ทันหุ้น สัปดาห์นี้ฟ้าเปิดหุ้นเด้งต่อรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลุ้นดีดตัวแตะ 450 จุด ชี้หุ้นรับอนิสงส์ กลุ่มรับเหมา CK-ITD-STEC แบงค์ใหญ่ “เก็งกำไร” คอมมอดิตี้ เดินเรือ คาดอ่อนตัว แนะ “ซื้อ” เก็บ พร้อมหุ้นปันผลเพื่อใช้ป้องกันความเสี่ยงควบเก็งกำไรในกลุ่มโรงพยาบาล เกาะติดตัวเลขเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ 

 นายวรุตม์  ศิวะศริยานนท์  รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดในสัปดาห์นี้ว่า จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาออกมา ตลาดจึงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sale on fact ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมาอาจจะทำให้มีการเทขายทำกำไร(Take Profit) จึงคาดว่าดัชนีจะขึ้นไปที่ระดับ 450 จุด ให้น้ำหนักไม่ผ่าน และปรับตัวลงมาที่ระดับ 445 จุด
 อย่างไรก็ตามคาดว่าในสัปดาห์นี้ตลาดไม่น่าจะไปในทิศทางใดชัดเจน ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนให้เลือกหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ CK, ITD และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ให้เลือกลงทุนธนาคารขนาดใหญ่

 นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า ผู้ลงทุนที่ถือหุ้นอยู่ในสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้ มองว่ามีปัจจัยบวกไม่มาก เป็นลักษณะของการปรับตัวขึ้นชั่วคราว หลังจากสัปดาห์ก่อนรับปัจจัยบวกมามากแล้ว ดังนั้นกลุ่มซอฟต์คอมมอดิตี้จึงขึ้นนำตลาด ได้แก่ KSL
 สำหรับกลุ่มที่น่าจะตอบรับกับข่าวมากที่สุด คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ CK เพราะสามารถประมูลงานรถไฟฟ้าได้ แนะนำให้เก็งกำไรตามข่าว ส่วนกลุ่มคอมมอดิตี้และกลุ่มเดินเรือสัปดาห์นี้คาดว่าน่าจะเริ่มอ่อนตัวลง จึงแนะนำ “ซื้อ” เพราะกลุ่มนี้จะกลับมาเร็วจึงแนะซื้อเพื่อเก็งกำไร

 อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะตลาดจะมีปัจจัยบวกเข้ามาในช่วงนี้ แต่ในระยะยาวยังมีปัจจัยลบอยู่มากในเรื่องของการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมาลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้จะมีตัวเลขจีดีพีของประเทศญี่ปุ่นออกมากคาดว่าจะติดลบมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
 ดังนั้นจึงประเมินแนวรับดัชนีไว้ที่ 442 จุด และแนวต้าน 456 จุด ถ้าหลุดลงมาต่ำกว่าที่ระดับ 437 จุด มีโอกาสลุ้นกลับไปที่ระดับ 456 จุด ให้ทยอยขายเพราะมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ

  ด้านนางสาวศศิกร  เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มของดัชนีฯ ในสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 450-460 จุด จากแรงเก็งกำไรของนักลงทุน ต่อความคาดหวังถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่วุฒิสภาน่าจะลงมติได้   โดยประเมินแนวรับของดัชนีไว้ที่ 438-433 จุด แนวต้าน 452-463 จุด

  สำหรับปัจจัยภายในประเทศค่อนข้างนิ่งไม่มีอะไรใหม่ ด้านประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของไทย คาดว่าจะออกมาตามที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นหากออกมาไม่ดีมองว่าไม่น่าจะมีผลต่อราคาหุ้นมากนัก เพราะตลาดตอบรับกับข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
  ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การประกาศตัวเลขในส่วนของภาคเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและภายนอก ซึ่งปัจจัยภายในคือ การรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของหอการค้า และร.ฟ.ม.จะเปิดซองราคาในสัญญาที่ 2 ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง เนื่องจากจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ 

   โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “เก็งกำไร” ในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลรองรับ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ได้แก่ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล  กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ STEC แนะนำ “เก็งกำไร” รับข่าวการเปิดซองประมูลรถไฟฟ้า ส่วนกลุ่มน้ำมัน แนะนำ  BCP แม้ว่างวดไตรมาส 4/2551 ผลงานโดยรวมจะหดตัวจากสต็อกน้ำมัน แต่ในปี 52 ได้มีการป้องกันความเสี่ยงไว้แล้ว ดังนั้นผลงานปีนี้น่าจะเติบโตดีกว่าปีก่อน