ทันหุ้น-บล.โกลเบล็ก เตือนลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สอย่าผลีผลาม ศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ก่อนเข้าลงทุน ชี้ 5 ปัจจัยกระทบราคาทอง เงินเฟ้อราคาน้ำมัน วิกฤติทางการเมือง ค่าเงินดอลล่าร์ ดีมานด์ซัพพลาย ชี้ความเสี่ยงช่วงตลาดปิด แนะวางเงินประกันเกินจำนวน  15-20% ระบุโกลด์ฟิวเจอร์สใช้เก็งกำไรเกือบ 100% ต้องระวังเป็นพิเศษ ไม่ถือสถานะเกินตัว เชื่อวอลุ่มแรงกว่าสต๊อกฟิวเจอร์ส

 นายสัญญา  หาญพัฒนกิจพานิช  หัวหน้าทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า การซื้อขายทองคำล่วงหน้า(โกลด์ฟิวเจอร์ส) จะมีลักษณะคล้ายกับ SET50 Index Futures แต่มีสินค้าอ้างอิงเป็นราคาทองน้ำหนัก 96.5% ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ผู้ลงทุนไทยนิยมซื้อขายกัน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลทองให้ดีก่อนการลงทุน

 “ในช่วงแรกไม่ควรพลีพลามหรือหลับหูหลับตาเพราะจะเหมือนกับการพนัน ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่าทองเป็นยังไง หากเข้าใจถี่ถ้วนแล้วจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าขาดทุน ดูความเสี่ยงของตัวเองว่ารับได้มากแค่ไหน ไม่เล่นเกินตัว” นายสัญญา กล่าว

 สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำประกอบไปด้วย 5 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยแรก เงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ซึ่งเงินเฟ้อส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับราคาน้ำมัน ทำให้ราคาทองมีแนวโน้มสูงตามไปด้วย ปัจจัยที่สอง วิกฤติทางการเมือง หากเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองจะส่งผลต่อราคาทองให้พุ่งสูงขึ้น
 ปัจจัยที่สามค่าเงินดอลล่าร์เทียบกับสกุลเงิน หากค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นราคาทองคำที่ซื้อขายในตลาดโลกจะถูกลง ส่วนปัจจัยที่สี่และที่ห้าคืออุปสงค์และอุปทานของทองคำในตลาด ช่วงที่ทองคำขาดตลาดมีความต้องการมากทำให้ราคาทองแพง ขณะเดียวกันหากสินค้าในตลาดมีมากเกินไปทำให้ราคาทองคำมีราคาถูก

 เมื่อรู้ว่าราคาทองเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดแล้วขั้นตอนต่อไปให้ผู้ลงทุนวางหลักประกัน ศึกษาระดับหลักประกันรักษาสภาพ(Maintenance Margin) การถูกเรียกเก็บเงินประกันเพิ่ม(Call Margin) และการคิดนวณผลกำไรขาดทุนทุกสิ้นวัน(Mark to Market)

 อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักลงทุนควรระวังคือความเสี่ยงจากการซื้อขายสัญญาต่อน้ำหนักทองคำ 50 บาท ซึ่งจะต้องวางหลักประกันจำนวน 66,500 บาทต่อ 1 สัญญา เมื่อราคาทองเปลี่ยนแปลงจะมีความเสี่ยงจากการชำระราคา(Clearing) สูง

 นอกจากนี้เนื่องจากราคาทองคำในช่วงหลังนี้มีความผันผวนสูง ดังนั้นการถือสถานะข้ามคืนจะต้องมีความระมัดระวัง ซึ่งการวางหลักประกันพอดีถือเป็นความเสี่ยง เพราะฉะนั้นควรวางหลักประกันเกินจำนวนประมาณ 15-20% หากเงินเหลือไม่เพียงพอผู้ลงทุนอาจจะถูกบังคับให้ปิดสถานะ ทำให้มีโอกาสขาดทุน จึงอยากให้ผู้ลงทุนสำรวจตัวเองก่อนว่าสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน

