ทันหุ้น-บลจ.อเบอร์ดีนเร่งเครื่องกระตุ้นยอดขายกองสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคลเสริมทัพกองทุนรวม  หวังขยับเป้าAUMปีนี้พุ่งสูงกว่าปีก่อนที่มี 2 หมื่นล้านบาท เล็งขยายฐานกลุ่มนิติบุคคลผ่านลูกค้ากองทุนรวมที่มี 1.7 หมื่นราย รุกจับมือพันธมิตร 26 รายเสริมทัพ  ชูกลยุทธ์คัดเลือกสินทรัพย์คุณภาพเยี่ยมดึงดูด 

 นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการ(AUM)เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ประมาณ 2.04 หมื่นล้านบาท แม้เศรษฐกิจโลกถดถอย และกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลง ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะเน้นการเติบโตกองทุนรวมมากกว่าเนื่องจากมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(NAV)ขนาดใหญ่และเป็นรายได้หลักบริษัท

 สำหรับปีนี้ บริษัทมีแผนกระตุ้นยอดขายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(โพรวิเด้นท์ ฟันด์) และกองทุนส่วนบุคคล(ไพรเวทฟันด์)มากขึ้น โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้ากองทุนรวมที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของบริษัทอยู่แล้ว  ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 1.7 หมื่นราย

 “การเติบโตของบริษัทปีนี้ต้องเติบโตขึ้นแน่นอน  แต่ไม่ได้กำหนดว่าสัดส่วนเท่าใด เพราะปีที่ผ่านมาหลายบลจ.ตั้งเป้า 20-30% แต่ไม่มีใครทำได้จริง ซึ่งปีนี้จะโปรโมทกองทุนไพรเวทฟันด์ต่อเนื่องจากปี 2548 และกองโพรวิเด้นท์ ฟันด์ ที่มีตั้งแต่ปี 2544 โดยจะหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้เน้นส่วนนี้มากนักนักลงทุนจึงไม่รู้จัก”นายชัยเกษม กล่าว

 นอกจากนี้  บริษัทจะเน้นโปรโมทเพื่อกระตุ้นยอดขายผ่านสาขาบลจ.อเบอร์ดีน ซึ่งบริษัทมีทีมบริหารการตลาดจำนวน 6 คน และพันธมิตร ซึ่งเป็นตัวแทนขายหน่วยกองทุน โดยมีทั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่ไม่มีบริษัทย่อยเป็นบลจ.รวมกันประมาณ 26 ราย
 สำหรับกลยุทธ์จะเน้นจุดแข็งเรื่องคุณภาพการบริหารพอร์ต และการคัดเลือกสินทรัพย์การลงทุนที่มีคุณภาพ รวมทั้งกลยุทธ์ลงทุนระยะยาวแทนการลงทุนลงระยะสั้นเป็นหลัก แต่ไม่มีแนวคิดจะแข่งขันด้วยการปรับลดค่าธรรมเนียม(ค่าฟี)ให้บริการ เนื่องจากเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน

 “กองทุนไพรเวทฟันด์ และโพรวิเด้นท์ ฟันด์ของบริษัทจะเน้นกลุ่มลูกค้าประเภทนิติบุคคลและสถาบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่สนใจค่าธรรมเนียมอยู่แล้ว โดยลูกค้าไพรเวทฟันด์จะเน้นรับบริหารกองทุนที่มีขนาดประมาณ 300 ล้านบาทขึ้นไป”นายชัยเกษม กล่าว
 นายชัยเกษม กล่าวว่าสำหรับกองทุนโพรวิเด้นท์ ฟันด์ บริษัทจะไม่ได้กำหนดมูลค่ากองทุนขั้นต่ำ เนื่องจากเชื่อว่ากองทุนจะสามารถเติบโตขึ้นได้ในระยะยาวภายหลังจากที่กองทุนเป็นที่รู้จักของนักลงทุนมากขึ้น

 ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมยื่นประมูลราคาเพื่อบริหารกองทุนโพรวิเด้นท์ ฟันด์ อีกประมาณ 1-2 กองทุน มูลค่าหลายพันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของบลจ.อื่น แต่ใกล้ครบกำหนดอายุสัญญาปีนี้

 “ไม่มีการตั้งเป้าว่าแผนการโปรโมทครั้งนี้จะทำให้กองทุนทั้ง 2 ประเภทเติบโตขึ้นเท่าใด แต่เชื่อว่าในอนาคตจะส่งผลให้ทั้ง 2 กองทุนเติบโตขึ้นจากปัจจุบัน”นายชัยเกษมกล่าว

 ปัจจุบัน บริษัทมีกองทุนโพรวิเด้นท์ ฟันด์ ภายใต้การบริหารจำนวน 1 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ประมาณ 1.5 พันล้านบาท และบริหารกองทุนไพรเวทฟันด์ 2 กองทุน รวมมูลค่าสินทรัพย์ 3.14 พันล้านบาท