May 12, 2024   7:04:13 AM ICT
แบงก์วิ่งอืดห่วงNPLก่อตัว SCBแจ่มแนวต้าน57-58บ.

ทันหุ้น-กลุ่มแบงก์เด้งไม่ไกล  โบรกคาดกังวลหนี้เน่าโผล่ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า  จีดีพีต่ำคาด   เชื่อเริ่มเห็นแรงเก็งกำไรกลับเข้ามาอีกครั้งปลายมี.ค.-เม.ย.นี้  เพื่อรอรับปันผล  คาดKTBและTISCOควงคู่ผลตอบแทนลิ่ว  ส่วนSCBเทคนิคแจ่มแซงกลุ่ม ให้แนวรับ 53 บาท และแนวต้าน 57-58 บาท
 นักวิเคราะห์เทคนิคบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ตลอดทั้งสัปดาห์(16-19ก.พ.)พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าจะยังมีสัญญาณรีบาวนด์ต่อเนื่อง โดยประเมินแนวรับ 148 จุด และแนวต้าน 154-156 จุด
 โดยหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB มีสัญญาณทางเทคนิคดีสุดในกลุ่ม และมีสัญญาณรีบาวนด์ต่อเนื่องแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป”  ให้แนวรับ 53 บาท แนวต้าน 57-58 บาท อย่างไรก็ตามในช่วงนี้สัญญาณทางเทคนิคหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวได้ดี แต่ต้องเลือกจังหวะเข้าลงทุน


     ด้านนายปรเมศร์   ทองบัว  ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด  กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังไปได้ไม่ไกล  แม้ภาพรวมธุรกิจ การดำเนินการหรือแม้กระทั่งความสามารถทำกำไรจะปรับตัวได้ดีในสายตานักลงทุนทั่วโลก แต่ความกดดันในช่วง 2-3เดือนข้างหน้าเกี่ยวกับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกลับกดดันให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ลดลง


     ฝ่ายวิจัยคาดว่าNPLทั้งปี2552 จะเพิ่มขึ้น 2-3% จากปี2551 ที่มีNPLอยู่ที่ 5%เพราะมองว่าการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ลดเป้าประมาณการอัตราการเติบโตเศรษฐกิจ(GDP)ปี 2552 ลงเหลือ 0-2%   แต่เชื่อว่ายอดส่งออกที่ลดลงรุนแรง  โดยเฉพาะยอดส่งออกเดือนม.ค.2552ลดลง 26.5%อาจส่งผลให้GDPอาจต่ำกว่าที่ธปท.คาด


     ส่วนกรณีที่สถาบันการเงินในยุโรปเริ่มเกิดปัญหานั้น สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรปจะฟื้นตัวได้ยากมากขึ้นและส่งผลให้เศรษฐกิจไม่ถึงจุดต่ำสุด ด้วยสาเหตุดังกล่าวเป็นปัจจัยทางอ้อมที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์   สำหรับกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “ซื้อ” หุ้นธนาคารขนาดใหญ่  เช่น BBL ให้ราคาเหมาะสม 79 บาท ,KBANK ให้ราคาเหมาะสม 50 บาท และSCB ให้ราคาเหมาะสม 58 บาท  ซึ่งทั้ง 3 ธนาคารมีอัพไซด์เฉลี่ย 10%


     นายวรวัฒน์  สายสุพัฒน์ผล  ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  หากGDPไตรมาส 4/2551 แย่กว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์  จากไตรมาส 3/2551 GDP ขยายตัว 0.6%  เชื่อว่าจะมีแรงขายทำกำไรหุ้นธนาคารพาณิชย์เพราะคาดว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่การชะลอตัวแท้จริง แต่เชื่อว่าราคาหุ้นจะปรับลดลงระยะสั้น


     ทั้งนี้เนื่องจากปลายมี.ค.-เม.ย.นี้  จะเริ่มเห็นนักลงทุนเข้ามา “เก็งกำไร” หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มากขึ้นเพื่อเข้าเก็งกำไรการจ่ายปันผล  โดยแนะนำ “ซื้อ” ธนาคารขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานธุรกิจดี เช่น SCB ราคาเหมาะสม  66.5 บาท ,BBL ราคาเหมาะสม 88 บาท   และแนะ“เก็งกำไร” หุ้นที่ให้อัตราปันผลตอบแทน (Dividend  Yield)สูงคือ KTB ราคาเหมาะสม 4.8 บาท Dividend  Yield อยู่ที่ 10% และ TISCO ราคาเหมาะสม 12.30 บาท Dividend  Yield อยู่ที่8-9%

เข้าชม: 1,280

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com