ทันหุ้น-แบงก์พาเหรดหั่นดอกเบี้ย ฉุดส่วนต่างดอกเบี้ยรับกลุ่มปีนี้ลดลง 0.15% ชี้ผู้ฝากเงินเริ่มหาแหล่งเงินออมอื่น  ทั้งพันธบัตรและหุ้นกู้  โดยเฉพาะหุ้นกู้ผลตอบแทนสูง 4-5% คาดเห็นบจ.แห่ออกหุ้นกู้ปีนี้เพิ่มรวมมูลค่า  1-2 แสนล้านบาท  แต่ปีนี้BAYแววดีNIMขยับ 3.84%ไล่แซงหน้าSCB

 นายปรเมศร์  ทองบัว ผู้อำนวยการสำนักวิจัย  บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า  หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.50% จากเดิม 2.00% ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 ขาในอัตราแตกต่างกัน จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)ของธนาคารพาณิชย์ปี 2552 ปรับลดลง 0.15% 
 ทั้งนี้ดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลง ทำให้ผู้ฝากเงินเริ่มมองหาแหล่งออมเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์  โดยการซื้อพันธบัตร หรือหุ้นกู้  และจะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)หันมาทยอยออกหุ้นกู้มากขึ้น  โดยคาดว่าทั้งปี2552จะมีบจ.ทยอยออกหุ้นกู้ปีนี้คิดเป็นมูลค่า 1-2 แสนล้านบาท

 “ ปีนี้จะเริ่มมีเงินไหลออกจากแบงก์พาณิชย์  โดยนำเงินมาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนมากขึ้นในรูปแบบของการลงทุนผ่านหุ้นกู้ของบริษัท  โดยคาดว่าได้ผลตอบแทนประมาณ 4-5% ซึ่งดีกว่าฝากแบงก์พาณิชย์ แต่นักลงทุนควรเข้าลงทุนเฉพาะบริษัทที่มีฐานธุรกิจดีเท่านั้นเพื่อลดความเสี่ยงการเข้าลงทุน” นายปรเมศร์ กล่าว

 แม้ยอดเงินฝากจะลดลง และกดดันให้ธนาคารพาณิชย์ต้องประสบปัญหาสภาพคล่องในอนาคต แต่ปัจจุบันธนาคารแต่ละแห่งยังมีสภาพคล่องสูง  อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยังดูแสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ โดยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ส่งผลให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ไม่มีปัญหาสภาพคล่อง แม้ตลาดโยดรวมเฉลี่ยสภาพคล่องจะลดลงบ้างก็ตาม

 นายอดิศักดิ์  คำมูล  ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจ และกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  ในช่วงที่ผ่านมาจากการที่ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสูง  จะส่งผลให้ NIM ปี 2552 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าปี 2551 เพราะดอกเบี้ยเงินฝากลดลงมากกว่าดอกเบี้ยกู้อีกทั้งดอกเบี้ยในระบบส่วนใหญ่เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ และอาจมีบางธนาคารครบกำหนดชำระหนี้คืน ดังนั้นฝ่ายวิจัยเชื่อว่าNIMของระบบธนาคารพาณิชย์อาจจะเพิ่มขึ้นได้ในปีนี้

 ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าNIMเพิ่มขึ้น และกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นด้วยเพราะการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธินั้นขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ(GDP)เพราะจะมีผลต่อความสามารถปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งการที่หลายสถาบันมองว่าปี 2552 จีดีพีจะติดลบ  ดังนั้นเชื่อว่าจะกดดันให้สินเชื่อลดลง แต่สิ่งที่จะเพิ่มขึ้นสูงในครึ่งปีหลังคือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)เพิ่มขึ้น  จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นสูงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  จึงกดดันให้ปี 2552 กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะมีกำไรสุทธิลดลง

 สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำลงทุนในธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เนื่องจากมีการบริหาร NPL ที่ดี จึงเป็นปัจจัยที่เสริมให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นหรือปรับลดลงได้ไม่มาก

     “ ถ้ามองภาพรวมทั้งปี การที่แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยแรง และแบงก์พาณิชย์คงดอกเบี้ยกู้ไว้สูง ขณะที่ดอกเบี้ยขาลงจะยิ่งส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากลดลงมากกว่าเงินกู้  จึงคาดว่าปีนี้ดอกเบี้ยรับจะมากกว่าดอกเบี้ยจ่าย ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าวคาดว่าNIMทั้งกลุ่มอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา” นายอดิศักดิ์ กล่าว