สรุปปัจจัย / ประเมินแนวโน้มตลาด ปัญหาไฟใต้เป็นตัวกดดันตลาด: ในขณะที่พัฒนาการของราคาน้ำมัน-ค่าเงิน-กำไร บริษัทเป็นบวก
ตลาดไทยตกลง 5% ใน 2 วันทำการโดยนักลงทุนต่างประเทศ และ กองทุนขาย 3.73 พันล้าน และ 1.37 พันล้านตามลำดับ นับเป็นปัจจัยทางการเมืองภายในที่สำคัญต่อการ ลงทุน เนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 85 ศพ ที่รุนแรงในประเทศที่มีความสงบเช่นประเทศ ไทย เป็นจุดผิดพลาดที่เราประเมินปัญหานี้ต่ำไปเนื่องจากคาดการณ์การก่อการร้ายในประเทศ ทำได้ยก อย่างไรก็ดี ตัวแปรทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ได้มีพัฒนาการขึ้นในระยะนี้ ดังต่อไปนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลง 5% เมื่อคืนวานหลังจากที่ตลาดนิวยอรค์รับรู้ตัวเลขน้ำมันดิบ คงคลังเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล แม้น้ำมันให้ความร้อนลดลง 6 แสนบาร์เรล และ น้ำมันกลั่นแล้ว ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลก็ตาม ตลาดได้รับรู้ว่ามีปริมาณน้ำมันมากพอแม้พายุจะได้ทำให้การผลิต ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ลดลงก็ตาม ทำให้การเก็งจุดหมุนขาลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลัก ใหญ่เป็นราคาน้ำมัน และ สินค้าปฐมภูมิพื้นฐาน ในภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมั่นคงเป็นไปตาม คาด แต่ก็เป็นปัจจัยทางการเมืองที่จะจำกัดตลาดได้ สัมพันธภาพตลาดไทย และ ราคาน้ำมันในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ดุลการค้าในเดือนกันยายนที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศมาเกินดุลถึง 483 ล้าน US$ จากการส่งออกสูงขึ้น 22% เป็น 8.67 พันล้าน US$ แม้การนำเข้าจะสูงขึ้น 29% เป็น 8.18 พันล้านบาท แสดงว่าการพัฒนาส่งออกเรื่องการจับตลาดและ ผลิตภัณฑ์ ใหม่ทำได้ดี การแข็งค่า เงินเยนก็เป็นเรื่องดี ประเทศไทยมีดุลสภาพคล่องในประเทศสูงก็จะสามารถมีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ ได้นานออกไปอีก รวมทั้งมีดุลบัญชีเดินสะพัดจากการท่องเที่ยวเกินดุลเฉลี่ยเดือนละ 400-500 ล้าน US$ การอ่อนค่าของ US$ ลดแรงการดึงอัตราดอกเบี้ยในประเทศได้ดี พลวัตรค่าเงินบาท ผลประกอบการไตรมาส 3/47 ออกมาก็ยังดี เช่น SCC, RATCH และ กลุ่มปิโต รเคมี นอกจากนั้นการคาดการณ์งบโดยรวมก็ออกมาในเกณฑ์ดี และ โอกาสโตในไตรมาส 4/47 ก็ยังต่อเนื่อง โดยที่ปีหน้าจะต้องดูเรื่องแนวโน้มราคาน้ำมันที่จะมีผลได้ทั้งบวก และ ลบ ประเทศไทยต้องอยู่กับปัญหาทางใต้นานขึ้นแน่นอน- แต่หุ้นหลายตัวก็มีผลกระทบ เรื่องนี้ไม่มาก และ รับผลดีจากปัจจัยอื่น ๆ เดินเรือ (TTA/PSL/RCL) ที่ตกลงมามากจากความกังวลเรื่องการชะลอตัว เศรษฐกิจจีน แต่หากราคาน้ำมันเบาตัวลง และ เศรษฐกิจโลกไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย การทำ กำไร และ กระแสเงินสดจะมีศักยภาพมาก และ การประกอบการของผู้เดินเรือก็ไม่น่าจะได้ รับผลจากการก่อการร้ายในประเทศแต่อย่างไร หุ้นสื่อสาร/รับเหมาเครือข่ายที่มีการเติบโต เช่น SAMART (เป้าหมาย 9.30 บาท) และ SHIN/SHIN-W1 (เป้าหมาย 48 บาท) ก็ยังเป็นตัวทำเงินด้านการสื่อสารที่ยังไงก็ต้องใช้ ในด้าน SHIN/ADVANC หากเครือข่ายยังปลอดภัย หรือ มีแผนการสำรองหากเกิดเหตุการณ์ เช่นระบบดาวเทียมก็ไว้วางใจได้ระดับหนึ่ง ITD เป้าหมาย 11.5 KTECH หุ้นก่อสร้างที่มีพัฒนาการด้านการรับงาน และ การ ลดต้นทุนจากการซื้อของเงินสด (KTECH) และ การผลิตวัสดุเอง (ITD) เป้าหมาย 6.9 บาท โดยเฉพาะ ITDที่กองทุน และ ฝรั่งขายลงมาแรงมากไม่สมเหตุผล เนื่องจากมีความสัมพันธ์ กับปัญหาไฟใต้ต่ำมาก ธนาคาร BBL, SCB, KTB, BAY ที่มีการเติบโตดี ความเสี่ยงการจัดชั้นหนี้ที่พอ จัดการได้ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงบ้างหากมีจิตวิทยาของไฟใต้ยังต่อเนื่องแต่ธนาคาร ไทยก็มีปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างมั่นคง
| | เข้าชม: 1,052 |
|
