นักธุรกิจภาคเอกชนตระโกนเชียร์สนั่นกระทุ้ง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรีลุยโรดโชว์จีน หวังดึงนักลงทุนร่วมเมกะโปรเจกต์ 1.56 ล้านล้านบาท เชื่อหุ้นรับเหมารับอนิสงส์ทั้งกลุ่ม จับตาประชุม ครม.วันนี้ ลุ้นโครงการ 3G –รถเมล์ NGV ได้ข้อสรุป
นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนในวันนี้จนถึงวันที่ 28 พ.ค. 2552 เพื่อดึงดูดนักลงทุนจีน-รัฐวิสาหกิจจีน ให้มาลงทุนในประเทศไทย ในโครงการเมกะโปรเจกต์ในวงเงินรวม 1.56 ล้านล้านบาทรวมถึงกำหนดยุทธศาสตร์ความร่วมมือกับจีนว่า น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและเป็นโอกาสอันดีที่ รัฐบาลจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวกระชับความสัมพันธ์กับประเทศจีน เพื่อให้เกิดการร่วมลงทุนในประเทศ ในโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่เป็นมหาอำนาจทั้งด้านเงินทุน และวัตถุดิบที่มีความพร้อม
ทั้งนี้ การดึงดูดให้เอกชนและรัฐวิสาหกิจจีนมาผลักดันโครงการพื้นฐานในประเทศ เช่นรถไฟฟ้า ด้านพลังงาน ยังส่งผลดีต่อโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง และรวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงยืนยันที่จะร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่นเพื่อประมูลรถไฟฟ้าทุกสายของภาครัฐ เพื่อต่อยอดงานที่มีอยู่ของบริษัทให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทมองว่า บริษัทมีความสามารถในการรับงานของภาครัฐทุกโครงการที่เปิดประมูล ทั้งความพร้อมด้านบุคคากร และความเชี่ยวชาญ
สำหรับปีนี้บริษัทยังเดินหน้ารับงานของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยรับงานรัฐเป็นสัดส่วน 90% และเอกชนอีก 10 % โดยโครงการของภาครัฐได้แก่งานก่อสร้างของการไฟฟ้าที่มีสัญญากับบริษัท 9 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะรับรู้รายได้ในโครงการดังกล่าวทุกปีประมาณ 1 พันล้านบาท และงานก่อสร้าท่าเรือให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)และอีกหลายโครงการ
ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้าประมูลโครงการก่อสร้างในต่างประเทศอย่าง ลาว เวียดนาม กัมพูชา ดูไบ หลังจากได้รับงานก่อสร้างจากประเทศต่างๆมาแล้ว ซึ่งบริษัทเชื่อว่าน่าจะทำผลงานต่างประเทศได้อีก เนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในการทำงานในประเทศดังกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ ได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 3.8 พันล้านบาท มี Backlogในขณะนี้ประมาณ กว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้
ด้านนายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีซี จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการเดินทางไปโรดโชว์ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการลงทุน การท่องเที่ยวไทยที่จะดึงจีนเข้ามาร่วมลงทุน เพราะประเทศจีนมีความพร้อมทุกด้านทั้งแหล่งเงินทุนและความเจริญก้าวหน้า
หากโครงกากระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 มูลค่า 1.56 ล้านล้านบาทเกิดขึ้นได้รวดเร็ว ก็จะเป็นผลดีต่อด้านเศรษฐกิจในประเทศ และช่วยให้แรงงานมีงานทำ อีกทั้งเป็นการสนับสนุนวัตถุดิบในประเทศซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นแต่อย่าไรก็ตาม ดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนรัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนในเรื่อง เงื่อนไขในการลงทุน เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียเปรียบต่างประเทศ
ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาครับเหมาก่อสร้างภายในประเทศ ในการรับงานของภาครัฐในครั้งนี้ โดยแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นบริษัท บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD,บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) (STEC),บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์สินเอเชีย กล่าวว่า สัญญาณเทคนิคหุ้นในกลุ่มรับเหมาเช่น ITD,STEC,CK,SEAFCO ส่วนใหญ่สัญญาณเทคนิคเป็นขาขึ้น จึงแนะนำเก็งกำไรทั้งกลุ่ม โดยให้แนวรับ ITD ที่ 2.90 บาท แนวต้านที่ 3.10 บาท ,CK แนวรับที่ 4.20 บาท แนวต้านที่ 4.40 บาท,STEC แนวรับที่ 3.78 บาท แนวต้านที่ 3.90 บาท, SEAFCO แนวรับที่ 3.06บาท แนวต้านที่ 3.28 บาท
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างวานนี้(25 พ.ค) พบว่า หุ้น NWR ปิดตลาดที่ 0.29 บาทราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลงมูลค่าการซื้อขาย 32.16 ล้านบาท ,ITD ปิดที่ 2.92 บาท ราคาหุ้นปรับลดลง0.08บาท หรือ 2.67 % มูลค่าซื้อขาย 424.17 ล้านบาท ,STEC ปิดที่ 3.82 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 37.32 ล้านบาท ,SEAFCOปิดที่ 3.08 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ 0.65 % มูลค่าซื้อขาย 4.90 ล้านบาท ,CK ปิดตลาดที่ 4.18 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขายที่ 108.97 ล้านบาท
จับตา ครม.
สำหรับวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้(26 พ.ค)ที่มีนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะนั่งโต๊ะเป็นประธาน โดยมีประเด็นต้องจับตามีดังนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เตรียมนำเสนอโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3(3G) เพื่อแก้ไขบางกฎเกณฑ์อาทิ เงินลงทุน จากแหล่งเงินในประเทศ เป็นการจัดหาแหล่งเงินในลักษณะสินเชื่อเพื่อการส่งออก เนื่องจากค่าอุปกรณ์ต่างๆ ในการทำโครงข่ายมีมูลค่าถูกลง
โครงการจัดเช่ารถเมล์ปรับอากาศหรือ รถเมล์ NGV จำนวน 4 พันคันเพื่อหาข้อสรุปตัวเลขมูลค่าโครงการในส่วนอัตราค่าซ่อมและดอกเบี้ย ,การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เสนอ ครม.เห็นชอบการจัดตั้งบริษัทลูกของโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตลิงก์)
พร้อมจับตาการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี พ.ร.ก. เงินกู้ 4 แสนล้านบาท ว่าขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากแผนดังกล่าวไม่ผ่านพรรคเพื่อไทยจะดำเนินฟ้องร้องนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีฐานจงใจขัดรัฐธรรมนูญ โดยจะรวบรวมรายชื่อส.ส. 1ใน 4 ตามมาตร 271 เพื่อยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีต่อประธานวุฒิสภา-ทันหุ้น | | เข้าชม: 1,824 |
|
