากเรามองในเชิงพื้นฐานแล้วคงจะไม่มีผลมากนัก เพราะต้องใช้เวลาให้เกิดการลงทุนจริงก่อน” นายวรุตม์กล่าว
ขณะที่นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธรงกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ สถาบันวิจัยนครหลวงไทย บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ข่าวการพิจารณาพ.ร.ก.4 แสนล้านบาทน่าจะมีแรงผลัดดันราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาได้อีกครั้ง แต่หากพิจารณาทางสัญญาณทางเทคนิคแล้ว ราคาหุ้นที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่ หุ้น CK, STEC โดยมีแนวรับที่ 4.10 บาท แนวต้าน 4.40 บาท และแนวรับที่ 3.80 บาท แนวต้าน 4.10 บาท ตามลำดับ
นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่หุ้น SEAFCO มีโอกาสจะปรับขึ้นได้ โดยมีประเมินแนวรับที่ 2.90 บาท แนวต้าน 3.20 บาท เป็นต้น
นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) SEAFCO กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในช่วงนี้และต่อเนื่องถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2552 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีข่าวดีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเมินว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่ารัฐบาลจะเร่งผลักดัน โครงการเมกกะโปร์เจกต์ออกมา โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง ทั้ง 3 สัญญา คาดว่าจะได้ข้อสรุปการประมูลภายในปีนี้
ขณะที่แผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 2 สนามบิน และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง จะช่วยสนับสนุนโอกาสในการสร้างงานให้กับธุรกิจรับเหมาในอนาคต
“ สัปดาห์นี้รัฐบาลก็จะได้ข้อสรุปแผน พ.ร.ก.การกู้เงิน 4 แสนล้านบาท แล้ว ซึ่งส่วนนี้จะทำให้ได้ข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับแผนการลงทุนของรัฐ และเชื่อว่ากลุ่มรับเหมาจะได้ผลบวก” นายณรงค์กล่าว
นอกจากนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ เริ่มกลับมาลงทุนอีกครั้ง ภายหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัว และความต้องการที่อยู่ศัยเริ่มกลับมา
“ ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเป็นช่วงที่คึกคักของกลุ่มรับเหมา เพราะงานใหม่รออยู่เยอะ โดยเฉพาะโครงการของภาครัฐ อย่างสายสีม่วงที่เวลาเริ่มงวดเข้ามาเต็มที่แล้ว” นายณรงค์กล่าว
SEAFCOรายได้บานฉ่ำ
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2552 หากประเมินในช่วงนี้ มีแนวโน้มจะออกมาดีกว่าไตรมาสแรก ที่มีรายได้ 406.56 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 17.51 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 3.88 ล้านบาท ส่งผลให้มั่นใจว่าทั้งปี 2552 รายได้ของบริษัทจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท
“เป้ารายได้นี้ถือว่าต่ำ เพราะเป็นเป้าที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งช่วงนั้นเศรษฐกิจโลกย่ำแย่มาก ซึ่งหากปีนี้รายได้สูงกว่าเป้าก็เป็นเรื่องดี แต่กำไรปีนี้น่าจะดีขึ้น เพราะอัตรากำไรขั้นต้นเราเพิ่มขึ้นสูงกว่า 10% แต่ปีที่แล้วเราได้แค่ 8-9%เท่านั้น”นายณรงค์กล่าว
ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าหางานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เชื่อว่าจะได้รับงานใหม่สูงถึง 1,500 ล้านบาท เพื่อรักษามูลค่างานในมือ (Backlog) ให้อยู่ในระดับสูงจากระดับปัจจุบันที่มีกว่า 2,000 ล้านบาท
| | เข้าชม: 1,406 |
|
