May 14, 2024   12:54:57 AM ICT
มุมมองเฮียร๊อค!วันศุกร์

พักการเล่น รอซื้อไม้สุดท้าย..น่าจะดีกว่า

4 โบรกฯฝรั่งพร้อมใจกันขายออกมา 1,600 ล้านบาท ราคาหุ้น BlueChip ไม่ว่าจะเป็น PTT, PTTEP, ATC, BANPU, TOC, ADVANC, TISCO, AH, UCOM, KBANK, BBL, BAY ฯลฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ฝรั่งกลุ่มนี้เคยออก Research ให้น้ำหนัก Buy ราคาหุ้นกลุ่มนี้วันนี้ไหลลงมาเข้าใกล้ราคาทุนในช่วง 3 เดือนนี้แล้ว เกิดอะไรขึ้น!!! ผมเชื่อว่าการขายตรงนี้ เป็นเพียงการใช้สถานะการณ์และใช้เงินไม่มากนักทุบหุ้นลงมา เพื่อเตรียมซื้อกลับมากกว่า ทำไมผมมองแบบนั้น ลองอ่านให้จบมุมมองของผมวันนี้ดูครับ แล้วลองถามตัวเองด้วยว่ามีความคิดเห็นสวนทาง โต้แย้งกับสิ่งที่ผมคิดในจุดไหนบ้าง คิดหลายๆหัวน่าจะดีกว่าที่ผมจะมานั่งคิดหัวเดียวนะ

