ตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ : ดัชนีหุ้นไทยปิดลบจากสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่
SET วานนี้ปิดลบ 1.62% ต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากแรงเทขายหุ้นขนาด ใหญ่ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน แบงก์ สื่อสาร รวมทั้งไฟแนนซ์ และอสังหาริมทรัพย์ เป็นผลมาจาก ความวิตกต่อปัจจัยลบภายในประเทศ คือ สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ การแพร่ระบาดของ โรคไข้หวัดนก รวมทั้งราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เมื่อวานนี้ดัชนีหุ้นไทยปิดลบ 10.67 จุด มาที่ 648.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 26,116.33 ล้านบาท ซึ่งเป็น มูลค่าการซื้อขายของหุ้น TOP จำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท
หุ้นที่ปรับตัวขึ้น 48 บริษัท ปรับตัวลง 256 บริษัท และไม่เปลี่ยนแปลง 63 บริษัท
กลุ่มที่ปรับตัวขึ้น คือ กลุ่มเครื่องมือ +2.29% กลุ่มเยื่อกระดาษ +1.54% กลุ่มคลัง สินค้า +1.54%
กลุ่มที่ปรับตัวลง คือ กลุ่มเหมืองแร่ ?3.42% กลุ่มการแพทย์ ?2.71% กลุ่มแบงก์ ? 2.33% กลุ่มขนส่ง ?2.27%
วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิจำนวน 1,115.16 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขาย สุทธิจำนวน 1,030.93 ล้านบาทตารางแสดงยอดการลงทุนของต่างชาติปี 2546 และ 2547
1. SYRUS : บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) (SYRUS) ขายหุ้น IPO จำนวน 60 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นละ 11 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 2 บาท จะเข้าทำการซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ วันนี้ (27 ต.ค.) เป็นวันแรกทุนจดทะเบียน470 ล้านบาท (235 ล้านหุ้น พาร์ 2บาท/หุ้น) หลังออก IPO จำนวนหุ้น IPO660 ล้านบาท (60 ล้านหุ้น) เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 54 ล้านหุ้น เป็น 22.98% และเสนอขายต่อกรรมการและพนักงาน 6 ล้านหุ้น เป็น 2.55% Under Writerบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยให้บริการทั้งด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาทาง การเงิน และการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPOนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ 12.7%, นายอนุชา สิหนาทกถากุล 12.1%, นาง สุพร วัธนเวคิน 11.6% โครงสร้างรายได้1. ค่านายหน้า2. ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ3. กำไรจากการซื้อขายหลัก ทรัพย์4. รายได้อื่นนโยบายเงินปันผลอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่บริษัทฯ ได้กำหนดไว้ผลประกอบการกำไรสุทธิปี 46 = 213.3 ล้าน บาท กำไรสุทธิไตรมาสที่ 1 ปี 47 = 77.7 ล้านบาทกำไรสุทธิไตรมาสที่ 2 ปี 47 = 38.8 ล้านบาท 2. วันนี้ติดตามการประกาศผลประกอบการ Q3/47 ของหุ้น SCC และคาดว่าจะมีผล ประกอบการที่ดีจากธุรกิจปิโตรเคมี และการขายเงินลงทุน ATC ที่จะบันทึกกำไรใน Q3/47 สำหรับราคาปิดวานนี้ 240 บาท โดยมีราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 47 อยู่ที่ 280 บาท
3. ในสัปดาห์นี้จะมีหุ้นที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการ Q3/47 ดังนี้ SSI (คาดว่าจะ ชะลอลงจาก Q2/47)
