ทันหุ้น-นายแบงก์คาดปีนี้เอกชนออกหุ้นใกล้เคียงปีก่อน 2 แสนล้านบาท สบช่องดอกเบี้ยขาลง  ห่วงเศรษฐกิจถดถอย  และสภาพคล่องอนาคต  ซุ่มเจรจาอันเดอร์ไรท์หุ้นกู้ 2-3 รายในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และโครงสร้างพื้นฐาน  ส่วนบล.ธนชาตเล็งกวาดรายได้จากที่ปรึกษาออกหุ้นกู้ 60%  

 นายรัชต์  โสดสถิตย์  ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุน ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ในปี2552 คาดว่าการออกหุ้นกู้ภาคเอกชนจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ 2 แสนล้านบาทเนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัว,สภาพคล่องในอนาคต และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง
         ทั้งนี้ในครึ่งปีแรก2552 เชื่อว่าบริษัทต่างๆจะทยอยออกหุ้นกู้กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้การออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนในครึ่งปีหลังจะเริ่มชะลอตัวลงเนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่ได้ออกมามากแล้ว  อีกทั้งในครึ่งปีหลังจะเห็นบริษัทที่ไม่เคยออกหุ้นกู้ จะหันมาออกหุ้นกู้มากขึ้นเนื่องจากระดับราคาที่เหมาะสม ตามทิศทางดอกเบี้ยที่ลดลง

         อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้คาดว่ามูลค่าหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ออกมาจะสูงกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่หันมาออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิเพื่อเสริมฐานะทางการเงินของธนาคาร ให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยในส่วนธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดฯ อยู่ระหว่างการเจรจาที่จะเป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ 2-3 ราย ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และโครงสร้างพื้นฐาน

     ด้านน.ส.สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ธนชาต จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการออกหุ้นกู้ปี2552คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี2551ที่มีหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด 2.3 แสนล้านบาท  ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งปีมีมูลค่ารวมสูงถึง 4 แสนล้านบาทเนื่องจากบริษัทเอกชนต้องการเพิ่มสภาพคล่อง  และอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันต่ำมาก จึงส่งผลดีต่อบริษัทที่เสนอขายหุ้นกู้และนักลงทุนที่ซื้อหุ้นกู้

     สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 4% และติดอันดับ 1 ใน 10 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ   ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจคาดว่าจะมีดีลที่ปรึกษาการออกหุ้นกู้ ,ที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการ(M&A) รวมทั้งหุ้นIPO ในกลุ่มพลังงาน  อุปโภคบริโภค  อสังหาริมทรัพย์  เป็นต้น  ซึ่งจะต้องรอจังหวะตลาดที่เอื้ออำนวย     โดยคาดว่าปีนี้บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากการเป็นที่ปรึกษาหุ้นกู้ 60% และหุ้นทุน 40%