วันนี้ SET ขึ้นไปสูงสุดที่ประมาณ 635 และตีลังกากลับลงมา 616 ก่อนที่จะขึ้นมาปิดที่ 621 เรียกว่าตลาดแกว่งในวันเกือบ 20 จุด ตลาดแกว่งๆแบบนี้อย่างน้อยๆก็ทำให้เราสามารถหาสิ่งที่ชดเชยจากราคาหุ้นในพอร์ตได้บ้าง แต่การจะทำแบบนั้นได้ หากไม่มีเส้นสายอ่านความคิดของคนในตลาด ผมก็ยังมองไม่ออกว่าเราจะสังเกตุจากอะไรได้บ้าง ดังนั้นโอกาสแบบนี้จึงเป็นโอกาสของคนที่อ่านใจคนในตลาดได้เท่านั้น ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นไม่สามารถเอามามองสั้นๆได้เลย ไม่ว่าจะค่า P/E หรือผลดำเนินงาน หรืออัตราผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล สิ่งเหล่านี้เป็นเพียง ข้ออ้าง ที่เอามาใช้ในยามที่หุ้นเป็นขาขึ้น แต่คนที่มีเงินมากกว่าที่สามารถกำหนดทิศทางหุ้นไทยมันรู้ว่ารายย่อยส่วนมากดูปัจจัยพื้นฐานตรงนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะขายหุ้นตรงราคาปัจจัยพื้นฐานได้อย่างสบายๆ และในเวลาที่ต่างชาติกลับใจมาเล่นทางขาขึ้น ก็เอาข้ออ้างแบบเดิมๆมาเป็นเครื่องมือในการปั่นราคาขึ้นมา ถามว่าต่างชาติคิดแบบนี้เหมือนกันหมดทุกคนไหม ผมว่าจะมีทั้งต่างชาติที่เป็นนักลงทุนระยะยาว ที่ลงทุนตามปัจจัยพื้นฐานจริงๆ เป็นการลงทุนสายป่านยาวๆ และต่างชาติที่เล่นเก็งกำไรเป็นรอบๆสั้นๆ และที่ผ่านมาตลอดหลายปีทำให้เราเห็นว่าต่างชาติที่เป็นนักเก็งกำไรมีสัดส่วนที่มากกว่า ดังจะเห็นได้จากการขายหุ้นไทยออกมาเฉียดแสนล้านตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว เรามีคำว่า การลงทุนที่มีหลักการ แต่คนที่ชี้นำตลาดไม่ได้เล่นตามหลักการ แต่ใช้ช่องโหว่ทางความคิดของหลักการการลงทุนเอามาสร้างผลประโยชน์กอบโกยออกไปนอกประเทศ ทิศทางตลาดจะไปทางไหน รูปแบบการลงทุนจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่อยู่ที่จำนวนของนักลงทุนแต่อยู่ที่จำนวนของเงิน เพราะหากคนที่มีเงินหน้าตักมากที่สุดคิดแบบไหน ตลาดก็มักจะออกมาตามที่คิดแบบนั้น คำว่าลงทุนแบบมีหลักการ ผมเชื่อว่าตราบใดที่กองทุนไทยและรายย่อยยังไม่สามารถรวมความคิดไปในทางเดียวกันได้ ช่องโหว่ของการหากำไรสั้นๆตรงนี้ก็จะเป็นโอกาสของคนที่หาโอกาสเจอเป็นแบบนี้ต่อๆไป ผมหวังว่าสักวันพวกเราจะเป็นนักลงทุนที่มีหลักการเพิ่มมากขึ้น แต่กว่าวันนั้นจะมาถึงคงต้องใช้เวลาอีกนาน อ่านนิสัยของคนก็พอที่จะรู้ว่านักลงทุนไทยคิดอย่างไร และความคิดแบบไหนที่มีมากกว่ากัน การลงทุนผมย้ำเสมอว่า ต้นทุนเรื่องเวลา เราไม่เคยคิดกันแต่ผมกลับให้ความสำคัญของ เวลา เรามักจะมองไปที่เงินที่ลงทุนกับผลตอบแทนที่ได้รับในแต่ละปี และมักจะเอาไปเปรียบเทียบกับการฝากเงินในระบบธนาคาร ซึ่งผมถือว่ามันเป็นสิ่งสมมุติทั้งสิ้น เพราะเราเคยเห็นดอกเบี้ยร้อยละ 15 ร้อยละ 10 และวันนี้ร้อยละ 2 ล้วนเป็นตัวเลข สมมุติ ที่สร้างขึ้นมาในแต่ละสถานะการณ์ทั้งสิ้น คงต้องรอให้ช่องโหว่ทางความคิดหรือคนกำหนดทิศทางหุ้นไทยคิดลงทุนแบบมีหลักการแบบนั้นก่อน เวลานั้น Technical จะไม่มีประโยชน์ในการอ่านใจคนเลย เพราะคนส่วนใหญ่หรือเงินส่วนใหญ่คิดยังไงตลาดก็ไปอย่างนั้น แต่ผมเชื่อว่าจะไม่มีตลาดแบบนั้นในโลกนี้ เพราะผลประโยชน์ที่เป็นโดมิโน่ต่อธุรกิจต่างๆมันอยู่ได้ด้วยคำว่า เก็งกำไร มากกว่าคำว่า ลงทุน หากตลาดเราใหญ่มากกว่านี้แบบในอเมริกาผมเชื่อว่าการลงทุนที่มีหลักการจริงๆจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก และให้ผลสำเร็จของการลงทุนที่ดีได้เลยนะ แต่ตลาดบ้านเราเล็กนิดเดียว เจอเงินต่างชาติไหลทะลักเข้า-ออกหลักการของเราก็ล้มคลืนได้ง่ายๆเหมือนกันนะ นอกจากจะหนีไปเล่นหุ้นที่ต่างชาติไม่เล่น แยกตัวออกไปเล่นหุ้นในกลุ่มที่คนไทยเล่นๆกันและเลือกลงทุนในหุ้นที่เจ้าของกิจการนั้นๆคิดแบบมีหลักการ ซึ่งก็มีมากมายที่เราพอจะจับต้องหุ้นเหล่านั้นได้ ผมว่าคงต้องใช้เวลาอีกนานเลยครับกว่าตลาดบ้านเราจะสามารถกำหนดทิศทางตลาดได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งกระแสเงินต่างชาติ เราจะรอวันนั้น!!!