4. ครม. ไฟเขียวมาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนสังคม และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยถึง ปานกลาง และกิจการขนาดย่อม โดยมาตรการภาษีดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปประมาณ 8.2 พันล้านบาทต่อปี สำหรับมาตรการภาษีประกอบด้วย - การเพิ่มอัตราขั้นต่ำ สำหรับรายได้สุทธิของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดาเป็น 1 แสนบาท จากเดิม 8 หมื่นบาท - การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการวิสาหกิจขนาดย่อมที่มีทุน จดทะเบียนไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท เหลือ 15% จากเดิมเสีย 20% สำหรับกำไรสุทธิ 1 ล้านบาท แรก ส่วนกำไรตั้งแต่ 1-3 ล้านบาท ให้เก็บในอัตราเดิมที่ 25% และเกินกว่า 3 ล้านบาท เสียใน อัตรา 30% โดยมีผลสำหรับกำไรสุทธิที่เกิดในรอบบัญชี ซึ่งเริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค. 47 - เพิ่มหลักเกณฑ์ขั้นต่ำยอดขายของผู้เข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นยอด ขายมากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี จากเดิมที่ 1.2 ล้านบาทต่อปี เริ่มวันที่ 1 เม.ย.48 - ให้หักค่าลดหย่อนสำหรับผู้เลี้ยงดูบุพการีได้ 3 หมื่นบาทต่อปีต่อบิดา มารดา 1 คน จากมติ ครม.เดิมให้ลดหย่อนได้ 1.5 หมื่นบาทต่อปี ต่อบิดามารดา 1 คน นอกจากนี้ ครม. ยังให้ขยายระยะเวลาในการตรึงราคาสินค้าไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 48 ซึ่งจากเดิมที่มาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค. 47และครม. อนุมัติให้ บมจ.ปตท. (PTT) เข้าถือหุ้น 100% ในโรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 36% ซึ่งคาดว่า การดำเนินการปรับโครงการผู้ถือหุ้นจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย. นี้
5. TISCO ซึ่งเป็นเงินทุนขนาดใหญ่อันดับ 2 ของไทยเผยว่ากระทรวงการคลังเห็นชอบ ให้บริษัทจัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์ตามแบบการยื่นขอคำขออนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ต่อ ธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา 6. TPIPL ติดตามความคืบหน้าเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งใน วันพรุ่งนี้ 28 ต.ค.
7. นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ. กรุงไทย (KTB) ได้ยื่นฟ้องธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท. ต่อศาลปกครองแล้วเมื่อ ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 210 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ศาลปกครอง จะใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาว่าจะรับคำฟ้องหรือไม่
8. วันนี้กระทรวงพลังงานจะพิจารณาการใช้มาตรการขอความร่วมมือหรือออกกฎให้ปั๊ม น้ำมันในกรุงเทพและปริมณฑล ยกเลิกการขายน้ำมันเบนซิน 95 แล้วหันมาขายแก๊สโซฮอลแทน หรือไม่ ทั้งนี้จะใช้เอทานอลมาผสม 10% ในน้ำมันเบนซิน เพื่อผลิตเป็นแก๊สโซฮอลที่จะใช้เป็น เชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 โดยราคาขายปลีกแก๊สโซฮอลจะถูกกว่าลิตรละ 50 สตางค์
9. กระทรวงพาณิชย์เผยว่าเดือนกันยายนที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกเท่ากับ 8,668.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าการนำเข้าเท่ากับ 8,185.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยังคงเกินดุลการ ค้าอยู่ 483 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับมูลค่าการส่งออก 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.) เท่ากับ 71,417.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนมูลค่าการนำเข้า เท่ากับ 70,441.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 30.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ เกินดุลการค้าอยู่ 4,076.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
10. บมจ. พรพรหมเม็ททอล ได้กำหนดราคาขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 3.05 บาท จำนวน 40 ล้านหุ้น โดยกำหนดเปิดจองซื้อวันที่ 1-2 พ.ย. นี้ และคาดว่าจะนำ หุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ในวันที่ 11 พ.ย.
11. บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ไม่ เกิน 1 พันล้านบาทในเดือน ธ.ค. นี้ เพื่อใช้รีไฟแนนซ์และขยายธุรกิจในปีหน้า ซึ่งทางบริษัทมี แผนที่จะเปิดขายโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
12. ราคาน้ำมัน : เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดเหนือ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เท่ากับระดับปิดวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่อง จากราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องปริมาณ heating oil ที่ระดับต่ำก่อนที่ซีกโลก เหนือจะเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ธ.ค. บวกขึ้น 63 เซนต์ หรือ 1.2% มาปิดตลาดที่ 55.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้ แรงซื้อคืนและแรงซื้อทางเทคนิคเข้าหนุนก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งคาด ว่าปริมาณน้ำมันจะตึงตัวยิ่งขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ธ.ค. ที่ตลาด IPE ปรับตัวขึ้น 72 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 51.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
13. ค่าเงินบาท : เมื่อวานนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 41.00 หลังมีแรง ซื้อเงินบาทอย่างหนาแน่นในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ไม่ได้ส่งผล กระทบต่อเงินบาท โดยเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 41.00/03 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนช่วงบ่ายเงินบาท อ่อนค่าเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 41.04/06 บาทต่อดอลลาร์ สำหรับเช้าวันนี้เงินบาทเคลื่อน ไหวอยู่ที่ 41.03/05 บาทต่อดอลลาร์
14. ตลาดหุ้นภูมิภาค : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดบวกตลาดหุ้นปิด (+/-) จุด% (+/-)ปิด (จุด)สาเหตุ ญี่ปุ่น+13.31+0.12%10,672.46เนื่องจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มประกัน สิงคโปร์+3.97+0.20%1,957.41เนื่องจากได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้น เซมบ์คอร์ป ลอจิสติคส์ (เซมบ์ล็อค) สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์จากความหวังเกี่ยวกับการจ่าย เงินปันผล ฮ่องกง+34.25+0.27%12,852.35เนื่องจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ของจีน ได้ปรับขึ้นจากตัวเลขผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 3 เกาหลีใต้+5.56+0.69%813.70เนื่องจากราคาน้ำมันได้อ่อนตัวลง ทำให้นักลงทุน ผ่อนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของผลกำไรภาคเอกชน มาเลเซีย+0.60+0.07%851.55โดยหุ้นบลูชิพที่สำคัญปิดปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน ท่ากลางทิศทางตลาดที่ไม่ชัดเจนตารางดัชนีหุ้นต่างประเทศที่เปิดเช้านี้ตลาดหุ้นดัชนีปิด (26/10/47)ดัชนีเปิดเช้านี้ (27/10/47)+/- (จุด) ญี่ปุ่น10,672.4610,740.65+68.19 เกาหลีใต้813.70820.73+12.59ตลาดในระยะสั้นจะเคลื่อนไหวช่วง 645-654 จุด โดยมีแนวโน้มทางลดลงต่อเนื่องจาก เมื่อวานนี้ได้ ซึ่งปัจจัยที่กดดันตลาดในช่วงนี้จะเป็นเรื่องของการก่อการร้ายในภาคใต้ที่ปะทุขึ้นมา ใหม่ได้สร้างความไม่มั่นใจต่อตลาดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากความรุนแรงเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ทำให้ โอกาสที่ตลาดจะดีดขึ้นทดสอบแนว 670 จุด มีน้อย เราประเมินว่าตลาดจะมีน้ำหนักทางปรับตัว ลงมากกว่าขึ้น และราคาหุ้นจะลดลงได้อีก 10-20% ใน 2 สัปดาห์นี้ นอกจากนี้ความวิตกในราคา น้ำมันดิบโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงจะยังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่อีกระยะหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เรามองว่าโอกาสทางลดลงมีสูง จึงควรขาย short หุ้นกลุ่ม หลักออกไปก่อน และรอซื้อรอบใหม่ ซึ่งอาจเป็นสองสัปดาห์หน้าเป็นอย่างน้อย
| | เข้าชม: 1,142 |
|
