May 12, 2024   2:34:31 AM ICT
คองเกรสดันดัชนีหุ้นไทยคึกคัก สอยหุ้นพื้นฐานแกร่ง-ปันผลสูง

ทันหุ้น-กูรูส่องทิศทางดัชนีวันนี้ เชื่อวอลุ่มเทรดแน่เอี๊ยดหลังรู้ผลสภาคองเกรสอัดฉีดเงิน 8.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พ่วงหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT โล่แจ้งผลประกอบไตรมาสสุดท้ายปี51 ชี้กรอบดัชนีวิ่งคึกคัก 430-452 จุด แนะ “สอย” หุ้นพื้นฐานแกร่ง KBANK-BBL-PTT-PTTAR-PTTEP และปันผลยอด MAKRO, MCS, LPN, BEC


     ความเคลื่อนไหวดัชนีวานนี้ ( 10 ก.พ.52 ) ปิดที่ 443.17 จุด ลดลง 1.22 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขายสุทธิ 9,035 ล้านบาท
     นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย  บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนวานนี้(10ก.พ.52) ถูกกดดันจากตลาดซื้อขายหุ้นล่วงหน้า(ฟิวเจอร์)ในประเทศสหรัฐที่ปรับตัวลดลงถึง 100 จุด ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง 1.22 จุด


     อย่างไรก็ตามวันนี้ (11ก.พ.52) ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจถูกกดดันจากตลาดฟิวเจอร์ที่ปรับตัวลดลงเป็นวันที่สอง เชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นไทยจะสามารถเริ่มมีแรงรีบาวด์ได้ เนื่องจากรับข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยมองกรอบแนวรับ 430 จุด แนวต้าน452 จุด 


 สำหรับปัจจัยที่หนุนบรรยากาศการลงทุนในวันนี้ให้จับตาการพิจารณาแผนของรัฐบาลสหรัฐในการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 8.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจทำให้หุ้นทั่วโลกเริ่มรีบาวด์ได้ ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อหารือการค้ำประกันสินเชื่อซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจะไม่ส่งผลต่อการลงทุนระยะสั้นมากนัก เนื่องจากเป็นแผนระยะกลาง


 นายพงศ์พันธ์  อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นต่างประเทศหลัก โดยเฉพาะสหรัฐ


 “ แต่มองว่าแผนอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 8.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลกให้มีแรงรีบาวด์ได้เพียงระยะสั้นเท่านั้นเนื่องจากแผนดังกล่าวยังเป็นเพียงนามธรรม”นายพงศ์พันธ์กล่าว
 ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยแนะนำระมัดระวังการลงทุนในวันนี้หรือช่วงสัปดาห์นี้ (10-13ก.พ.52) เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “เก็งกำไร” หรือ “ซื้อคืน” หุ้นพื้นฐานดี เช่น KBANK  BBL  PTT  PTTAR  PTTEP เป็นต้น 

ด้านนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด กล่าวว่าวานนี้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่มีวอลุ่มการเทรดเบาบาง เนื่องจากตลาดอยู่ในช่วงของการรอรับรู้ข่าวที่เป็นปัจจัยการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในวันนี้ โดยเฉพาะช่วงดึกจะมีการประชุมของสภาคล่องเกรส  ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศต้องติดตามผลประกอบการของหุ้นขนาดใหญ่ที่เริ่มจะทยอยประกาศออกมา โดยเฉพาะ  PTT ที่จะประกาศผลวันนี้รวมถึงอัตราการจ่ายปันผลของปี 2551 ด้วย ซึ่งการรับรู้ข่าวทั้งภายในและภายนอกประเทศ จะส่งผลให้การเทรดของนักลงทุนปรับสูงขึ้นกว่าวานนี้แน่นอน
 “แนวโน้มวันนี้เชื่อว่าการเทรดหุ้นจะไม่อยู่เพียงแค่บวกหรือลบ 2-3 จุดแน่นอน ซึ่งมองว่ากรอบดัชนีจะอยู่ที่แนวรับ 435 จุดและมีแนวต้านที่ 450 จุด โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” หรือ “ซื้อเก็งกำไร”ในหุ้นที่ได้ประโชยน์จากข่าว”นายชัยกล่าว


 นายชัย กล่าวว่านักลงทุนสามารเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากข่าวได้เกือบทุกเช่นกลุ่มสื่อสาร อย่าง ADVANC กลุ่มรับเหมาและกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่างSCB เป็นต้น นอกจากนั้นสามารถซื้อเมื่ออ่อนตัวในหุ้นกลุ่มปันผลสูง (ดิวิเด้นท์ สต๊อก) เช่นMAKRO, MCS, LPN, BEC เป็นต้น

เข้าชม: 1,064

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com