FSUM กระแสเงินต่างชาติ

จาก indicator กระแสเงิน วันศุกร์อาจจะเห็นฝรั่งขายน้อยลงได้บ้างแต่ยังถือว่าอยู่ในแนวโน้มของการขายสุทธิต่อ แต่สัญญานการกลับตัวของ indicator ก็ใกล้เข้ามาแล้วเหมือนกันนะ ไม่น่าจะรอนานนะ

 

 

ISUM กระแสเงินกองทุน

สัปดาห์หน้ามีโอกาสจะเริ่มเห็นกองทุนไทยหันกลับมาช่วยรายย่อยซื้อได้บ้างแล้ว

 

CSUM กระแสเงินรายย่อย

รายย่อยส่วนหนึ่งเชื่อว่าราคาหุ้นได้ลงมาถึงราคาปัจจัยพื้นฐานแล้ว เราจะเห็นกระแสเงินรายย่อยอยู่ในทิศทางซื้อสุทธิต่อ

ผมมองความคิดของคน 3 คนที่ผ่านการควักเงินออกมาซื้อขายหุ้น เห็นว่ารายย่อยยังจะซื้อสุทธิต่อได้แต่คงอีกไม่มากและไม่นานนัก บวกกับฝรั่งเองก็น่าจะยังขายสุทธิต่อได้ต่อแต่จะมีกองทุนไทยที่สัปดาห์หน้ามีโอกาสจะพลิก indicator กลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิบ้างแล้ว ดังนั้นหากมองทิศทางตลาดผ่านการใช้เงิน เราเริ่มเห็นสัญญานว่าขาลงที่เกิดจากการซื้อสุทธิของรายย่อยใกล้จะหมดแรงแล้ว เมื่อเปลี่ยนคนซื้อทิศทางตลาดก็จะเปลี่ยนไปตามด้วย ดังนั้นเราจะตามไปดูว่า วันที่เกมส์ตลาดเปลี่ยน รายย่อยกลับมาขาย ฝรั่งกลับมาซื้อน่าจะอยู่ที่ตำแหน่ง SET ที่เท่าไหร่ ???

 

หากยังจำเรื่อง Election-SET ได้ ที่ผมมองว่าพฤติกรรมของการเลือกตั้งใน 5 ครั้งที่ผ่านมา เรามักจะเห็นตลาดหุ้นไทยขึ้นก่อนการเลือกตั้งและขึ้นไปต่อเนื่องจนจบการเลือกตั้ง รูปแบบนั้นอาจจะไม่เกิดก็ได้แต่เราก็ลองเอามาคิดเผื่อไว้เฉยๆ แต่หากเอาเรื่องปัจจัยเรื่องกระแสเงินของคน 3 คนในปัจจุบันและรูปแบบของการเข้ามาซื้อขายของฝรั่งในช่วงนี้กลับเห็นว่ามันมีโอกาสจะเกิดแบบนั้นได้ จากกราฟรูปนี้มันแสดงโอกาสว่าจะเกิดแบบนั้นจริงๆ นั่นคือเราจะเห็นตลาดหุ้นไทยลงมารอบนี้เป็น ครั้งสุดท้าย ซึ่งจากวันนี้ที่ SET อยู่ที่ 621 เราจะยังคงต้องทนเห็น SET ปรับตัวลงมาต่อและหุ้นเล็กหุ้นใหญ่จะยังคงพร้อมใจกันกดราคา Discount กันลงมาต่อ

 

ผมอาจจะคำนวนแนวรับพลาดไป เพราะวันนี้มานั่งมองในรายละเอียดกลับเห็นว่าจุดต่ำสุดของหุ้นไทยน่าจะอยู่ที่ 595 และผมก็เชื่อว่าไม่มีทางที่ SET จะหลุดลงไปมากกว่านี้ รายย่อยซื้อใกล้หมดแรงซื้อแล้ว ฝรั่งเองก็ขายลงมาใกล้จุดกลับมาซื้อแล้ว อีกทั้งกองทุนไทยก็ใกล้กลับมาซื้อด้วยเช่นกัน ทำให้มองว่ามีความเป็นไปได้ว่าขาลงครั้งนี้ลงต่อแน่และจะกลับมาเป็นขาขึ้นไปยาวได้แน่ๆ ดังนั้นจากเรื่อง Election-SET ที่ผมมองว่าจุดน่าซื้อหุ้นน่าจะเป็นกลางเดือน 11 และถือลงทุนยาวไปจนถึงเดือน 2 ปีหน้าพร้อมกับตัวเลข SET ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนก็สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ

 

indicator ระยะ Week

indicator ระยะ Week กับเรื่องของกระแสเงินหรือแม้นแต่เรื่องของ Election-SET ที่ผมเคยเอาลง (ตอนนี้ลบไปแล้ว วันอาทิตย์นี้คงเขียนให้อ่านใหม่ครับ) ล้วนสนับสนุนความคิดว่า SET จะยังคงลงต่อและมีโอกาสที่จะลงมาแถวๆ 595 ดังนั้นอาจจะเรียกได้ว่า ฟันธง ได้เลยว่า หุ้นไทยไม่น่าจะหลุดต่ำกว่า 595 แต่อย่างไรก็ตามเรามีปัจจัยภาคใต้ที่เพิ่งจะเข้ามาเบี่ยงเบน indicator ดังนั้นคงต้องติดตามดูเป็นระยะๆเวลาที่ SET เข้าใกล้ 595 กันอีกทีครับ ถามว่าเวลานี้คนมีหุ้นควรทำอย่างไร อยากบอกว่าเราจะไม่เห็น SET ลงทุกวัน มันจะมีวันขึ้นวันลงแต่เป็นแนวโน้มขาลง ดังนั้นการจะเลือกทำ Short Again Port คงไม่อาจจะเลือกทำตามใจชอบได้ง่ายนักหากไม่มีเส้นสาย Technical ติดตามดู แต่หากพอจะทนแรงแกว่งของตลาดได้ ผมว่าไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์หุ้นไทยน่าจะจบการลงแล้วนะ

 

 

มาลองดูความคิดของคนในตลาดระยะ 1 นาทีกันดูครับ เราจะเห็นกรอบของจิตใจ ความกล้าของตลาดว่าเล่นในกรอบ ดังนั้นวันศุกร์นี้ 625 จะเห็นไหม จะผ่านไปเลยไหม หรือหักหัวลงมาต่อ !!!

 

ลุ้น Sto บวกได้ต่อแต่จะมากน้อยแค่ไหน Sto บอกไม่ได้ครับ

 

MACD Osc ถูกใช้มากเกินไป ความกล้าของตลาดซึ่งตอนนี้ก็คือของรายย่อยไม่น่าจะกล้ามากไปกว่านี้มากนัก

 

ผมสรุปสั้นๆเลยนะ จาก indicator ของ 5 นาที มีลุ้นให้เปิดบวกได้ โดยมี 625 เป็นจุดที่คาดว่าน่าจะไปได้(เท่านั้น) ตามไปดู indicator ที่รับช่วงต่อไปกันต่อครับว่า 625 แล้วไปต่อหรือกลับลงมา

 

 

 

Sto 30 นาทีก็มีลุ้นว่าอาจจะลากจาก 625 ไปได้ต่อได้เหมือนกันครับ แต่ตัวที่จะบอกความมั่นใจต้องไปดูที่ 3 ทหารเสือของผมครับ ไปดูกันต่อครับ

 

3 ทหารเสือของผมมันก็มีโอกาสจะลากยาวได้เหมือนกันนะ แต่ถามว่าเวลานี้ฝรั่งยังน่าจะขาย บวกกับกระแสเรื่องทางภาคใต้อีกทั้งเจอวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เลยต้องมองว่า 625 น่าจะเห็นแต่มากกว่านั้นยังไม่แน่ครับ ยังไงขอดู OBV เป็นตัวยืนยันโอกาสอีกครั้งครับ

 