 อีกทั้งจะต้องกำหนดว่าลงทุนเพื่อใช้เก็งกำไร หรือบริหารความเสี่ยง เพราะการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สจะแตกต่างจากหุ้น ซึ่งจะเป็นการเก็งกำไรเกือบ 100% จึงต้องมีความระวังเป็นพิเศษ ไม่ถือสถานะมากเกินตัว ซึ่งในช่วงแรกคาดว่ามีสภาพคล่องน้อย แต่น่าจะมีสภาพคล่องที่ดีกว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงหุ้นรายตัว(Stock Futures) โดยนักลงทุนควรเลือกซื้อขายสัญญาเดือนใกล้ที่สุด

 นายสัญญา กล่าวต่อว่า จุดแข็งของ บล.โกลเบล็ก มีความได้เปรียบในเรื่องของความชำนาญการซื้อขายทองคำมาเป็นระยะเวลานานเพราะมีผู้ถือหุ้นเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดทองคำ แต่ค่อนข้างเสียเปรียบร้านทองขนาดใหญ่

 อย่างไรก็ตาม บล.โกลเบล็ก กำลังจะเซ็นต์สัญญาร่วมเป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง(มาร์เก็ตเมกเกอร์) กับตลาด TFEX ซึ่งจะเริ่มเข้าไปสร้างสภาพคล่องให้กับโกลด์ฟิวเจอร์สหลังจากการเซ็นต์สัญญาแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้

 สำหรับแผนการจัดอมรมสัมมนาโกลด์ฟิวเจอร์สเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนในต่างจังหวัด จะเริ่มในจังหวัดฉะเชิงเทรา สงขลา หาดใหญ่ นครสวรรค์ รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุน โดยในช่วงแรกคาดว่ากลุ่มผู้ลงทุนซื้อขายหุ้นและผู้ประกอบการค้าทองจะเข้ามาซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สก่อน จากนั้นจึงเป็นนักลงทุนทั่วไป

 นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวธุรกรรมซื้อขายทองคำแท่งควบคู่ไปด้วยภายใต้ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง เมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อขายทองคำน้ำหนักตั้งแต่ 5 บาท 10 บาท และ 50 บาท โดยทองคำแท่งจะมีทั้งความบริสุทธิ์ 99.99% และ 96.50% สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นรายย่อยเป็นหลัก

 ด้านนายสมบูรณ์  วัฒนาอาษากิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TNS เปิดเผยว่า เชื่อว่าทุกโบรกมีความพร้อมในการเปิดเทรดสัญญาทองคำล่วงหน้า(โกลด์ฟิวเจอร์ส) แล้ว ที่ผ่านมามีผู้ลงทุนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ลงทุนเดิม และผู้ลงทุนหน้าใหม่ ที่ผ่านมาเกิดปรากฎการณ์ปิดร้านทองเพราะไม่มีเงินเพียงพอให้กับผู้ที่นำทองมาขายร้านทอง จึงทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโกลด์ฟิวเจอร์สมีความเหมาะสมในช่วงนี้

 นอกจากนี้โกลด์ฟิวเจอร์สมีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย(คอมมิชชั่น) ที่ถูกกว่าซื้อขายร้านทอง อีกทั้งนักลงทุนสามารถซื้อในราคาปัจจุบัน(Real Time) หากอยากซื้อขายที่ราคาไหนสามารถตั้งเสนอซื้อ(Bid) หรือเสนอขาย(Offer) ด้วยตัวเองได้ และยังสามารถขายก่อนหากคาดการณ์ว่าทิศทางราคาทองคำจะเป็นขาลง ขณะเดียวกันก็สามารถซื้อก่อนหากคาดการณ์ว่าทิศทางราคาทองคำจะเป็นขาขึ้น

 สำหรับข้อเสียอาจจะมีความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดประเทศไทยปิดทำการ ขณะที่ตลาดต่างประเทศมีการซื้อขายทองคำตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนข้อดีการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สจะอิงกับราคาทองในตลาดโลก