บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด(มหาชน) หรือ ASP เปิดเผยถึงทิศทางตลาดอนุพันธ์(TFEX) ว่า แนวโน้ม SET50 Index ฟื้นตัวเล็กน้อยจากปันผลหุ้น Market Cap. ซึ่งมีลักษณะอ่อนตัวในวันแต่สามารถยืนเหนือแนวรับ 295 จุด ส่วนใหญ่เป็นการซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และธนาคาร เมื่อตลาดอ่อนตัว เนื่องจากอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการ และเงินปันผล
ขณะที่หุ้นขนาดเล็กเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นเนื่องจากได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง สัปดาห์ที่ผ่านมามูลค่าการซื้อขายประจำวันยังคงเบาบางต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนโดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 688.5 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก จากปัญหาคนว่างงานและการปลดคนงานในอุตสหกรรมยานยนต์ในสหรัฐฯ และ ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯลดลง 4% มาอยู่ที่ .99 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่เดือนก.พ. 2546
ส่งผลให้การนำเข้าและส่งออกของสหรัฐฯลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นอ่อนตัวเนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อรอคอยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 8 แสนล้านดอลลาร์ ที่คาดว่าจะสามารถผ่านสภาสหรัฐฯได้ในสัปดาห์หน้า จะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้น
ด้านปัญหาเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะปัญหาคนว่างงานยังเป็นปัญหาหลักเช่นเดียวกันกับ ประเทศสหรัฐฯและอีกหลายประเทศในเอเซีย ล่าสุดยอดคนว่างงานของประเทศไทย ณ สิ้นปี 51 อยู่ที่ 3.88 แสนคน เพิ่มขึ้น 38.26% จากปี 50 ล่าสุดยอดคนว่างงานในเดือน ม.ค. 52 เพิ่มขึ้น 6.7 หมื่นคน หรือคิดเป็น 140.84% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจาก 5 อุตสหกรรมที่ใช้แรงงานได้แก่ อุตสหกรรมชิ้นส่วนต่างๆ อุตสหกรรมยานยนต์ อุตสหกรรมเครื่องเรือน อุตสหกรรมสิ่งทอ และอุตสหกรรมผลิตเครื่องจักร จากแนวโน้มการส่งออกที่หดตัวลงในช่วง 1H52 บวกกับปัญหาการเมืองไทยยังกดดันความเชื่อมั่นระยะกลาง จากแนวโน้มที่ พรรคเพื่อไทย จะทำการยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ในวันที่ 11 มี.ค.นี้
ส่วนกรณีการขอเงินกู้จากญี่ปุ่นเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา อาจทำให้ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 คาดว่าจะมีการเปิดอภิปรายได้วันที่ 25-26 มี.ค. จะส่งผลให้มีแรงเทขายระยะกลาง หาก SET50 ปรับตัวขึ้นถึงแนวต้าน 320 จุด
คาด SET50 INDEX มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแนวรับที่ 290 จุด และแนวต้านบริเวณ 320 จุดเนื่องจากมูลค่าซื้อขายประจำวันต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีแรงซื้อหุ้นรายตัว ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูจ่ายเงินปันผล โดยเฉพาะหุ้นที่มีเงินปันผลสูง ฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่งในหุ้นกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ได้แก่ PTTEP, PTT, BANPU และหุ้นกลุ่มธนาคาร BBL, SCB, KBANK รวมถึงหุ้นกลุ่มสื่อสาร ADVANC และ DTAC จะช่วยหนุน SET50 INDEX ในระยะสั้นถือเป็นโอกาสเปิดสถานะ SHORT ที่แนวต้าน 320 จุด
สำหรับกลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนระยะสั้น ที่มีกำไรจากสถานะ ?Long ให้ทยอยปิดสถานะด้วยคำสั่ง ?Shot บริเวณแนวต้าน 320 จุด เพื่อทำกำไร สำหรับผู้ที่ไม่มีสถานะใดแนะนำให้รอเปิดสถานะใหม่ด้วยคำสั่ง ?Long ที่บริเวณแนวรับ 295-300จุด
ให้นักลงทุนเลือกลงทุนในสัญญาส่งมอบเดือน มีนาคม 2009 (S50H09) เนื่องจากมีสภาพคล่องและสัญญาคงค้าง (Open Interest) ในระดับสูง นักลงทุนระยะกลาง รอเปิดสถานะ ?Short เพิ่มที่แนวต้าน 320 จุด
**** แนวรับแนวต้านรายสัปดาห์
ภาพรวม SET50 INDEX ระยะสั้นมีโอกาสดีดตัว ขณะที่ระยะกลางเป็นขาลง ระยะกลางเปิดสถานะ ?Short ตามแนวต้าน 320 จุด แนวต้านสัปดาห์นี้อยู่ที่ 320 จุด เหมาะสำหรับการเปิดสัญญา ?Short โดยตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ 325 จุด ด้วยคำสั่ง ?Long
| 