ดูแล้วกลัวว่าจะเหมือนแบบวันพฤหัสเลยนะคือขึ้นไป 625 หรือบวกประมาณ 3-5 จุดแล้วปรับตัวลง แต่หากผ่าน 625 มันต้องมีกระแสเงิน OBV ลากทะลุขึ้นไปซึ่งหากไม่มีกราฟดูก็ไม่รู้จะบอกได้ยังไงนะ แต่หากดูระดับของ OBV ในรูปบนก่อนหน้านี้หากลงทะลุลงมา ได้เจอขาลงยาวแน่เลยนะ ถามว่าโอกาสขึ้นเกิน 625 ในมุมมองของผมดูแล้วมีโอกาสน้อยนะ ดังนั้นเพื่อการเล่นแบบ Safety เพราะเราไม่ได้เล่นหุ้นเพียงวันเดียว คนไม่มีหุ้นหรืออยากจะซื้อหุ้นยังคงปิดประตูซื้อไว้ก่อน แต่ถามว่าน่า Short Again Port ไหมผมว่าน่าทำนะ ปัจจัยเรื่องภาคใต้เป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดไม่ออกว่าจะมีอะไรตามมาอีกไหม แต่ด้วยปัจจัยเรื่องกระแสเงินของคน 3 คน ทำให้ต้องมองว่าแนวโน้มขาลงยังไม่จบ ดังนั้นไม่ซื้อแต่หากอยาก Short หุ้นบางส่วนผมว่าน่าจะทำนะ ยิ่งหุ้น BlueChip ในความสนใจของฝรั่งน่าจะยังเห็นฝรั่งปรับพอร์ตลงมาต่อก็น่าจะทำได้บ้างแต่หากไม่รู้ว่าจุดไหนน่าทำ ตำแหน่งช่วงเวลาไหนทำแล้วคุ้มและได้ผลตอบแทนดีที่สุด ผมว่าทนตลาดแกว่งไปดีกว่านะ เพราะตลาดไม่น่าจะลงไปนานมากแล้ว ลงหนะลงแต่ก็เข้าใกล้จุดต่ำสุดแล้วก็น่าจะทนถือได้นะ ก่อนนี้ทนมามากยังทนได้ ลองเชื่อเส้นสายความคิดของตลาดดูนะ 595 ผมว่าไม่น่าจะลงไปกว่านี้แล้ว

 

 

indicator ระยะ day ยังคงชี้แนวโน้มลงต่อแต่วันศุกร์อาจจะเบรคการลงระยะสั้นๆได้ แต่เพราะผมยังเห็นแนวโน้มลงต่อดังนั้นขอหยุดซื้อไว้ก่อนนะ การเล่นเก็งกำไรสั้นๆช่วงนี้ผมว่าได้ไม่คุ้มนะ วันศุกร์อาจจะเล่นในกรอบ 615-625 หรือบวกลบ 3-5 จุดในวัน ผมว่ารอซื้อไม้สุดท้ายตรง 595 ซึ่งคงต้องค่อยๆตามดูเป็นระยะๆดีกว่าครับ ตอนนี้ขอให้หยุดซื้อไว้ก่อนนะ หากตลาดจะ Rebound ก็ไม่น่าจะไปไหนไกลยังคงต้องปรับตัวลงตามกระแสเงินและแนวโน้มของ indicator แต่เพราะผมมองว่าไม่น่าจะลงต่ำกว่า 595 ก็น่าจะพักการเล่นและหยุดรอซื้อไม้สุดท้ายกันตรงนั้นดีกว่าครับ

สรุปว่าระยะสั้นๆในวันยังมองไม่ชัดว่า 625 จะผ่านไปได้ไหมเพราะมันมีโอกาสผ่านได้แต่เล่นในกรอบแคบๆแต่สัปดาห์หน้ายังเห็นแนวโน้มลงต่อ อีกทั้งเรื่องกระแสเงินต่างชาติ indicator ระยะ Week ตลอดจนรูปแบบของ Election-SET ทำให้เราต้องหยุดรอดู ไม่ซื้อแต่จะซื้อแบบกระสุนหมดแมกซ์ที่ 595 น่าจะดีกว่า ไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์นี้ที่หุ้นไทยน่าจะจบสิ้นขาลง ดังนั้นช่วงสัปดาห์หน้าก็จะเห็นหุ้นขึ้นๆลงๆได้ ดังนั้นหุ้นในพอร์ตก็อาจจะขึ้นๆลงๆแกว่งตัว เราก็น่าจะทนให้ได้เพราะผมเชื่อว่าหลังกลางเดือนนี้หุ้นไทยจบขาลงและน่าจะเดินหน้ารับการเลือกตั้ง Happy new Year - January Effect - Valentine ได้เลยนะ ยังไงช่วงนี้ผมว่ามองแนวโน้มยาวๆดีกว่านะ เล่นสั้นๆอย่าเพิ่งเลยครับ เหมือนหัวข้อเวปครับ พักการเล่น รอซื้อไม้สุดท้าย..น่าจะดีกว่า

ขอให้โชคดีครับ

ช่วงนี้การเขียนของผมยังไม่เข้าที่แต่อารมณ์แบบเดิมๆก็ใกล้กลับมาครบแล้ว ช่วงนี้เลยเขียนสรุปมากหน่อยครับ แล้วเจอกันวันอาทิตย์ครับ

เข้าชม: 1,117

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com