ทันหุ้น-  BOT ลั่นโรดโชว์แดนปลาดิบปูทางกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไทยรุ่ง เชื่อชักใยนักลงทุนหวนกลับเข้าไทยเพียบ จากเดือนม.ค. 52 แห่ขนเงินเข้าลงทุนแล้ว 4 พันล้าน ขณะที่โบรกฯเริ่มเห็นสัญญาณ BOT หนุนจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ เฟ้นหุ้นดาวเด่นฟอร์มสวย DELTA  CCET  HANA และ  SPPT 

     นางอรรชกา สีบุญเรือง  บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)  เปิดเผยว่าช่วง ระหว่างวันที่ 22 -25 ก.พ.52  บีโอไอได้เดินทางไปที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์ สร้างความมั่นใจให้กับนักธุรกิจญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่บีโอไอจะชักชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

          “ การเดินทางไปสร้างความเชื่อมั่นแก่นักธุรกิจญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้นักธุรกิจญี่ปุ่นกลับมาเชื่อมั่นประเทศไทยอีกครั้ง ดังนั้นบีโอไอจึงต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจญี่ปุ่นในพื้นที่สำคัญๆ มากขึ้น” นางอรรชกา กล่าว

          ล่าสุดมีนักธุรกิจชั้นนำในโอซาก้าจำนวนเกือบ 300 ราย ตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว ซึ่งบีโอไอจะนำเสนอนโยบายส่งเสริมการลงทุนสำคัญๆ อาทิ มาตรการพิเศษกระตุ้นการลงทุน ซึ่งจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดแก่โครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนภายในปี 52 และมาตรการส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

         นางอรรชกากล่าวว่า ภาวะการลงทุนของญี่ปุ่นในไทยช่วงเดือน ม.ค.52 มีจำนวน 15 ราย รวมมูลค่าการลงทุน 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่2 โครงการ มูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ส่วนในปี2551 มีโครงการจากญี่ปุ่นทั้งสิ้นจำนวน 324 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 102,994 ล้านบาท 

           ด้านนายธวัชชัย อัศวพรไชย  ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า   จากข่าวข้างต้นมองว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนกระตุ้นจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตามมองว่าปัจจัยกระตุ้นดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นได้ในระยะยาว เพราะนักลงทุนญี่ปุ่นจะเริ่มให้ความสำคัญกับข่าวสารที่ได้รับจากบีโอไอมากขึ้นและเริ่มทยอยเข้ามาลงทุนในประเทศไทศเนื่องจากเป็นประเทศที่มีฐานต้นทุนต่ำ
 ขณะที่ปัจจัยระยะสั้นภาพรวมตลาดยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังเริ่มชะลอตัวอย่างรุนแรง รวมทั้งในช่วงเดือนม.ค.52 ที่ผ่านมายอดการส่งออกลดลง 26.5%  ด้วยปัจจัยดังกล่าวฝ่ายวิจัยจึงมองว่าหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกสทุกตัวอาจจะได้รับผลกระทบ

 แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ กล่าวว่า การที่บีโอไอเข้าไปกระตุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์นั้นเชื่อว่าจะส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้หุ้นมีโอกาศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นที่มีสัญญาณการเคลื่อนไหวดีที่สุด คือ  DELTA  CCET  HANA และ  SPPT 

     นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด   กล่าวว่า  แนะนำ “ซื้อ” หุ้น DELTA ราคาเป้าหมาย 14.80 บาทต่อหุ้น อิงจาก P/BV 1 เท่า ในปี 2552  เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้จ่ายเงินปันผลจำนวน 1.1 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน(Dividend Yield) 10.3% ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลที่สูง รวมทั้งผู้บริหารของ DELTA ยังมองว่าภาวะเศราบกิจที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อบริษัทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  เนื่องจากบริษัทมีการ าาวางกลยุทธ์ที่ดี 

 ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนะนำ “ถือ” หุ้น CCET ราคาเป้าหมาย 1.61 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นในปัจจุบันจะซื้อขายที่ PBV เพียง 0.35 เท่าและเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดโดยแนวโน้มผลการดำเนินงานระยะสั้นจะไม่ปรับตัวดีมากนัก เนื่องจากในช่วงเดือน ม.ค. 52 ที่ผ่านที่ลดลงยอดลดลง 9% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 52 และลดลง 3% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.51  อีกทั้งยังส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายปันผลที่ลดลงด้วย  ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิปี 52 อยู่ที่ 1,639 ล้านบาท ลดลง 25%