May 6, 2024   6:29:37 PM ICT
บลจ.ส่องกล้องกองทองคำรุ่ง กสิกรจ้องลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์

ทันหุ้น-กองทุนเบนเข็มชี้กองทุนทองคำสดใส  ไซซ์โตรับอานิสงส์วิกฤติเศรษฐกิจเฉา  บลจ.กสิกรไทยส่องกล้องราคาทองคำ 2-3 เดือนผันผวนสูงในกรอบ 800-900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  แต่ระยะยาวเด้งต่อเนื่องหลังดีมานด์จีนและอินเดียจ้องซื้อ แบไต๋อาจเห็นกองโกลด์ ฟิวเจอร์ในตลาด  ค่ายอยุธยาไม่น้อยหน้าเล็งส่งกองทองคำลุยตลาด


 นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ผู้จัดการกองทุนฝ่ายกองทุนรวมตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทมีแนวคิดจะจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อเข้าไปลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าราคาทองคำ (Gold Futures) ที่จะเปิดให้ซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ในวันนี้ (2 ก.พ.2552) เช่นกัน
 “บริษัทไม่ได้ปิดโอกาสที่จะเข้าไปการลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์ เพราะมองว่าเป็นโอกาสที่จะช่วยเพิ่มช่องทางลงทุนให้กับนักลงทุน ซึ่งทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจอยู่มาก แต่อาจต้องใช้เวลาในการพิจารณาก่อนเพราะยังเป็นช่วงแรกของการซื้อขายเท่านั้น”นายวินกล่าว


 สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในช่วงสั้น 2-3 เดือนหลังจากนี้มีโอกาสจะผันผวนอยู่ในระดับราคา 800-900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เนื่องจากอยู่ในช่วงของการประเมินผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่มองว่าราคาทองคำในระยะยาวจะสามารถเติบโตได้ดีทุกภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งช่วงนี้ทองคำจะได้รับประโยชน์จากการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งราคาทองคำจะมีลักษณะผกผันกับภาวะเศรษฐกิจอยู่แล้ว


 อย่างไรก็ตาม หากแนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นจริง เชื่อว่าจะมีความต้องการสูงจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตเครื่องประดับ(จิวเวลรี่)รายใหญ่ของโลก เช่นจีน อินเดีย กลับมาปรับเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งเพื่อทดแทนยอดขายในช่วงก่อนหน้านี้ “จีน และอินเดียจะเป็นประเทศที่ชื่นชอบทองคำมากอยู่แล้ว จึงเชื่อว่าทองคำได้รับความสนใจมาก ซึ่งมองว่าจะส่งผลดีต่อกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทองคำด้วย”นายวิน กล่าว


 ทั้งนี้แนะนำให้ลูกค้าระยะยาวควรมีการลงทุนในทองคำเพื่อใช้กระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน โดยเบื้องต้นแนะนำให้ลงทุนในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5-30% ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุน ขณะที่นักลงทุนระยะสั้นช่วงนี้ไม่แนะนำให้ลงทุน


 สำหรับกองทุนเปิด เค โกลด์ (K-Gold) ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทยอมรับว่าปัจจุบันจะมีอัตราผลตอบแทนปรับลดลง ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีราคาทองคำของสหรัฐเนื่องจากกองทุนจะลงทุนในลักษณะดัชนี ETF รวมทั้งราคาทองคำช่วงเริ่มต้นลงทุนจะอยู่ที่ 950 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 800-850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์


 “ลูกค้าส่วนใหญ่จะรับความเสี่ยงได้  และไม่มีความกังวลมากนัก ส่วนการแนะนำการลงทุนในกองนี้ลูกค้ามีการเทรดทองคำทำกำไรบ้างเพราะตอนนี้ราคาผันผวนสูง ทำให้กองทุนมีขนาดที่เล็กลงมาอยู่ที่ 430 ล้านบาท  จากขนาดกองใหญ่สุดอยู่ที่ 800 ล้านบาท ขณะที่ขนาดกองทุนเริ่มต้นอยู่ที่ 200 ล้านบาท และเชื่อว่าระยะยาวจะปรับขึ้นได้”นายวิน  กล่าว


 นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)อยุธยา จำกัด AYF  กล่าวว่า  แนวโน้มกองทุนทองคำปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นเนื่องจากเชื่อว่าความต้องการของลูกค้าจะสูงขึ้น รวมทั้งราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอีก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง รวมทั้งมาตรการอัดฉีดเงินเข้าในระบบ ส่งผลให้มีโอกาสสูงที่จะมีเม็ดเงินเข้าไปในประเทศสูงขึ้น


 นอกจากนี้ หากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวได้รวดเร็ว จะส่งผลต่อเนื่อง ทำให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่กระจายความเสี่ยงจากเงินเฟ้ออยู่แล้ว


 “บริษัทกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาการออกกองทุนที่ไปลงทุนในทองคำเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายได้เร็วๆนี้ และมองว่ากองทุนทองคำน่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีก เพื่อเป็นการตอบโจทย์ให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำ ที่แตกต่างกันระหว่างการเก็งกำไรจากการซื้อทองคำแท่ง หรือการลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์ส ซึ่งเชื่อว่าราคาทองคำในอนาคตจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปสูงมากกว่านี้ได้อีก”นายประภาส กล่าว 

เข้าชม: 1,811

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com