May 11, 2024   5:02:19 PM ICT
เลื่อนเปิดซองแต่ไม่เลิก ขอคุยCKก่อนตัดสิน สายสีแดงจ่อรับเหมาเฮ

ทันหุ้น - หุ้นกลุ่มรับเหมารับข่าวไจก้าใจดีไฟเขียววงเงินกู้ 6.3 หมื่นล้านเยนลุยก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ด้าน รฟม. “ชูเกียรติ โพธิยานุวัตร” แจงเบรกแผนเปิดซองสายสีม่วง สัญญา 2 จากเดิมเล็งช่วง 12-13 กุมภาพันธ์นี้ เหตุเร่งหารือร่วมกับกลุ่ม CKTC หลังต้นทุนก่อสร้างลด ส่วนสายสีแดงเก็งเปิดซองประกวดราคาได้กลางปี 2552


 นายชูเกียรติ โพธิยานุวัตร รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าชนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์นี้ คณะกรรมการจะมีการร่วมหารือกับกลุ่ม CKTC ซึ่งมี บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK รวมกับโตคิวจากญี่ปุ่น เพื่อขอปรับลดราคาวงเงินก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา 1 ที่กลุ่ม CKTC เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่วงเงิน 16,724 ล้านบาท


 ทั้งนี้ เนื่องจากราคาเหล็ก และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ในขณะนี้ได้ปรับตัวลดลงอย่างมากตามราคาน้ำมัน เมื่อเทียบกับช่วงที่เอกชนยื่นซองประกวดราคาในเดือนสิงหาคม 2551 โดยได้ใช้ราคาวัสกุก่อสร้างเมื่อเดินกรกฎาคม 2551 นำเสนอ ซึ่งขณะนั้นราคาน้ำมันขึ้นไปสูงที่ระดับ 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันปรับลดลงมาที่ประมาณ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงต้องมีการประเมินราคาก่อสร้างใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตในปัจจุบัน


 เล็งเปิดซองสายสีแดงกลางปีนี้
 ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายบริหารจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คาดว่า จะสามารถเปิดซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ได้ราวกลางปี 2552 โดยระหว่างนี้ยังต้องรอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินลงทุนในโครงการนี้ที่จะเป็นส่วนงานโยธาและตัวรถไฟฟ้า มูลค่าประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท
 นอกจากนี้ เชื่อว่า องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) พร้อมอนุมัติให้หลัง ครม. เห็นชอบ เนื่องจากได้มีการศึกษาโครงการดังกล่าวเสร็จนานแล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงคาดว่าขั้นตอนในการดำเนินการประกวดราคาน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี หรืออย่างเร็วที่สุดในช่วงกลางปี 2553 น่าจะได้ผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการดังกล่าว


 ทั้งนี้ การที่รัฐบาลได้อนุมัติเงินกู้จำนวน 6.3 หมื่นล้านเยน ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ระบุไว้หลังจากเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 5-7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นคาดว่าเม็ดเงินส่วนนี้จะนำไปใช้ก่อสร้างเป็นสถานีกลางบางซื่อ
      “ในเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ได้กำหนดชัดเจนถึงผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ต้องทำหน้าที่รื้อย้ายผู้บุกรุก หรือเวนคืนที่ดิน และทางไจก้ายังกำหนดให้ รฟท. เป็นผู้ทำหน้าที่ เพราะมีเวลาในการดำเนินการ ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีจ้างบริษัทเอกชนดำเนินการ แต่ไม่ให้นำเงื่อนไขนี้เข้าไปในทีโออาร์ โดยปัจจุบันได้จัดทำทีโออาร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว” แหล่งข่าว กล่าว


หนุนจิตวิทยาช่วงสั้น
 นางสาววิชชดา ปลั่งมณี ผู้จัดการส่วนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า จากการเจรจาของภาครัฐที่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินทุนในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมถึงการพิจารณาเพื่อต่อรองเงื่อนไขในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หลังจากที่ไจก้าตอบรับที่จะให้การสนับสนุนวงเงินกู้เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นมองว่า จะเป็นผลบวกในแง่จิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นสำหรับหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง


 นางสาววิชชุดา กล่าวอีกว่า ส่วนในแง่ผลประกอบการของกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 เชื่อว่าน่าจะเป็นการเติบโตได้ตามจำนวนงานในมือที่มีอยู่เท่านั้น เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับการลงมือก่อสร้างในโครงการเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ อยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 2552 ถึงต้นปี 2553 และหลังจากนั้นตัวเลขผลประกอบการน่าจะเริ่มสะท้อนปัจจัยบวกได้อย่างต่อเนื่อง


มีลุ้นสัญญา 2 ยกกลุ่ม
 สำหรับหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขณะนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าสนใจทั้งหมด เนื่องจากแนวโน้มในการได้งานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าต่าง ๆ เท่ากันหมด โดยในแง่ปัจจัยพื้นฐาน CK ค่อนข้างได้เปรียบที่สุด เนื่องจากมีแบ็กล็อกในมือสูงถึง 3.1 หมื่นล้านบาท รวมถึงยังมีธุรกิจของบริษัทในเครือที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเสริมอีก นอกจากนี้ ปี 2551 ที่คาดว่าบริษัทจะมีความสามารถในการจ่ายปันผลที่ 0.15 บาท หรือประมาณ 4%
 ขณะที่ ITD มีแบ็กล็อกในมือที่ 56,746 ล้านบาท แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับการบริหารต้นทุนการผลิตเข้ามากดดันการเติบโตอยู่บ้าง ส่วน STEC ยังมีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับการรับงาน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกในมือเพียง 8-9 พันล้านบาทเท่านั้น 

เข้าชม: 1,205

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com